“ได้โปรดเถอะ ฉันรู้ว่าทำไมเธอถึงอยากไปที่นั่นมากขนาดนี้… ฉันรู้ว่าย่าทวดจับเพื่อนสองคนของเจอรัลด์มาขังไว้ที่นั่น เธอแค่ต้องการระบายความโกรธด้วยการทำร้ายพวกเขาใช่ไหม?” ยูเมะพูดโดยไม่ต้องคิดซ้ำสอง เพราะเธอเป็นคนที่เข้าใจถึงนิสัยใจคอของเฟลตันมากที่สุดในบรรดาทุกคน
“พูดบ้าอะไรน่ะ! ฉันกำลังพยายามจะช่วยพวกเขา และพาพวกเขาไปยังที่ปลอดภัยต่างหากล่ะ!” เฟลตันตอบโต้
“…อะไรคือแรงจูงใจให้เธอคิดที่จะทำแบบนั้น…?”
“ก็ดูสิ เจอรัลด์ฝังพิษที่ร้ายแรงไว้ในร่างกายของฉัน ถ้าฉันไม่ช่วยเพื่อนของเขา เขาจะฆ่าฉัน! เหตุผลนั้นดีพอสำหรับเธอหรือยัง?!” เฟลตันตอบ น้ำเสียงของเขาแฝงไปด้วยความกลัว
“… อย่างนี้นี่เอง! ไม่น่าแปลกใจเลยที่นิสัยใจคอของเธอดูเปลี่ยนไปมากตั้งแต่เธอกลับมา! ดีมาก! ในเมื่อมีเพียงคุณย่าทวดกับฉันเท่านั้นที่มีกุญแจสู่คุกใต้ดิน ฉันจะเป็นคนพาเธอไปที่นั่นเอง!” ยูเมะพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูเต็มใจ เพราะในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา ยูเมะเองก็ได้ใช้สมองคิดอย่างหนักว่าเธอจะช่วยปลดปล่อยเพื่อน ๆ ของเจอรัลด์ออกจากที่นี่ได้อย่างไร
วินาทีที่ยูเมะและเฟลตันเดินผ่านประตูหลักของคุกใต้ดินไป พวกเขาก็ได้รับการต้อนรับทันทีด้วยเสียงตะโกนของผู้คนอย่างต่อเนื่อง เพราะยังมีผู้คนอีกมากมายที่ถูกจับมาคุมขังเอาไว้ที่นั่น ถึงกระนั้น พวกเขาก็ยังไม่ใช่คนที่ทั้งคู่ตามหา ดังนั้นพวกเขาจึงเดินต่อไปจนถึงห้องขังห้องสุดท้ายในที่สุด
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่พวกเขาจะเข้าใกล้ประตูบานนั้น ทั้งคู่ก็ได้ยินเอเดนสบถทุกคำด่าทอที่มีอยู่ในโลกนี้ออกมา
“คนเลว! นังแม่มดแก่ชั่วร้าย นั่นคือสิ่งที่แกเป็น! รีบปล่อยพวกเราออกไป ก่อนที่ฉันจะสาปแช่งทั้งพวกแกตระกูล…!”
หลังจากที่ยูเมะเปิดประตูด้วยใบหน้าที่ดูแดงก่ำเล็กน้อยจากคำด่าทอของเขา ทั้งเธอและเจอรัลด์ก็ได้รับการต้อนรับทันทีด้วยสายตาของเอเดนและเชสเตอร์ที่ถูกล่ามโซ่เอาไว้ ลำตัวของพวกเขาถูกมัดอย่างแน่นหนาเป็นพิเศษ และทั้งคู่มีลูกปัดสีฟ้าแวววาวห้อยอยู่ที่หน้าอกของพวกเขา
"เธอต้องการอะไร? ถ้ากล้าพอ ก็มาจัดการฉันซะ! พูดตามตรงเลยนะ ฉันอยากรู้จริง ๆ ว่าตอนนั้นฉันคิดอะไรอยู่ถึงอยากมาฝึกทดสอบกับครอบครัวของเธอ? ไม่คิดเลยว่าครั้งหนึ่งฉันเคยมองว่าพวกกันเทอร์นั้นเป็นคนดี… ฉันช่างตาบอดเสียจริง! อย่าให้ฉันต้องเอ่ยถึงคำสัญญาที่โกหกหลอกลวงของพวกเธอเลยนะ! พวกเธอสัญญากับเราว่าจะจัดอาหารให้เราทานอย่างน้อยสามมื้อต่อวัน ตอนที่พวกเธอจับเรามาไว้ในนี้วันแรก! แม้ว่ามันจะเป็นจริงตามนั้นในช่วงแรก แต่ในไม่ช้ามันก็ลดลงเหลือสองมื้อ แล้วก็เหลือแค่หนึ่งมื้อในที่สุด... แล้วรู้ไหม ว่าเราไม่ได้กินอะไรเลยในช่วงสองวันที่ผ่านมา?! ถ้าอยากให้พวกเราตายมาก ก็ฆ่าพวกเราซะ! เราทนทุกข์ทรมานมามากพอแล้ว! แต่เมื่อเราตายไปแล้ว เราก็แค่หวังว่านายท่านของเราจะล้างแค้นให้เราด้วย…!”
“เลิกพูดจาหยาบคายได้แล้วนะ! ฉันยอมรับว่าฉันมองข้ามเรื่องมื้ออาหารของพวกคุณ! ก็แค่ยุ่ง ๆ กับเรื่องบางเรื่องในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา! ด้วยเหตุนี้ ฉันยอมรับว่าฉันลืมสั่งอาหารที่จะส่งไปให้พวกคุณ! ฉันขอโทษจริง ๆ ที่ทำให้พวกคุณต้องอดอยากในช่วงสองวันที่ผ่านมา แต่รู้ไว้เถอะว่า ฉันจะหาอาหารอย่างดีให้พวกคุณทานอย่างแน่นอน!” ยูเมะตอบ แม้ว่าเธอจะไม่ชอบเวลาที่เอเดนสบถใส่เธอด้วยความโกรธ แต่เธอก็ต้องยอมรับว่าเธอรู้สึกผิดเล็กน้อยที่ทำกับพวกเขาแบบนั้น
“เลิกโวยวายได้แล้ว! วันนี้เรามาเพื่อปลดปล่อยพวกนายออกไป รู้หรือเปล่า? เมื่อพวกนายเป็นอิสระ นายอยากจะกินเท่าไหร่ก็ได้! รีบออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้ แล้วจำเอาไว้ว่าอย่าโผล่หน้ามาที่เคอร์ตันอีก!” เฟลตันป่าวประกาศ
หลังจากนั้น ยูเมะก็หันไปมองทั้งเอเดนและเชสเตอร์ก่อนจะพยักให้พวกเขาอย่างจริงจัง
วินาทีที่ผู้คุมที่ยืนอยู่ด้านข้างตลอดเวลาได้ยินสิ่งที่พวกเขาพูดคุยกัน เขาก็ส่ายหัวอย่างรวดเร็ว ก่อนจะพูดว่า “ห ห๊ะ…? นายน้อยเฟลตัน?! คุณจะปล่อยให้พวกเขาเป็นอิสระเหรอครับ? ไม่มีทาง!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหัศจรรย์ เป็นคุณชาย ชั่วข้ามคืน