ตอนที่7
“อย่าใสใจคำพูดของไวยาตย์เลยนะ”
ปาณีไม่ได้พูดอะไรมือที่กำผ้าห่มนั้นแน่นยิ่งขึ้นตาเริ่มแดงก่ำ
ธามนิธิเห็นดวงตาของปาณีเลยพูดว่า“อยากร้องไห้ก็ร้องออกมาเถอะอยู่ต่อหน้าฉันไม่ต้องเข้มแข็งก็ได้”
เพียงเพราะประโยคนี้ประโยคเดียวก็ทำให้ปาณีที่กลั้นน้ำตาตั้งนานหลั่งน้ำตาออกมาอย่างไม่ขาดสาย
“คุณอา.....หือๆๆๆ”
ปาณีร้องไห้นานมากร้องไห้จนสะอึกแล้วยังร้องต่อไม่หยุดธามนิธิเห็นเธอร้องไห้หนักมากฝ่ามือของเขาค่อยๆลูบหลังของเธอแม้จะไม่มีคำพูดใดๆแต่ปาณีก็สัมผัสได้ถึงความห่วงใยที่มีให้ยิ่งทำให้เธอร้องไห้หนักเข้าไปอีก
ปาณีเป็นแค่เด็กอายุ18เป็นวัยที่สดใสไร้ความกังวลยังไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตนเองได้
ไม่มีคนปลอบใจยังดีหน่อยยิ่งมีคนปลอบใจก็ยิ่งปล่อยโฮออกมา
ธามนิธิเห็นภาพตรงหน้าแล้วก็รู้สึกปวดใจ
ตอนแรกยังสงสัยว่าทำไมปาณีต้องมายืมเงินกับเขาแต่หลังจากได้ยินไวยาตย์เล่าเรื่องครอบครัวของเธอแล้วเขาก็เข้าใจแล้วว่าคนที่บ้านเธอปฏิบัติกับเธออย่างไร
ตอนนี้เธอได้แต่งงานกับเขาแล้วแน่นอนว่าธามนิธิจะไม่ให้เธอต้องลำบากแบบนี้อีก
ไม่รู้ว่าร้องไห้ไปนานแค่ไหนปาณีหยุดร้องจนได้และหยิบทิชชูขึ้นมาซับน้ำตา
เธอหลบอยู่ในผ้าห่มรู้สึกเกรงใจเล็กน้อยเมื่อเห็นสายตาของธามนิธิ
นี่เป็นครั้งแรกที่เธอร้องไห้ต่อหน้าคนอื่นอย่างหนักแบบนี้
เธอแอบมองธามนิธิแวบหนึ่งเห็นว่าเขาไม่สนใจเธอเธอจึงยิ้มออกมาอย่างสบายใจ
หลังจากนั้นเธอก็กินยาตามที่ธามนิธิสั่งนอนลงใต้ผ้าห่มอย่างสบายใจ
เธอหลับลึกมาก
ตื่นขึ้นมาในวันรุ่งขึ้นเธอนึกขึ้นได้ว่ายังมีของบางอย่างที่เธอลืมไว้ที่บ้านเช่นพวกโทรศัพท์มือถือที่ต้องไปเอามาเธอจึงไปขอให้ไวยาตย์ส่งเธอกลับบ้าน
ทันที่ที่เธอก้าวเข้าบ้านฝนสิริก็ตรงดิ่งมาหาเธอชี้หน้าด่าเธออย่างแรง“นางลูกไม่รักดีบอกให้เธอแต่งงานก็ไม่ยอมแต่งยังจะหนีตามผู้ชายป่าเถื่อนไปอีกไม่กลับมาบ้านทั้งคืน!เธอจะให้ฉันเอาหน้าไปไว้ที่ไหนน่าขายหน้าจริงๆ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: My Girl ภรรยาตัวน้อยของผม
ก็บอกไปสิว่าพ่อแม่นางนลินมาขอคืนของหมั้น แค่นี้ก็ตบหน้าได้แล้วว่านลินโกหก มันไม่ใช่ว่าสามีไม่รอ แต่มันทิ้งเอง...
ฮื่อออออัพต่อได้ไหมคะพลีสสมสส...