มหาเทพ แห่ง สงคราม นิยาย บท 999

“เขาพูดถูก! คุณต้องพิสูจน์และบอกเรามากกว่านี้ ถ้าหากคุณอยากได้เงินจากเราในการประมูลครั้งนี้!”

นายน้อยอีกคนพูดออกมาด้วยน้ำเสียงประชดประชัน “ที่ผมมาวันนี้ก็เพื่อมาดูอะไรใหม่ ๆ ผมเป็นนายน้อยของตระกูลที่มีชื่อเสียง ผมยังมีเรื่องสำคัญอื่นต้องทำอีก รู้ไหม? และในงานประมูลวันนี้ก็มีเพียงรายการเดียว คือ เกล็ดมังกร ผมมาที่นี่เพื่อมัน ดังนั้นคุณอย่าทำให้ผมผิดหวังเลย!”

“นายน้อยคนนี้พูดถูก! ฮ่าฮ่า! เราจะไม่ทำให้เงินของคุณสูญเปล่าแน่นอน! มันจะคุ้มค่า!”

ชายชราชาวอเมริกันที่อยู่บนเวทีหัวเราะออกมาเสียงดังกับความคิดเห็นของนายน้อย “ฉันเชื่อว่านี่ไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับทุกคน ที่ทุกคนมักจะแสวงหาและพยายามปรับปรุงความสามารถในการต่อสู้ของตัวเอง ทุกคนปรารถนาที่จะเป็นปรมาจารย์ด้านการต่อสู้ หรืออยากเป็นแม้กระทั่งปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ในการต่อสู้แห่งยุค! นักสู้ที่แข็งแกร่งอย่างแท้จริงได้เรียนรู้เทคนิคการเพิ่มพลังและด้วยความรู้ของเทคนิคการเพิ่มพลังนั้นก็จะทำให้กลายเป็นนักสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดได้”

ทุกคนพยักหน้าหลังจากที่ได้ฟังคำพูดของชายชรา ในฐานะประชากรของเมืองแห่งศิลปะการต่อสู้ พวกเขาเข้าใจเรื่องนี้ดี

ชายชราอ้าปากอีกครั้งและพูดคำอย่างช้า ๆ ว่า “และมีเพียงนักสู้ที่แข็งแกร่งเท่านั้นที่สามารถควบคุมฉีภายในร่างกายและปล่อยมันออกมาเพื่อใช้โจมตีได้ นักสู้ที่แข็งแกร่งเช่นนั้นหาได้ยาก และเราจะมองว่าพวกเขาเป็นคนที่ก้าวข้ามผ่านศิลปะการต่อสู้ระดับปรมาจารย์ขั้นสูงสุด โดยทั่วไปแล้วคนที่ก้าวข้ามผ่านขั้นนั้นได้ถือว่าเป็นกึ่งเทพ! เพราะพวกเขาจะสามารถเหาะบนฟ้าได้!”

ตอนนั้นเอง ก็มีชายชราคนหนึ่งในผู้ร่วมงานลุกขึ้นจากเก้าอี้และหัวเราะเยาะออกมา “ทำไมคุณเพิ่งมาบอกเราเรื่องนี้? ใครจะไปรู้เรื่องล่ะ! โดยปกติแล้ว นักสู้ชั้นสูงในตระกูลของเรานั้นก็เทียบได้กับพันตรีและจอมพลในกองทัพ และผู้อาวุโสก็เปรียบได้กับราชาและราชินีสงคราม และเก้าเทพสงคราม ฮ่า ๆ พวกเขาก็เป็นกึ่งเทพ! ข้าพูดถูกไหม?”

“ที่พูดมาก็เกือบถูก พวกเขาเหล่านั้นถูกเรียกว่าเทพสงครามแห่งแคธทีเซีย แต่ในแง่ของความสามารถในการต่อสู้ พวกเขาเหล่านั้นเกือบจะอยู่ในระดับกึ่งเทพ!”

“มีนักสู้ระดับกึ่งเทพในเมืองศิลปะการต่อสู้อยู่บ้าง แต่พวกเขาหาตัวได้ยาก ส่วนใหญ่จะเป็นนักสู้ระดับราชาสงครามเสียมากกว่า!”

ชายชราบนเวทีพยักหน้าเห็นด้วย จากนั้นเขาก็หันหน้ามาทางผู้คนที่มาร่วมงานและถามออกไปว่า “แล้วพวกคุณรู้ไหมว่าระดับที่อยู่สูงกว่าระดับกึ่งเทพคืออะไร?”

ความสับสนและมึนงงปรากฏขึ้นบนใบหน้าของผู้ฟัง

“อืม ไม่แน่ใจเหมือนกัน!”

ชายชราบนเวทีหัวเราะออกมาเสียงดัง “มีคนน้อยมากที่จะฝึกถึงระดับเทพแท้จริง และฉันคิดว่าพวกคุณส่วนใหญ่คงไม่รู้หรอกว่าในโลกนี้ยังมีตระกูลที่แข็งแกร่งและทรงพลังซ่อนเร้นอยู่อีกมากมาย พวกเขาอาศัยอยู่ในหุบเขาลึกและห่างไกลจากผู้คน นักสู้ระดับเทพแท้จริงส่วนใหญ่ก็มักจะซ่อนตัวอยู่ในตระกูลพวกนี้ และตระกูลที่ลึกลับพวกนี้จะไม่ค่อยออกมาพบปะผู้คนอย่างพวกเราหรือเข้ามายุ่งเกี่ยวกับชีวิตของคนธรรมดา”

ชายชราหยุดไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดต่อว่า “ถ้าฉันเดาถูก ท่านนักรบสูงสุดของแคทธีเซียยังฝึกไม่ถึงระดับเทพแท้จริง เขาอยู่ในจุดสูงสุดของระดับกึ่งเทพแล้วและกำลังจะก้าวข้ามผ่านไปสู่ระดับเทพแท้จริง เกล็ดมังกรชิ้นนี้เป็นสิ่งที่หลุดออกมาจากร่างกายเขา!”

มุมปากของเฟนด์กระตุกเบา ๆ เมื่อได้ยินคำพูดของชายชรา สีหน้าของเขาก็ดูไม่พอใจนัก

ดวงตาของเฟนด์เคร่งขรึมและมืดมนในเวลาเดียวกัน ชายชราคนนี้เป็นใคร? รู้เรื่องของเขามากขนาดนี้ได้ยังไง? และยังเดาถูกเรื่องระดับความสามารถในการต่อสู้ของเขาอีก เฟนด์พยายามข้ามระดับกึ่งเทพมาหลายครั้งแล้ว แต่น่าเสียดายที่เขาก็ไม่ยังสามารถเข้าสู่ระดับเทพแท้จริงได้สักที

เขาคิดว่าเกล็ดมังกรที่หลุดออกไปนั้นเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาไม่สามารถข้ามขั้นไปได้!