moneybags พ่อฉันเป็นเจ้าสัว นิยาย บท 79

สรุปบท บทที่ 79 คู่รักที่มีใจให้กันตั้งแต่เยาว์วัย: moneybags พ่อฉันเป็นเจ้าสัว

สรุปเนื้อหา บทที่ 79 คู่รักที่มีใจให้กันตั้งแต่เยาว์วัย – moneybags พ่อฉันเป็นเจ้าสัว โดย Light-Knight

บท บทที่ 79 คู่รักที่มีใจให้กันตั้งแต่เยาว์วัย ของ moneybags พ่อฉันเป็นเจ้าสัว ในหมวดนิยายใช้ชีวิต เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Light-Knight อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

บทที่ 79 คู่รักที่มีใจให้กันตั้งแต่เยาว์วัย

นึกถึงตัวเอง ก็ยังคงเป็นคู่รักที่มีใจให้กันตั้งแต่เยาว์วัยกับอลินดา แต่สุดท้าย......

พูดได้เพียงแค่ว่า ทุกๆ อย่างบนโลกมันยากที่จะคาดเดาได้ ทุกๆ มันเปลี่ยนไปได้อย่างง่ายดาย

สำหรับเรื่องของอลินดา จักรชัยไม่อยากจะไปสนใจเลยสักนิด แต่เธอมาหาซ้ำแล้วซ้ำเล่า ส่วนจักรชัยเองก็ลืมเรื่องพวกนั้นไม่ได้เลย

ตราบใดที่ตัวเองคิดถึงมันขึ้นมา มันก็จะเต็มไปด้วยความแค้น

ผู้หญิงของตัวเองมาหาตัวเองเพื่อเอาเงินครั้งแล้วครั้งเล่า แล้วแอบไปอยู่กับผู้ชายคนอื่น......

ทุกๆ ครั้งที่นึกถึงเรื่องพวกนี้ จักรชัยก็ยิ่งจะใจแข็งกับอลินดามากขึ้น

จนถึงตอนนี้การปรากฏตัวของอลินดา นอกจากจะเพิ่มความเกลียดชังแล้ว มันก็ไม่มีประโยชน์อะไรเลย

“คุณนั่งอยู่บนเก้าอี้นี้ทั้งคืนเลยนะ”

รู้ไว้ด้วยว่าขนาดยามเป็นผู้ชายแท้ๆ อยู่ข้างนอกสักพักก็ไม่ไหวแล้ว นี่แค่ก่อนเที่ยงคืนนะ

ยิ่งไปกว่านั้นอลินดาต้องอยู่จนถึงหลังเที่ยงคืน แถมยังเป็นผู้หญิงที่อ่อนแอด้วยสิ

ทั้งคืนแบบนี้ไม่ตายก็ต้องพิการกันไปครึ่งหนึ่ง

แต่มันจะเป็นอะไรไป ในเมื่อจักรชัยต้องการแกล้งเธอ

ถ้าหากอลินดารู้ตัวดีสักหน่อย ก็ไม่ควรมีความคิดว่าโชคดีที่เขายังรักเธอ

แต่ในความเป็นจริงแล้ว จักรชัยก็ประเมินความหน้าด้านของใครบางคนต่ำเกินไป

นอกจากอลินดาจะไม่รู้ตัวแล้ว ยังจะหลงตัวเองอีกด้วย

ดูเอาสิ ตอนที่ได้ยินคำพูดของจักรชัย เธอก็ดันคิดไปว่าตัวเองยังมีโอกาส

ทันใดนั้นก็ใช้ทักษะในการอ่อยคนอื่นอีกแล้ว

เสื้อผ้าที่ไหล่ถูกดึงลง เผยให้เห็น......

จากนั้นคนก็ขยับเข้ามาแล้วจับจ้องมองจักรชัยแล้วพูดขึ้น

“หูย คุณอย่าทำแบบนี้สิ”

“จริงๆ แล้วยังชอบฉันอยู่ แต่......คุณไม่กลัวว่าฉันจะเป็นหวัดแล้วคุณจะรู้สึกเจ็บใจเหรอ ?”

เมื่อพูดถึงตรงนี้ อลินดาก็ใช้มือวาดวงกลมบนหน้าอกของจักรชัย

พูดว่าหน้าด้านมากแค่ไหนก็ยิ่งหน้าด้านมากแค่นั้น

อดคลื่นไส้อยู่ในใจ แล้วค่อยๆ ดึงมือของอลินดาลงแล้ว จากนั้นก็พูดอย่างเย็นชาว่า “อลินดา คุณคิดว่าผม จักรชัย เป็นไอ้โง่ใช่ไหม ? หือ ?”

“ฉัน......”

“อยากจะเป็นแฟนของผมก็ได้ งั้นคุณก็ต้องชดใช้ความผิดที่คุณเคยทำไว้ด้วย”

จักรชัยทำหน้าเย็นชา แล้วพูดอย่างไร้อารมณ์

“จักรชัย ฉัน......”

ต่อไป ไม่ว่าอลินดาจะร้องขอด้วยเสียงออดอ้อนมากแค่ไหน จักรชัยก็ยังแสดงออกด้วยสีหน้าเช่นเดิม

แม้ในท้ายที่สุดเขาก็เริ่มหมดความอดทน

“นั่งอยู่ที่นี่ทั้งคืน ไม่เช่นนั้นก็ออกไปซะ”

จักรชัยชี้นิ้วไปที่ประตูใหญ่ แล้วพูดประโยคนี้ออกมาอย่างโมโหมาก

ตอนแรกเมื่อออกจากบ้านอารมณ์ก็ยังดีอยู่ แต่ว่าตอนนี้......

เมื่อเผชิญกับใบหน้ากับคนที่ตัวเองเกลียดมานาน อารมณ์ของจักรชัยก็ไม่สามารถดีขึ้นมาได้

เขาหันหลังจากไปโดยไม่ได้ลังเลอีก

ในตอนนี้อลินดายอมรับแล้ว

“คุณอย่าโกรธเลยนะ ฉันจะนั่งก็ได้”

เธอยังคงละโมบโลภมากเช่น โลภจนไม่สนใจแม้แต่ชีวิต

รู้ดีว่าถ้าอยู่ข้างนอกทั้งคืนไม่ตายก็พิการไปครึ่งหนึ่ง แต่เธอก็ยัง......

“ถ้าเห็นด้วยก็ไปนั่งซะสิ”

จักรชัยจงใจแสร้งพูด ส่วนในปากก็ยิ้มอย่างเหยียดหยาม

“ช้าขนาดนี้คุณจะทำให้ใครดู หรือว่าต้องการหักหลังผมแล้วไปอ่อยผู้ชายคนอื่นอีกแล้วล่ะ”

“ฉัน......”

สีหน้าของอลินดาแดงระเรื่อ มือซ้ายจับมือขวาไว้แล้วพูดขึ้น

“จักรชัย คือฉันอยู่ข้างนอกคนเดียวแล้วฉันกลัว คุณสามารถ......”

“ไม่ได้”

จนถึงตอนนี้แล้วยังจะมาเล่นด้วยวิธีอื่น จักรชัยก็นับถืออลินดาแล้ว

“เฮ้ย จักรชัย ไม่เจอกันนานแล้วนะ ช่วงนี้ยุ่งอะไรอยู่เหรอ ?”

“ใช่ พวกเรารอนายตั้งหลายวันแล้ว วันนี้ทนไม่ไหวแล้วก็เลยออกมาสนุกกัน”

มีพนัสเพียงคนเดียวที่พูดด้วยน้ำเสียงเช่นนี้

เมื่อจักรชัยได้ยินแล้วก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะขึ้นมา

จักรชัยรู้เป็นอย่างดีว่าสองสามคนนี้ตั้งหน้าตั้งตารอให้ตัวเองพาไปเที่ยวเล่น ในตอนนี้จึงพูดประชดไป

“แหม พวกนายเล่นกันสนุกขนาดนี้ งั้นฉัน......”

“อย่านะจักรชัย พวกเรารอนายมาตั้งหลายวันแล้ว ยังไงนายก็ต้องพาพวกเราไปเที่ยวนะ”

อยู่ด้วยกันมาก็ระยะหนึ่งแล้ว เพียงแค่จักรชัยเริ่มต้นพูด คนอื่นๆ ก็เข้าใจความหมายของเขาแล้ว

ดูสิ ขณะที่คำพูดของดารินเพิ่งจบไป พนัสก็เอ่ยปากพูดแล้ว

“ใช่แล้วจักรชัย นายก็พูดออกมาตรงๆ อย่าอุบไว้เลย”

“ฮ่าๆๆ”

เมื่อได้ยินคำพูดของคนพวกนี้ อารมณ์ที่ไม่พอใจเมื่อกี้ในตอนนี้ก็หายไปไม่น้อย

“ไม่ใช่พวกนายกำลังสนุกกันอยู่เหรอ จะยอมมาเป็นเพื่อนกับฉันด้วยเหรอ ?”

ปากของจักรชัยพูดติดตลก ส่วนในใจก็อบอุ่นขึ้นไม่น้อย

ในชีวิตมีเพื่อนสนิทสักคนก็ถือว่าดีมากแล้ว นับประสาอะไรกับตัวเองที่มีตั้งสาม

“เอาล่ะจักรชัย นายก็พูดมาเลย แล้วพวกเราจะถึงโดยด่วน”

“ถึงโดยด่วนใช่ไหม ?”

รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของจักรชัย แล้วจงใจพูดประโยคนี้ออกไป

วินาทีต่อไป เสียงของชลธิชาก็ส่งออกมา

เขาเป็นคนที่อายุมากที่สุดในบรรดาเพื่อนสนิท แถมยังเป็นคนใจเย็นไม่น้อย

เขามีอะไรให้โฟกัสมากกว่าอีกสองคนที่รู้จักแต่เที่ยวเล่น

“จักรชัย ดึกขนาดนี้แล้ว ทำไมนายยังอยากเที่ยวเล่นล่ะ ปกตินายไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน”

ชลธิชารู้จักจักรชัยเป็นอย่างดี ที่รู้ดีมากไปกว่านั้นคือ ถ้าเขาอยากจะไปเที่ยวจริงๆ จะไม่เลือกเวลานี้อย่างแน่นอน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: moneybags พ่อฉันเป็นเจ้าสัว