ในวังหลวงยามวิกาล
“ตรวจสอบได้ความหรือยัง”
จักรพรรดิเหวินเงยประพักตร์ขึ้นจ้องถามองค์รักษ์เงา
“กราบทูลฝ่าบาท ตรวจสอบได้ความแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
องค์รักษ์เงาค้อมกาย ค่อยๆ รายงานความจริงตามที่ได้สืบได้จากองครักษ์ที่จับตัวมาจากเรือนปี้ปัว
“จับเข้าคุกสวรรค์?”
จักรพรรดิเหวินตบไปที่กองฎีกา พูดขึ้นอย่างโกรธเกรี้ยวว่า “กำเริบเสิบสานยิ่งนัก ไม่มีคำอนุญาตจากข้า แต่เจ้าสามกลับกล้าจับเจ้าหกเข้าคุกสวรรค์? มิน่าเล่า เจ้าหกจึงได้ตกใจกลัวจนมาขอความตายกับข้า!”
จักรพรรดิเหวินกริ้วเป็นอย่างมาก หายใจหอบแรง
“ฝ่าบาทได้โปรดคลายโทสะด้วยพ่ะย่ะค่ะ”
มู่ซุ่นที่รับใช้อยู่ข้างกายรีรบกล่าวเตือนอย่างเป็นห่วง “องค์ชายสามอาจจะแค่อยากหยอกล้อองค์ชายหกก็ได้นะพ่ะย่ะค่ะ อย่างไรเสีย คนสนิทขององครัชทายาทได้ไปหาองค์ชายหกก่อนตาย…”
จักรพรรดิเหวินยักคิ้วขึ้นเล็กน้อย หันสายตาไปมองมู่ซุ่น “เจ้าคิดว่าเจ้าหกมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีขององค์รัชทยาท?”
“เรื่องนี้…”
มู่ซุ่นตัวกระตุกอย่างแรงแล้วรีบตอบว่า “บ่าวไม่ทราบพ่ะย่ะค่ะ”
“ไม่รู้? เช่นนั้นก็แปลว่าเป็นไปไม่ได้ล่ะสิ?”
จักรพรรดิเหวินส่งเสียงเหอะเบาๆ “หากเจ้าเป็นองค์รัชทายาท เจ้าจะคนไร้ประโยชน์มาเป็นพรรคพวกเดียวกับเจ้าหรือไม่? เขาสามารถยกพลทหารมาให้องค์รัชทายาทได้งั้นหรือ? หรือสามารถวางแผนออกกลอุบายให้องค์รัชทายาทได้ล่ะ?”
ถ้าจะหาเจ้าหกมาเป็นพรรคพวกในการก่อกบฏ ก็เป็นการแกว่งเท้าหาเสี้ยนชัดๆ!
ขอแค่คนที่มีสมองสักนิด ก็ไม่มีทางทำเรื่องโง่ๆ เช่นนี้แน่นอน!
มู่ซุ่นตกใจกลัว ไม่กล้ารับคำต่อ
จักรพรรดิเหวินหายใจเข้าลึกแล้วจ้องไปทึ่องค์รักษ์เงาถามขึ้นว่า “หลังจากที่เจ้าหกกลับไปแล้ว เขาจัดการบ่าวรับใช้สารเลวพวกนั้นอย่างไรบ้าง?”
องค์รักษ์เงาตอบว่า “ให้คนพวกนั้นคุกเข่าตบปากตนเองพ่ะย่ะค่ะ”
“ไม่ได้จัดการอย่างอื่นอีก?”
จักรพรรดิเหวินขมวดพระขนงแล้วถาม
“ไม่มีพ่ะย่ะค่ะ”
องค์รักษ์เงาส่ายศีรษะเบาๆ
“เจ้าคนไร้ประโยชน์!”
มู่ซุ่นรีบยิ้มประจบ “พระราชโองการนี้เป็นพระมหากรุณาต่อตระกูลเสิ่น”
พระมหากรุณาบ้าบออะไรล่ะ?
ตอนนี้พวกฮูหยินเสิ่นคงกำลังด่าเขาอยู่ในใจสินะ
จักรพรรดิเหวินยิ้มอย่างขมขื่น ครุ่นคิดเพียงครู่ แล้วพูดขึ้นว่า “เจ้าไปบอกพวกนางว่า ข้าส่งเจ้าหกไปชายแดนเพื่อสร้างผลงาน ไม่ได้ส่งเขาไปตาย! แม้นเจ้าหกจะไม่ได้เรื่องอะไรมากนัก แต่อย่างไรเสียก็เป็นโอรสของข้า ต่อให้เสือจะดุร้ายแค่ไหนก็ไม่กินลูกของตัวเอง!”
“พ่ะย่ะค่ะ!”
มู่ซุ่นค้อมกาย แล้วพูดอีกว่า “ฝ่าบาท ในเมื่อพระราชทานการสมรสให้กับองค์ชายหกแล้ว ทรงเห็นสมควรพระราชทานจวนส่วนพระองค์ให้องค์ชายหกหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ จะได้จัดเตรียมพิธีมงคลสมรสอันยิ่งใหญ่”
จวนส่วนพระองค์?
นี่เจ้าหกยังไม่มีจวนเป็นของตัวเองอีกหรือ?
จักรพรรดิเหวินชะงักเพียงครู่ แล้วลูบพระเศียรของตน หัวเราะขึ้นกล่าว “หากไม่ได้เจ้ามาเตือน ข้าก็คงลืมเรื่องนี้ไปแล้ว!”
หลังจากที่องค์ชายของราชวงศ์ต้าเฉียนเติบใหญ่แล้วจะได้รับจวนของตนเอง มีเพียงจวนองค์รัชทายาทที่จะอยู่ภายในรั้ววัง
ที่หยุนเจิงยังอยู่ในวัง เป็นเพราะความผิดพลาดเล็กน้อย
ประเด็นคือหยุนเจิงแทบจะไม่มีตัวตนเลยจริงๆ หากวันนี้ไม่เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น จักรพรรดิเหวินก็คงลืมไปเสียแล้วด้วยซ้ำว่าตนยังมีลูกคนนี้อยู่ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการพระราชทานจวนส่วนตัวให้เลย

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน