ตอนที่9
เมื่อใกล้ถึงเมืองชยุตปาณีที่หลับมาตลอดทางก็ตื่นสักที
เมื่อใกล้ถึงเมืองชยุตขึ้นทุกทีปาณีจึงรู้สึกตื่นกลัวเธอจับแขนเสื้อของธามนิธิพร้อมกับพูดว่า“คุณอาหนูไม่ต้องเตรียมของขวัญไปจริงหรอคะ?”
กลับไปบ้านสามีครั้งแรกไม่มีของขวัญติดไม้ติดมือดูเหมือนจะไม่ค่อยมีมารยาทนะ
ธามนิธิลูบหัวเธอเบาๆพร้อมกับพูดว่า“ไม่ต้องลำบากหรอกเธอกลับมาด้วยก็ถือเป็นของขวัญที่ดีที่สุดแล้ว”
ประโยคเดียวแต่ทำให้ปาณีหน้าแดงไม่น้อย
อีกทั้งยังช่วยคลายความกังวนตื่นเต้นของเธอลงได้
“คุณธามนิธิถึงแล้วครับ”
ไวยาตย์ที่เป็นคนขับรถพูดขึ้นมาเมื่อรถจอดอยู่หน้าคฤหาสน์แห่งหนึ่ง
ปาณีมองออกไปยังนอกหน้าต่างสิ่งที่เธอมองเห็นเป็นภาพที่เห็นได้ในละครเท่านั้นคฤหาสน์ที่เก่าแก่หรูหราตั้งตระหง่านอยู่ด้านหน้าของเธอเธอตกใจอย่างมากเธอลงจากรถตามธามนิธิเข้าไป
จันวิภาที่รอคอยพวกเธอมาตั้งนานเมื่อรู้ว่าทั้งคู่มาถึงแล้วเธอจึงรีบออกไปต้อนรับ
“ธามนิธิพวกเธอมาถึงสักที”
เธอเดินมาเข็นรถเข็นของธามนิธิด้วยความใส่ใจสายตาของเธอเหลือบไปเห็นหญิงสาวที่อยู่ข้างๆของชายหนุ่ม
พอเธอเห็นหญิงสาวในชุดเดรสยาวสีขาวยืนอยู่ตรงนั้นเส้นผมเงาดำที่ยาวถึงเอวหน้าตาน่ารกสดใสบนใบหน้ามีความเขินอายเล็กน้อยทำให้เธอชอบเด็กคนนี้ตั้งแต่แรกพบ
จันวิภาพูด“หนูก็คือปาณีใช่ไหมจ้ะ?”
สำหรับหญิงสาวที่ไม่รังเกียจที่น้องชายตัวเองพิการอีกทั้งยังยอมแต่งงานกับเขาจันวิภาชอบเธอมากบวกกับเธออายุใกล้เคียงกับลูกชายของตัวเองจันวิภามองเธอด้วยสายตาที่รักและห่วงใย
“สวัสดีค่ะพี่สาว”
ธามนิธิแนะนำให้ปาณีรู้จักครอบครัวของเขาอย่างคร่าวๆตั้งแต่อยู่ในรถแล้วตอนนี้เธอเลยเรียกออกไปอย่างคุ้นเคยว่า“พี่สาว”
จันวิภายิ้มรับ“เป็นเด็กดีจริงๆ!”
เพราะเธออายุมากกว่าธามนิธิถึง10ปีสำหรับเธอแล้วธามนิธิเปรียบเสมือนลูกชายของเธอด้วย
แต่ตอนนี้ธามนิธิต้องมาเจอเรื่องร้ายๆเหล่านี้เธอก็รู้สึกเจ็บปวดใจเช่นกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: My Girl ภรรยาตัวน้อยของผม
ก็บอกไปสิว่าพ่อแม่นางนลินมาขอคืนของหมั้น แค่นี้ก็ตบหน้าได้แล้วว่านลินโกหก มันไม่ใช่ว่าสามีไม่รอ แต่มันทิ้งเอง...
ฮื่อออออัพต่อได้ไหมคะพลีสสมสส...