อ่านสรุป ตอนที่ 11 ฉากใหญ่ จาก moneybags พ่อฉันเป็นเจ้าสัว โดย Light-Knight
บทที่ ตอนที่ 11 ฉากใหญ่ คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายใช้ชีวิต moneybags พ่อฉันเป็นเจ้าสัว ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Light-Knight อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
ตอนที่ 11 ฉากใหญ่
แม้ว่าคำพูดนี้หรรษาจะพูดกับเพลงพิณ แต่สายตากลับชำเลืองมองผ่านไปที่จักรชัยที่อยู่ด้านข้างบ่อยๆ ไม่ปิดบังความดูถูกเหยียดหยามเอาไว้สักนิด
เพลงพิณยื่นมือมาดึงหรรษาเอาไว้ ไม่ว่าจะพูดอย่างไร จักรชัยก็เป็นเพื่อนของพี่ชายเธอ คำพูดพวกนี้ถ้าพูดกันส่วนตัวก็ไม่เป็นไรหรอก ทำไมต้องพูดต่อหน้าเขาทำให้เธอลำบากใจด้วย
“เธออย่าดึงฉัน ฉันไม่ได้พูดผิดเสียหน่อย แค่สมองไม่มีปัญหา ก็ต้องชอบคนหล่อรวยกันทั้งนั้นแหละ ถ้าไม่ใช่เพราะเธอดึงฉันมา ฉันจะมานั่งอยู่ในห้องเดียวกับพวกขี้แพ้พวกนี้ได้อย่างไร ลดตัวลงจริงๆ”
แต่เดิมจักรชัยก็ไม่อยากจะคิดเล็กคิดน้อยกับผู้หญิงอย่างนี้ พูดถึงเขาก็เท่านั้นแหละ ตอนนี้พูดถึงคนทั้งห้องเข้าแล้ว เขาก็ไม่ได้ใจกว้างขนาดนั้นน่ะสิ
ลุกขึ้นยืนจากที่นั่ง ปิดเพลงทันที มองไปที่หรรษาที่ยังคงด่าพวกเขาแล้วก็กระหยิ่มยิ้มย่อง
“แต่เป็นหม้อพังๆที่ฉันเคยใช้มาแล้ว หม้อพังกับฝาผุ ไม่ใช่ว่าเหมาะสมกันอย่างมากหรือ?”
พูดๆแล้วก็เดินเข้าไปด้านหน้าหรรษา ไม่สนใจปฏิกิริยาของคนอื่นแล้ว จับคางของหรรษาขึ้นทันที
แต่เดิมเพลงพิณอยากจะขวางอยู่ระหว่างพวกเขา อยากจะช่วยหรรษาขอโทษแล้วก็จบเรื่องนี้ ใครจะรู้ว่าแค่ขยับ ก็โดนชลธิชาดึงเอาไว้แล้ว
“พี่!”
“ไม่เป็นไร ไม่ต้องสนใจหรอก ฉันรู้ว่าจักรชัยไม่ถึงขั้นลงไม้ลงมือกับผู้หญิงอยู่แล้ว”
มองจากหางตาจักรชัยก็เห็นฉากนี้อยู่แล้ว ในเมื่อพี่ชายช่วยเหลือ เรื่องนี้ก็ไม่ปล่อยผ่านไปอย่างง่ายดายแน่นอน
“ในเมื่ออย่างไรคุณก็อยากจะเรียนรู้ฉัน คืนนี้ไปกับฉันคงจะดีกว่า ไม่แน่พรุ่งนี้อาจจะได้คบกับจำรัส ฉันขี้แพ้ไหมไม่รู้หรอกนะ แต่คิดจะเหยียบหน้าฉันเพื่อปูทางให้ตนเอง อย่างนั้นก็ต้องจ่ายดอกเบี้ยสักหน่อยสิ!”
หรรษาคิดไม่ถึงจริงๆว่าจักรชัยจะทำขนาดนี้ ปัดมือของเขาให้ออกไปอย่างตื่นตระหนกตกใจ ถอยหลังไปหนึ่งก้าว สำหรับหยกนภาหลังจากที่ได้ยินคำพูดของจักรชัย ก็เลือกที่จะลดระดับการมีตัวตนของตนเองลงไปทันที
“นายๆๆ ไม่นึกว่าจะกล้าแตะต้องฉัน หม้อพังๆ? คนขี้แพ้อย่างนายไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วใช่ไหม? ถ้าไม่เรียกซาสี่มาตีนายให้เละ ฉันฉันกับนายไม่จบกันแน่”
พูดๆอยู่ ก็หยิบมือถือออกมาโทร ได้ยินชื่อของซาสี่ นอกจากจักรชัยแล้วสีหน้าของไม่กี่คนที่เหลือก็เคร่งขรึมขึ้นมาเล็กน้อย
อยู่ที่นี่มาครึ่งปีแล้ว สำหรับคนที่ชื่อซาสี่สักกี่คนนั้นก็พอจะได้ยินมาบ้าง ออกมาจากคุกแล้ว วันๆก็ไม่ทำงานสุจริต มุ่งแต่จะเก็บค่าคุ้มครองอยู่ที่นี่โดยเฉพาะ พูดให้ชัดก็คืออันธพาลนี่เอง
หญิงสาวที่มาอยู่ที่นี่ได้ไม่นานอย่างหรรษาก็ไม่นึกว่าจะไปอยู่รวมกับคนอย่างนี้ได้ เกินความคาดหมายจริงๆ
เพลงพิณดึงแขนของหรรษาไม่ให้เธอโทรศัพท์ แล้วก็ตะโกนบอกชลธิชา: “พี่ ให้เขาขอโทษ เรื่องนี้ก็จะจบแล้วถ้ารอให้คนพวกนั้นเข้ามาก็จะลำบากแล้วนะ!”
“เฮอะ......” จักรชัยหัวเราะเบาๆ คาบบุหรี่มวนหนึ่งกำลังมองชลธิชา
ชลธิชาไม่ได้มองเพลงพิณด้วยซ้ำ เดินไปหาจักรชัย ยืนอยู่ข้างเขา
“เพลงพิณ เพื่อนเธอพูดไปตั้งกี่ครั้งจักรชัยก็ไม่ได้สนใจเธอเลย ตอนนี้กลับมุ่งที่จะทิ่มแทงเขาให้เจ็บปวด ในห้องนี้ใครไม่โดนเธอด่าบ้างล่ะ ฉันทนมาตั้งนานแล้วนะ วันนี้เรียกคนมา หนี้สินก็ถือเป็นร่างกายของคนพวกนั้นแล้วกัน ถ้าพวกเขาไม่มา วันนี้เธอก็อย่าคิดจะออกไปจากประตูนี้เลย”
“ใช่เลย ซาสี่น่ะ พี่ใหญ่ยังใหญ่โตกว่าเขาอีก อยากจะรังแกพี่น้องของพวกเราก็ต้องดูว่าพวกเรายินยอมไหม!”
พนัสลุกขึ้นยืนอย่างฉับพลัน แค่ขวดเบียร์แตกอยู่บนโต๊ะ หญิงสาวทั้งสามคนก็ตกใจจนตัวสั่น
สุดท้ายเพลงพิณก็ไม่ได้ดึงหรรษาเอาไว้ จึงโทรออกไปแล้ว แต่เรื่องนี้ในที่สุดเธอก็เข้าข้างพวกจักรชัยเสียแล้ว
“อุ๊ย คิดไม่ถึงว่าที่นี่ยังมีสาวน้อยแสนสวยอยู่คนหนึ่ง เดี๋ยวตามซาสี่ไปผ่อนคลายสักหน่อยดีกว่า แล้วนี่ก็ถือเสียว่าไม่เคยเกิดขึ้นดีไหม?”
เพลงพิณแค่ได้ยินเขาพูดสีหน้าก็เปลี่ยนไป แต่ยังไม่ทันจะเข้าใจ ร่างของคนๆหนึ่งก็พุ่งเข้าไปแล้ว
“เห็นเป็นผู้หญิงก็อยากจะนอนด้วย แม่นายให้คนไร้ประโยชน์อย่างนายเกิดมาทำไมนะ”
ว่ากันว่าคนเมาจะกล้าทำในสิ่งที่กลัว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงจักรชัยที่ไม่หวาดกลัวเลยสักนิด ด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์จึงถือไมโครโฟนที่อยู่ด้านข้างแล้วทุบบนหัวของชายคนนั้นทันที ถือโอกาสถีบหรรษาที่อยู่ด้านข้างไปอีกฝั่งหนึ่ง อย่างไรก็เป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่ง ออกไปอยู่ด้านข้างก็คงดีกว่า
จักรชัยทุบไปหนึ่งครั้งก็ถือโอกาสตามมาด้วยครั้งที่สอง นายคนนี้ก็สมเป็นอันธพาลอย่างเต็มภาคภูมิ ตอนที่จักรชัยทุบไปครั้งที่สองก็หลบได้อย่างทันที คนที่อยู่ด้านหลังเขาก็พุ่งมาเข้ามาปะทะอย่างฉับพลัน
ชลธิชาถือขวดเบียร์ที่แตกโบกไปโบกมา คนที่อยู่รอบๆก็ตกใจจนถอยหลังกันหมด เห็นพวกเขากำลังจะเข้ามาโอบล้อมอีกครั้ง ก็เลยดึงจักรชัยไปอยู่ข้างหลัง
พนัสจับของที่ไม่สนใจทั้งหมดบนโต๊ะทิ้งลงไป เสียงขวดเหล้าแตก เสียงร้องตะโกน เสียงโหยหวนดังสะเทือนเลือนลั่นไปทั่วทั้งชั้นทันที
ทั้งสี่คนจะพยายามสู้สุดชีวิตอย่างไรก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของคนมากมายขนาดนี้ ดารินโดนคนกดอยู่บนพื้นทั้งเตะทั้งต่อย พนัสหน้าตาเต็มไปด้วยเลือด จับคนที่ตีดารินเอาไว้ ตอนที่ชลธิชามองไปที่จักรชัย ก็เห็นซาสี่ถือมีดพุ่งเข้ามาทางเขาพอดี จึงจับขวดที่แตกข้างๆแทงเข้าไปทันที
เมื่อเห็นเลือดทุกคนก็เหมือนกับบ้าคลั่งกันไปหมดแล้ว มีมีดก็ถือมีด ไม่มีมีดถืออะไรได้ก็เอาอันนั้น
เพลงพิณโดนหรรษาดึงออกไปตั้งนานแล้ว เมื่อเห็นเธอยังอยากจะพุ่งเข้าไปอยู่ด้านในจึงตบหน้าเธอทันที
“เธออยากตาย ก็อย่าทำให้พวกเราเดือดร้อน!” หรรษากำลังมองทั้งสี่คนที่โดนตีอยู่ด้านในก็ไม่สบายใจอย่างพูดไม่ออก
ตอนที่เธออยู่ที่สถานีตำรวจ ก็เพิ่งจะสำนึกได้ว่าตนเองทำอะไรลงไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: moneybags พ่อฉันเป็นเจ้าสัว