moneybags พ่อฉันเป็นเจ้าสัว นิยาย บท 80

สรุปบท บทที่ 80 อยากจะร้องไห้แต่มันไม่มีน้ำตาออกมา: moneybags พ่อฉันเป็นเจ้าสัว

สรุปตอน บทที่ 80 อยากจะร้องไห้แต่มันไม่มีน้ำตาออกมา – จากเรื่อง moneybags พ่อฉันเป็นเจ้าสัว โดย Light-Knight

ตอน บทที่ 80 อยากจะร้องไห้แต่มันไม่มีน้ำตาออกมา ของนิยายใช้ชีวิตเรื่องดัง moneybags พ่อฉันเป็นเจ้าสัว โดยนักเขียน Light-Knight เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

บทที่ 80 อยากจะร้องไห้แต่มันไม่มีน้ำตาออกมา

“เจอกับเรื่องแย่ไปหน่อย”

จักรชัยถอนหายใจแล้วพูดออกมาอย่างจนปัญญา

“หา ? ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน ชั้นล่างที่พักเหรอ ?”

“อืม”

หลังจากตอบไปอย่างเรียบง่ายหนึ่งคำ จักรชัยก็รีบพูดไปเพิ่มเติม

“เอ่อ ขับรถดีๆ ล่ะ ฉันไม่เป็นอะไรหรอก”

แม้ว่าชลธิชาจะมีใบขับขี่แล้ว แต่ในความเป็นจริงโอกาสที่จะได้ขับรถบนถนนน้อยมาก

หลังจากจักรชัยซื้อรถให้ เขาถึงได้มีโอกาสขับบ่อยมากขึ้น

จักรชัยกลัวว่าเขาจะตื่นเต้นเกินไป เดี๋ยวก็......

“ได้เลย รอพวกเรานะ”

ชลธิชาพูดอย่างตรงไปตรงมา เมื่อพูดจบก็วางสายไปทันที

จักรชัยรอมาสิบนาทีก็ยังไม่เห็นคนเลย คืนนี้พวกเขาชลธิชาไปเที่ยวที่ไหนก็ไม่รู้

เมื่อจนปัญญาแล้ว เขาจึงได้นั่งยองๆ จนขาชา จากนั้นก็เลยกระทืบเท้าแล้วลุกขึ้นเดินไปรอบๆ

เมื่อเดินไปรอบๆ ก็พบกับเรื่องบังเอิญขึ้นมากะทันหันในยามเที่ยงคืน

“ฮั่นแน่สาวสวย คืนนี้ให้พวกพี่หลายคนสนุกกันหน่อยนะ”

ด้านหลังหอพักมือซอยมืดซอยหนึ่ง

แม้แต่ตอนกลางวันก็ไม่มีคนชอบเดินถนนเส้นนี้ ไม่รู้ใครกันที่มาซวยในตอนกลางคืนแบบนี้

“ขอร้องพวกคุณเถอะนะ ปล่อยฉันไปเถอะ”

เสียงนี้เป็นเสียงผู้หญิง ไม่ใช่คนในท้องที่ ในคำพูดเต็มไปด้วยสำเนียงเสฉวน

หึ น่าสนใจจัง

จักรชัยค่อยๆ เดินไปพิงอยู่มุมมุมหนึ่ง แล้วมองเข้าไปข้างใน

ในตอนนั้นเขาก็ต้องตกตะลึง ผู้หญิงคนนั้นรูปร่างหน้าตาดูดีมาก

ไม่รู้ว่าทำไมถึงไม่ยอมเดินถนนดีๆ แต่กลับมาเดินถนนที่กินคนเส้นนี้

ถ้าเป็นคนที่อยู่ที่นี่มานานแล้ว ส่วนมากจะรู้ที่นี่มีคนทุกรูปแบบ เป็นสถานที่ที่เกิดเรื่องเกิดราวได้ง่ายที่สุด

ได้ยินมาว่ามักจะมีการลักพาตัวผู้หญิงอยู่บ่อยๆ

ตอนที่มาที่นี่ได้ไม่นาน จักรชัยก็ไม่เชื่อเช่นกัน จนกระทั่งมีครั้งหนึ่งที่พวกชลธิชารวมทั้งตัวเองก็เจอเข้าให้

ตั้งแต่ครั้งนั้นมันทำให้จักรชัยรู้ทันทีว่าตรงนี้มันน่ากลัวมากแค่ไหน

ในความเป็นจริงแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะครั้งนั้นมีคนเยอะ ไปกันสี่คนทั้งหอพัก

จักรชัยมั่นใจได้เลยว่าจะต้องเกิดเรื่องกับตัวเองแน่ๆ

แม้ว่าจะไปกันสี่คน จักรชัยก็ยังรู้สึกว่ามีคนแอบตามหลังตัวเองอยู่ตลอด

นึกไม่ถึงเลยว่าวันนี้ตัวเองแค่เดินเล่นเฉยๆ ก็ดันมาเจอเรื่องแบบนี้อีก ดูเหมือนว่าตัวเองจะมีบุพเพสันนิวาสกับซอยนี้จริงๆ

เอาไงดี ? ช่วยหรือว่าไม่ช่วย ?

ข้างหน้ามีเสียงผู้หญิงสะอึกสะอื้นส่งออกมา ไม่ต้องให้เดาจักรชัยก็เข้าใจว่าผู้หญิงคนนี้ต้องแย่แน่ๆ เลย

สุดท้ายจักรชัยจึงกัดริมฝีปากแล้วตัดสินใจที่จะไปช่วย

เห็นคนลำบากแล้วไม่ช่วย นี่มันไม่ใช่สไตล์ของเขา

แต่ก่อนที่ตัวเองจะไปสู้ก็ควรจะเตรียมตัวให้พร้อม

ก่อนอื่นต้องโทรบอกพวกชลธิชา จากนั้นก็ค่อยหาอาวุธที่เหมาะมือสักอัน

หลังจากทำทั้งหมดนี้แล้ว จักรชัยก็ก้มหน้าแล้วพุ่งออกไป

ในขณะเดียวกัน คนร้ายทั้งสองนั้นกำลังจะทำเรื่องชั่วพอดี

การปรากฏตัวของจักรชัยมาขัดจังหวะเรื่องดีๆ ของพวกเขา สีหน้าของสองคนนี้จึงดุร้ายขึ้นมาทันที

“อย่านะ พวกนายปล่อยเขาไปซะ ฉันยอมที่จะอยู่กับพวกนายก็ได้”

อาจเป็นเพราะเมื่อกี้ถูกชายสองคนนั้นขู่ไว้ เมื่อกี้สาวสวยยังขอความช่วยเหลืออยู่เลย แต่ตอนนี้กลับตาลปัตร

“อึ้งอะไรอยู่? รีบไปสิ”

ในขณะที่พูด ผู้หญิงคนนั้นก็ทำคิ้วขยิบตา แถมยังพูดแบบไม่มีเสียงว่า

รีบไป พวกมันมีอาวุธ

อาวุธ ?

นั่นมันปืนไม่ใช่เหรอ ?

เมื่อสมองผุดความคิดนี้ออกมา ขาของจักรชัยก็อ่อนไปหมด

“เอาล่ะ มึงคงไม่คิดว่ากูเป็นเด็กหรอกนะ”

“เอ่อ”

จักรชัยหมดคำจะพูดแล้ว นึกไม่ถึงเลยว่าคนอื่นจะเดาความคิดของตัวเองถูกด้วย

แต่ว่า......

“เหอะ ไอ้เตี้ยก็แค่เป็นโรคคนแคระ แล้วไม่ชอบแตะต้องผู้หญิงเท่านั้น นึกไม่ถึงเลยว่าจะเป็นเด็กในสายตาของคนนี้ซะแล้ว”

ในบรรดาคนอัปลักษณ์ทั้งสองนี้ คนหนึ่งก็วางมือบนร่างกายของสาวสวยพร้อมกับสัมผัสและหัวเราะไปด้วย

“หุบปากเลยนะไอ้ลิง เพลิดเพลินกับสาวสวยดีๆ ไม่ได้หรือไง”

“ถ้ายังจุกจิกจุกจักอีก กลัวว่าจะได้สับมึงกับสาวน้อยนั่นเป็นเนื้อบดไปซะก่อน”

ไอ้เตี้ยนี่ ดูไปแล้วก็รู้ว่าเป็นคนอารมณ์ร้อนและฉุนเฉียวง่าย แล้วก็ไม่ชอบที่คนอื่นว่าเขาเหมือนเด็ก

ไม่เช่นนั้นแม้แต่พวกเดียวกันเขาจะกล้าด่าได้อย่างไร

“ฮ่าๆๆ ไอ้เตี้ย อย่าคิดว่ากูไม่รู้นะว่ามึงชอบอะไร”

จากนั้นสายตาก็เหล่ไปบนตัวของจักรชัยอย่างหื่นกาม มองซะจนเขารังเกียจ

นึกไม่ถึงเลยว่าวินาทีต่อมาจะเห็นไอ้ลิงพ่นคำพูดที่น่ารังเกียจออก

“เรื่องที่มึงชอบผู้ชายในซอยนี้มันก็ไม่ใช่แค่วันสองวันแล้ว ใครมันจะไม่รู้”

เมื่อพูดถึงตรงนี้ก็หยุดอยู่ชั่วขณะ จากนั้นไอ้ลิงก็ชี้นิ้วไปที่จักรชัยแล้วพูดขึ้น

“อีกอย่าง ถ้ากูเดาไม่ผิดนะ มึงจ้องจับผู้ชายคนนี้มานานแล้ว”

หลังจากคำพูดนี้จบไปแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นไอ้ลิงยังประกาศเวลาออกมาอีก

เมื่อได้ยินเรื่องที่ว่าไอ้เตี้ยชอบผู้ชายก็รู้สึกคลื่นไส้แล้ว ส่วนตอนนี้ขยะแขยง

เวลาที่ไอ้ลิงพูดนี้ก็คือวันที่ตัวเองมาโดนอยู่ที่นี่โดยไม่รู้เรื่อง

ไม่น่าแปลกเลยว่าทำไมตัวเองมักจะรู้สึกเสมอว่ามีคนคอยติดตามอยู่ข้างหลัง คิดไม่ถึงเลยนะ......

จักรชัยสั่นเครือ และถอยหลังไปหนึ่งก้าวอย่างทนไม่ไหว

พระเจ้า คนที่อยู่ตรงหน้านี้ก็คือ.......

แม้ว่าจักรชัยอยากจะร้องไห้ก็ไม่มีน้ำตาออกมา

ว่ากันว่าลูกผู้ชายฆ่าได้หยามไม่ได้ แต่ตอนนี้เมื่อมองสีหน้าของคนคนนี้แล้ว ตัวเองยังกลัวเลยว่าแม้แต่โอกาสจะตายก็ไม่มี

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: moneybags พ่อฉันเป็นเจ้าสัว