มหัศจรรย์ เป็นคุณชาย ชั่วข้ามคืน นิยาย บท 1279

หลังจากที่เดินไปได้สักพัก ทั้งคู่ก็มาถึงห้องส่วนตัวที่คุณหมอแมบบ์พูดถึง เมื่อก้าวเข้าไปข้างใน ทั้งสองก็เห็นอาจารย์นาโคลนั่งขัดสมาธิ และหลับตาอยู่ข้างกระถางธูป ดูเหมือนเขากำลังทำสมาธิอยู่

เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าของเจอรัลด์และเจซ อาจารย์นาโคลก็ลืมตาก่อนจะพูดจาทักทาย “คุณมาแล้ว คุณคลอฟอร์ด!”

เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เจอรัลด์จึงรีบทักทายเขาตอบ ก่อนจะมุ่งเข้าประเด็นทันที เจซเองก็ได้อธิบายคร่าว ๆ ให้เขาฟังแล้วว่า วันนี้เจอรัลด์มาที่นี่เพื่ออะไร จากสิ่งที่อาจารย์นาโคลเข้าใจ เจอรัลด์อยากจะหาข้อมูลว่าเมืองโบราณอยู่ที่ไหนกันแน่

อาจารย์นาโคลยินดีที่จะให้เจอรัลด์เข้าพบ เพราะไม่เพียงแต่เจอรัลด์ได้บริจาคเงินจำนวนมหาศาลให้กับกองทุนเพื่อการกุศลจากการประชุมของเขาในครั้งนี้เท่านั้น แต่เขายังเคยได้ยินจากเจซว่า เจอรัลด์เป็นคนที่ช่วยชีวิตเด็กทารกทั้งหมดเอาไว้อีกด้วย! ด้วยเหตุนี้ อาจารย์นาโคลจึงรู้สึกเคารพนับถือในตัวเจอรัลด์เป็นอย่างมาก

“มันเป็นเรื่องจริงที่ผมรู้ว่าเมืองโบราณอยู่ที่ไหน อันที่จริงแล้ว ครั้งหนึ่งผมเคยไปที่นั่นกับอาจารย์ของผม แต่น่าเสียดาย ที่ตอนนี้เขาไม่อยู่แล้ว ถึงกระนั้น ประสบการณ์ของผมในตอนนั้นก็ยังฝังลึกอยู่ในใจของผมมาจนถึงทุกวันนี้!” อาจารย์นาโคลกล่าว ในขณะที่เขายกชาขึ้นมาจิบเล็กน้อย การแสดงออกของเขาในขณะที่กำลังระลึกถึงอดีต สามารถบ่งบอกได้ว่า ความทรงจำนั้นน่าตื่นเต้นมากแค่ไหน

หลังจากนั้น เขาก็มองเจอรัลด์ด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะถามว่า “ผมสงสัยว่าคุณสนใจจะฟังเรื่องราวของผมหรือไม่ คุณคลอฟอร์ด?”

“แน่นอนอยู่แล้วครับ แบ่งปันเรื่องราวของคุณมาได้เลย อาจารย์นาโคล!” เจอรัลด์ตอบพร้อมกับพยักหน้า

เมื่อได้ยินเช่นนั้น อาจารย์นาโคลจึงเริ่มเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสี่สิบปีก่อน...

ในเวลานั้น นาโคลในวัย 20 ปีได้ออกติดตามอาจารย์ของเขา ซึ่งมีนามว่าอาจารย์บารอน ซิลท์ ไปยังเมืองโบราณแห่งหนึ่ง หลังจากที่ได้รับคำเชิญจากครอบครัวลึกลับให้ไปช่วยเปิดทางให้ผู้มีพระคุณของครอบครัวคนหนึ่ง ซึ่งกำลังมีความทุกข์ที่หนักอึ้งอยู่ในใจได้เห็นแสงสว่าง

เมืองโบราณเป็นเมืองเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ภายในภูเขาลึกลับ และผู้คนที่อาศัยอยู่ในนั้นได้ถูกตัดขาดจากโลกภายนอกมาหลายชั่วอายุคน จนไม่มีใครกล้าไปที่นั่น เพื่อสร้างปัญหาใด ๆ หลังจากดำรงอยู่มานับพันปี เมืองนี้เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยความลับ และความลึกลับอย่างไม่รู้จบ

แม้แต่ในสมัยโบราณ มีคนเพียงไม่กี่คนที่รู้จักเมืองนี้ และยังมีน้อยคนที่สามารถติดต่อสื่อสารกับผู้คนที่อาศัยอยู่ในเมืองได้ ท่านอาจารย์ของอาจารย์นาโคลก็เป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่บังเอิญโชคดีที่ได้รู้เรื่องราวเหล่านี้

อย่างไรก็ตาม เมื่อมาถึงเชิงเขา ทั้งคู่ก็พบกับชายหนุ่มคนหนึ่ง ซึ่งกำลังจะฆ่าชายหนุ่มและหญิงสาวจำนวนสิบคน!

พวกเขามารู้ในภายหลังว่า ชายผู้โหดเหี้ยมคนนั้นพยายามบีบบังคับให้พวกกันเทอร์แสดงตัวออกมาหลายต่อหลายครั้ง ไม่ว่าเขาจะต้องทำเรื่องเลวทรามแค่ไหนก็ตาม อันที่จริง เขาได้สังหารผู้คนจากหมู่บ้านใกล้เคียงไปแล้วหลายศพ เนื่องจากพวกกันเทอร์ไม่ยอมออกมาพบเขา จากข้อเท็จจริงนั้นเพียงอย่างเดียว ก็เห็นได้ชัดแล้วว่า เขาเป็นคนมีฝีมือเรื่องการวางแผนมากเพียงใด

เมื่อย้อนกลับไปตอนที่พวกเขาเห็นชายคนนั้นครั้งแรก อาจารย์ของนาโคลสามารถหยุดยั้งไม่ให้เขาฆ่าคนเหล่านั้นได้อย่างทันท่วงที อย่างไรก็ตาม ชายผู้โหดเหี้ยมก็เป็นคนที่มีฝึมือค่อนข้างเก่งกาจ และอาจารย์ของเขาก็ได้ใช้เวลาต่อสู้กับเขาตลอดทั้งวันทั้งคืน ก่อนที่จะปราบชายคนนั้นได้ในที่สุด

เมื่อรู้ว่าเขาเคยฆ่าคนไปแล้วมากมาย อาจารย์ของนาโคลเลยตั้งใจที่จะฆ่าเขา เพื่อให้เขาได้ชดใช้ในการกระทำของตัวเอง

อย่างไรก็ตาม ชายหนุ่มได้ขอร้องให้อาจารย์ของนาโคลไว้ชีวิตเขา โดยบอกว่าเขาไม่มีทางเลือก และที่เขาต้องทำทั้งหมดนี้ลงไป ก็เพราะว่าเขาต้องการจะแก้แค้น

หลังจากที่เขาอ้อนวอนอย่างต่อเนื่อง ในที่สุดอาจารย์ของนาโคลก็เริ่มใจอ่อน จากนั้นเขาสัญญาว่าจะไว้ชีวิตชายผู้โหดร้ายในตอนนั้น โดยสั่งให้เขาติดตามอาจารย์และนาโคลขึ้นไปบนภูเขาแทน

ในเวลานั้น พวกเขาคิดเพียงว่า หากพวกเขาติดต่อกับพวกกันเทอร์ได้แล้ว พวกเขาก็จะสามารถรู้ความจริงที่อยู่เบื้องหลังเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ได้ หากจะให้พูดตามตรง อาจารย์ของนาโคลคงจะตัดสินใจจบชีวิตของชายหนุ่มคนนั้นไปแล้ว หากเขาเป็นคนชั่วร้ายจริง ๆ

หลังจากที่กล่าวขอบคุณอาจารย์ของเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า ชายหนุ่มก็ให้สัญญาว่าจะสร้างอารามอันงดงามให้กับเขา แต่ถึงแม้เขาจะดูร่ำรวยมหาศาล อาจารย์ของนาโคลก็ยังปฏิเสธข้อเสนอนั้นอยู่ดี

พวกเขาเดินทางไปตามถนนเรื่อย ๆ จนในที่สุด ทั้งสามคนก็ไปถึงเมืองโบราณ

“เขาคงจะไม่ได้แอบวางแผนที่จะหักหลังอาจารย์ของคุณ เพียงเพื่อจะได้เข้าไปในเมืองโบราณหรอกใช่ไหม…?” เจอรัลด์ถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น

“วางแผนเหรอ? เขาหลอกเราจนสิ้นท่าเลยต่างหาก และนั่นคือสิ่งที่เขาทำ!” อาจารย์นาโคลตอบด้วยรอยยิ้มอันขมขื่น ในขณะที่เขาส่ายหัว

ปรากฎว่าชายหนุ่มคนนั้นแข็งแกร่งมาก เขาแข็งแกร่งกว่าอาจารย์ของนาโคลเลยด้วยซ้ำ! อย่างไรก็ตาม เขายังมีความสามารถในการปิดบังความแข็งแกร่งของตัวเองได้อย่างแนบเนียน และนั่นก็เป็นเหตุผลว่า ทำไมอาจารย์ของนาโคลจึงคิดว่าเขาจะสามารถจัดการกับชายคนนั้นได้ หากเขาแสดงท่าทีที่มีพิรุธออกมา

ชายหนุ่มคนนั้นยังดูออกอีกว่า ทั้งเขาและอาจารย์กำลังมุ่งหน้าไปพบกับพวกกันเทอร์ เพราะได้รับคำเชิญจากครอบครัวนั้น ด้วยเหตุนี้ เขาจึงตั้งใจทำเป็นยอมแพ้ให้กับอาจารย์ของนาโคลในตอนแรก เพียงเพื่อที่เขาจะได้ร้องขอความเมตตาจากอาจารย์ของเขาได้

ที่เขาทำทั้งหมดนี้ ก็เพราะว่าเขาไม่สามารถเข้าใกล้พวกกันเทอร์ได้เลย แม้ว่าเขาจะแข็งแกร่งแค่ไหนก็ตาม

ในขณะที่พวกเขาเดินทางไปถึงเมืองโบราณก็เป็นเวลาค่ำมืดแล้ว หลังจากที่เดินไปรอบเมืองสักพัก ชายหนุ่มก็เผยธาตุแท้ของตัวเองออกมา และเริ่มทำการสังหารพวกกันเทอร์ที่เขาพบเห็นที่นั่นทันที!

และแน่นอนว่า เมื่ออาจารย์ของนาโคลเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขาก็พยายามจะปราบชายหนุ่มอีกครั้ง! อนิจจา อาจารย์ของเขากลับไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่เหมาะสมกับชายหนุ่มคนนั้นเลย…