ลิขิตรัก ในกรงแค้น นิยาย บท 10

เย็นวันเดียวกันเป็นวันเกิดของมุกพี่สาวคนเดียวของม่านฟ้า แทนคุณกับทีภพมาร่วมงานนี้พร้อมกัน บ้านหลังใหญ่ถูกจัดตบแต่งด้วย ดอกไม้กับเค้กก้อนใหญ่กลางงาน มีเวทีให้สนุกกัน เสียงเพลงบรรเลงกันอย่างสนุกสนาน แขกที่ผู้เป็นพ่อเชิญมาร่วมงานก็ดูมากมายทีเดียว สาวผมยาวหุ่นงามผู้ซึ่งเป็นน้องสาวของเจ้าของงาน เดินออกมาต้อนรับแทนคุณกับทีภพด้วยรอยยิ้มที่สุดแสนจะเป็นมิตร หัวใจของเธอพองโตจนบอกไม่ถูกเมื่อได้เห็นใบหน้าอันงดงามของชายหนุ่ม

“วันนี้ คุณต้องทำตามสัญญานะคะ ที่บอกว่าจะช่วยม่าน” สาวสวยในชุดเดรสสีขาวยาวจรดเข่า ศีรษะตบแต่งด้วยมงกุฎดอกไม้ เดินเข้ามากระซิบ ถึงแม้เธอจะใส่ส้นสูง หากเมื่อยืนเทียบกับเขา เจ้าตัวนั้นก็ยังดูเหมือนนกตัวน้อยที่น่าทะนุถนอมอยู่ดี เธอเดินเข้ามาควงแทนคุณออกจากทีภพเข้างานไป ก่อนจะหันหน้าเรียวเล็กไปเยาะเย้ยทีภพอย่างหญิงเจ้าเล่ห์ ครั้งนี้เธอชนะเขาเพราะทำให้ทีภพกลายเป็นคนที่เดินตามหลังเธอกับแทนคุณ เสมือนคนขับรถไม่มีผิด ทีภพได้แต่ขมึงตาใส่ม่านฟ้าก่อนหันไปแอบยิ้มกับความเจ้าเล่ห์ของเธอ สายตาเกือบทุกสายตาในงานต่างจับจ้องเธอกับเขา แสงแฟลชที่หลายต่อหลายคนประทับใจพยายามรัวภาพเพื่อเก็บไว้เป็นความทรงจำประดังเข้าหา ม่านฟ้าพาแทนคุณและทีภพเดินเข้าไปพบกับพ่อของเธอ มุกซึ่งเป็นเจ้าของวันเกิดยืนอยู่ไม่หากจากดนัยเท่าไหร่นัก เป็นผู้สังเกตการณ์อย่างเงียบๆ

“พ่อคะ” เธอเรียกผู้เป็นพ่อที่ยืนคุยกับแขกผู้ใหญ่หลายคน ชายที่ดูมีอายุหันกลับมาพบว่าลูกสาวตัวดี พาหนุ่มหน้าตาคุ้นเคยเข้ามาหา ม่านฟ้ามองผู้เป็นบิดาด้วยรอยยิ้มที่ซ่อนความไม่มั่นใจเอาไว้ เธอรู้ตัวว่ากำลังทำให้ดนัยตกอยู่ในสภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก

“อ้าว แทน ที” ชายชราต้องรีบปั้นหน้าเพราะถูกจับตามองจากหลายคน เสียงเพลงในงานยังคงดังเป็นจังหวะแต่ไม่รบกวนการสนทนามากเท่าไหร่นัก

“สวัสดีครับ” แทนคุณและทีภพกล่าวทักพร้อมยกมือไหว้

“ตามสบายนะ พ่อขอตัวคุยกับม่านฟ้าเดี๋ยวเดียว” พูดเสร็จผู้เป็นพ่อดึงมือม่านฟ้าออกมาจากวงสนทนาอย่างระมัดระวัง ส่งยิ้มให้ทุกคนในงานเพื่อไม่ให้เป็นที่สงสัย เขาพาลูกสาวคนงามเดินเข้ามาในมุม มุมหนึ่งของงาน สองมือจับไหล่ทั้งสองข้างของเธอแน่น ชายชราหัวเสียจนอยากจะทำโทษลูกสาวเสียตรงนั้น เขาพยายามเก็บอารมณ์ตัวเองเอาไว้จนมือไม้สั่นเทา

“ลูกกำลังทำอะไร นี่เธอกำลังเล่นอะไรกับพ่อ” เสียงชายสูงอายุเค้นถามอย่างไม่พอใจ เพราะเข้าใจว่าลูกสาวกำลังจะฉีกหน้าเขากลางงานเลี้ยง ซึ่งมีนายกฤษณะเป็นผู้ที่เขาทาบทามเอาไว้ และหวังเป็นอย่างมากว่างานนี้จะเป็นสะพานให้ม่านฟ้ากับนายกฤษณะทำความรู้จักกันอย่างเป็นทางการ อีกทั้งยังเชิญแขกผู้ใหญ่มากมายเข้ามาร่วมงาน เพื่อเปิดตัวลูกสาวคนเล็กโดยเฉพาะ การที่เธอเดินเข้ามาพร้อมควงชายหนุ่มแปลกหน้า นั่นหมายความว่าเธอไร้ซึ่งความโสดอีกต่อไป เป็นการฉีกหน้าเขาอย่างร้ายแรง

“พ่อล่ะคะ กำลังจะทำอะไร พ่ออย่าคิดว่าม่านไม่รู้นะคะ ว่างานวันนี้นอกจากจะเป็นงานวันเกิดพี่มุก มันยังเป็นงานที่พ่อพยายามหาคนมาดูตัวลูกตัวเอง พ่อเห็นหนูเป็นอะไรคะ” ม่านฟ้าตอบตามความรู้สึกของตนเอง แม้ไม่อยากมีปัญหากับบิดาแต่เธอยังยืนยันชัดเจนกับความรู้สึกตัวเอง

“พ่อบอกลูกแล้ว คุณฤกษณะเขาพร้อมทุกอย่าง พร้อมทันทีที่เราตกลงจะแต่งกับเขา”

“แล้วความรักล่ะคะ พ่อจะให้ม่านอยู่กับคนที่ไม่ได้รัก แต่อยู่ด้วยกันเพราะผลประโยชน์ แค่นั้นจริงๆ หรือคะ ม่านไม่ใช่พี่มุกนะคะ ที่จะยอมพ่อทุกๆ อย่าง” น้ำตาของความผิดหวังปริ่มใกล้ล้นออกมาเต็มที เมื่อนึกถึงพี่สาวที่ถูกคลุมถุงชนไปเมื่อหลายปีก่อน เธออดคิดไม่ได้ว่า ผู้เป็นบิดาเห็นผลประโยชน์ของตนมากว่าความสุขของลูกสาว

“พ่อให้เวลาลูกมาตลอดนะม่าน แต่ลูกลองถามตัวเอง ลูกรอแทนคุณมานานเท่าไหร่ พ่อไม่เคยรังเกียจเขา แต่ธุรกิจเราต้องเดินต่อ ธุรกิจทุกอย่างต้องมีคอนเนคชั่น จะให้พ่อนั่งรอไปถึงเมื่อไหร่” คนชราพยายามอธิบาย พร้อมกับน้ำเสียงที่อ่อนลง

“ไม่ต้องรอแล้วค่ะ พ่อไม่ต้องรอ วันนี้แทนคุณคือคนที่ม่านกำลังคบอยู่ เขาตกลงคบกับม่านแล้ว” เธอกล่าวขึ้นทันทีหลังจากบิดาเธอพูดไม่ทันจบ น้ำตาที่ปริ่มมันไหลออกมาจนหมด คำพูดเสียดแทงของพ่อตัวเอง มันจริงเสียยิ่งกว่าจริงเธอรอเขามาหลายต่อหลายปี เธอเองยังไม่เข้าใจว่าทำไมต้องรอแม้แต่คำตอบที่เธอตอบพ่อของเธอ เขาเองยังเป็นคนบอกว่า “แกล้งเป็นแฟน” แกล้งเป็นแฟนงั้นหรือ ตลอดเวลาที่ผ่านมา นอกจากคำว่าเพื่อนแล้ว เธอก็เป็นได้เท่านั้นจริงๆ

“รีบเช็ดน้ำตา แล้วเข้างานซะ” ชายสูงอายุถอนหายใจ ก่อนก้าวเท้าหันเข้างาน เขาพยายามเก็บอารมณ์ไม่ให้ปะทุออกมาเมื่อเด็กดื้ออย่างเธอก่อปัญหาใหญ่ในวันนี้ ทำให้เขาต้องเสียหน้า เสียคำพูดอย่างน่าอับอาย ปล่อยให้ลูกสาวจัดการน้ำตาของตัวเองโดยไม่หันมามอง หลังจากชายสูงอายุให้หลังไปได้เพียงคู่เดียว เสียงฝีเท้าปริศนาค่อยๆ เก้าออกมาอย่างช้าๆ

“ม่าน” แทนคุณเดินออกมาจากมุม เขาได้ยินทุกอย่างที่เธอกับบิดาสนทนากัน ชายหนุ่มเดินเข้ามาหาร่างน้อยๆ ที่ยืนเช็ดน้ำตาตัวเอง มือเรียวเล็กที่พยายามปัดน้ำตาแต่ดูเหมือนจะไม่เรียบร้อยเท่าไหร่นัก เขาค่อยๆ จับใบหน้าของม่านฟ้าเงยขึ้น เพื่อที่จะได้เห็นชัดเจน น้ำตาเลอะไปทั้งใบหน้า แม้เครื่องสำอางจะเลือนไปบ้าง แต่ความงามยังดูเด่นชัดเช่นเคย

“ไม่เป็นไรนะ” ชายหนุ่มหยิบผ้าเช็ดหน้าที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อ ออกมาซับคราบน้ำตาให้เธอ ร่างสูงโปร่งจับเธอโอบกอด เขาพยายามปลอบเพื่อให้เธอสบายใจ น้ำตาของม่านฟ้าทำให้ผู้ชายอย่างเขามือสั่นได้เหมือนกัน แทนคุณปลอบประโลมเธอได้ครู่ใหญ่เมื่อเห็นว่าหญิงสาวสบายใจขึ้น ทั้งสองพากันออกมาที่หน้างานคนจำนวนมากสนุกสนาน มุกยืนอยู่บริเวณหน้าเค้กก้อนใหญ่ที่จัดไว้เธอเฝ้ามองดูน้องสาวด้วยสายตาแห่งความยินดีที่ม่านฟ้ารอดพ้นจากการคลุมถุงชนได้ในวันนี้ มันอาจจะเป็นเรื่องตลกของหลายครอบครัวที่สมัยนี้ยังมีการคลุมถุงชนกันอยู่ แต่สำหรับครอบครัวเธอแล้วธุรกิจเป็นเรื่องสำคัญสำหรับดนัยบิดาของเธอ โอกาสทางธุรกิจ ความน่าเชื่อถือ ทุกอย่างล้วนแล้วแต่ต้องมีพันธมิตรที่ไว้ใจได้ แสง สี ดนตรี ทำให้แขกในงานดูพอใจไม่น้อยแทนคุณเดินคู่อยู่กับม่านฟ้าตลอดทั้งงาน เขาไม่ปล่อยให้เธอได้เดินคนเดียวด้วยกลัวบิดาของเธอจะผิดสังเกต

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลิขิตรัก ในกรงแค้น