องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ นิยาย บท 301

สายตาที่เต็มไปด้วยแรงสังหารของหนานกงเย่ค่อย ๆ จางหายไป สภาพจิตใจดีขึ้น ร่างกายล้วนดีขึ้น เอนกายพิงพักผ่อน ก้มหน้าอ่านตำราอย่างสบายใจโดยไม่สนใจพวกนาง

ฉีเฟยอวิ๋นกล่าว : “ข้าเข้าใจความคิดของเจ้าดี แต่เขาจะจริงใจกับหม่อมฉันหรือไม่นั้น ไม่จำเป็นต้องกังวล

ยามนี้ สิ่งที่ควรมอบให้ที่สุดคือสหาย

เขาและข้าไม่ใช่รู้จักกันแค่วันสองวัน หากยอมเดินเคียงข้างข้าไปจนถึงบั้นปลาย เหตุใดข้าต้องกลัวว่าเขาจะทิ้งไว้กลางทางด้วยละเจ้าคะ?

ถนนยืดยาวสายนี้ หากราบเรียบไร้ขวางหนาม ก็น่าเบื่อแย่”

หนานกงเย่เงยหน้าขึ้นอีกครั้ง เขามองไปยังใบหน้าที่เหม่อลอยของฉีเฟยอวิ๋น ถนนที่ยืดยาว เต็มไปด้วยขวางหนาม น่าเบื่อเช่นนั้นหรือ?

ฉีเฟยอวิ๋นดึงมือของไป๋ซู่ซู่ : “ข้ารู้ว่าเจ้าไร้รักต่อโลกใบนี้ แต่...แค่คนที่ไม่ซื่อสัตย์สองสามคน กลับขวางกั้นดวงตาที่เจ้าจะได้เห็นความงดงามของโลกใบนี้เชียวหรือ?

โลกภายนอกกว้างขวางยิ่งนัก เหตุใดถึงต้องมาอยู่ที่นี่ก่อน

วิชาแพทย์ในตัวเจ้า ตายไปก็น่าเสียดายแย่?

เจ้าออกไปเดินเล่นดีหรือไม่?

ครรภ์ของข้าก็ไม่รู้ว่าเจ้าพูดความจริงหรือโกหก แต่หากเจ้าจากไป ข้าจะวางใจเช่นนั้นเหรือ?”

ไป๋ซู่ซู่ยิ้มอย่างจนปัญญา ก่อนจะยกมือชี้ไปทางหนานกงเย่ : “ให้เขาไปเป็นเพื่อนข้าสักรอบเถอะ ข้างนอกลมฝนพัดกระหน่ำ ข้าเชื่อใจเขา”

ฉีเฟยอวิ๋นจนปัญญา ทำได้แค่มองไปทางหนานกงเย่

หนานกงเย่กลับไม่ยอม : “ข้าไม่สบาย”

“ท่านอ๋อง เช่นนี้ล่ะ?”

ใบหน้าของหนานกงเย่เคร่งขรึมลง อาอวี่ได้ดึงกระบี่ออกจากฝัก ทั้งสามคนทยอยเล็งเป้าไปทางไป๋ซู่ซู่

ฉีเฟยอวิ๋นเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย เข็มสามเล่มบนลำคอได้เสียบเนื้อหนังเข้าไปแล้ว ทั้งยังมีเลือดสดไหลริน เลือดนั้นล้วนเป็นสีดำ

ฉีเฟยอวิ๋นรู้สึกเหมือนลำคอเกร็งชา ไม่ใช่แค่บางส่วน แต่คือทั้งหมด

“ท่านอ๋อง ลำคอของหม่อมฉันไม่มีความรู้สึกแล้วเพคะ”

ฉีเฟยอวิ๋นมองไปทางไป๋ซู่ซู่ พวกนางห่างกันเพียงแค่เอื้อม มือของนางจึงยื่นเข้ามาได้

นางเองก็ไม่ทันเตรียมตัว จึงได้เป็นเช่นนี้

หนานกงเย่ลงจากเตียง หัวใจของเขาร่วงหล่น ใบหน้าของเขาเย็นยะเยือกราวกับผลึกน้ำแข็ง เขากล่าวขึ้นว่า : “ข้าจะฆ่าเจ้า!”

“ท่านฆ่าหม่อมฉันไม่ได้ ท่านต้องไปเป็นเพื่อนหม่อมฉัน เพราะพิษของนาง มีเพียงแค่หม่อมฉันเท่านั้นที่แก้พิษได้ เลือกของนางแก้พิษได้ แต่ไม่อาจแก้พิษหม่อมฉันได้”

น้ำเสียงของไป๋ซู่ซู่ราบเรียบ แต่การกระทำของนางในตอนนี้กลับสร้างความโกรธเกรี้ยวให้กับหนานกงเย่

ฉีเฟยอวิ๋นเคลื่อนไหวเล็กน้อย ร่างกายค่อย ๆ ล้มลงไป

หนานกงเย่เดินรุดหน้าสองสามก้าว และโอบกอดร่างของฉีเฟยอวิ๋นไว้

“อวิ๋นอวิ๋น”

ดวงตาคู่นั้นของฉีเฟยอวิ๋นปิดสนิท และสลบไปแล้ว

หนานกงเย่เงยหน้ามองไป๋ซู่ซู่ ซึ่งไป๋ซู่ซู่กล่าวโดยไม่แยแสว่า “นางไม่เป็นไร ท่านแค่ต้องไปส่งหม่อมฉัน”

หนานกงเย่กอดร่างของฉีเฟยอวิ๋นแน่น : “ตอนนี้ข้าจะฆ่าเจ้า”

“เช่นนั้นนางก็ต้องถูกฝังไปพร้อมกับหม่อมฉัน ท่านรีบไปกับหม่อมฉันเถิด ท่านกลับมาถึงจะช่วยแก้พิษให้นางได้ หลังหนึ่งชั่วยาม ลมหายใจของนางจะหยุดลง แม้ว่านางจะไม่เป็นไร แต่เด็กในครรภ์อาจจะมีปัญหาก็ได้”

แม้ว่าหนานกงเย่จะโกรธเกรี้ยวมาก แต่เขาก็ไม่กล้าจะล้อเล่น เขาอุ้มฉีเฟยอวิ๋นวางลงบนเตียง และห่มผ้าให้ฉีเฟยอวิ๋น

ก่อนจะกล่าวขึ้นว่า : “ไปกันเถอะ”

ไป๋ซู่ซู่กล่าวว่า : “ร่ม”

หนานกงเย่มองออกไป ดวงตาเรียวยาวฉายแววคมกริบดุจดั่งแสงดาบเงากระบี่ : “ไม่มี”

“ท่านอ๋องแย่ ท่านไม่เพียงแต่ต้องมี ท่านต้องกางร่มให้หม่อมฉัน รับประกันว่าหม่อมฉันจะไม่เปียกฝน หากหม่อมฉันเปียกฝน หม่อมฉันจะไม่ช่วยชีวิตนาง”

หนานกงเย่ระเบิดพลังภายในออกมาจากร่างกาย สิ่งของภายในห้องกวัดแกว่งไปมาระลอกหนึ่ง

เขาพยายามสงบสติ พยายามบอกกับตนเอง ไป๋ซู่ซู่ไม่มีวันทำร้ายอวิ๋นอวิ๋น แต่เขาทำไม่ได้

ไป๋ซู่ซู่เดินไปหน้าประตู ร่มคันหนึ่งถูกหนานกงเย่หยิบและกางออก จากนั้นก็ขวางเม็ดฝนที่จะโดนตัวของไป๋ซู่ซู่ไว้

สวรรค์ยังเมตตา ฝนจึงตกเพียงเล็กน้อย

“อย่าไปไหนเด็ดขาด ปกป้องพระชายาด้วย” หนานกงเย่ออกคำสั่งก่อนออกเดินทาง

อาอวี่ย้ายคนที่อยู่นอกจวนทั้งหมดเข้ามาโดยไม่สนใจสิ่งใด จากนั้นก็เรียกหงเถาและลี่ว์หลิ่วเข้ามา ส่วนเขายืนเฝ้าฉีเฟยอวิ๋นอยู่หน้าประตูภายในห้อง

หนานกงเย่ออกจากจวนอ๋องเย่ไป พาไป๋ซู่ซู่ไปยังสถานที่ประหารด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึก

ทั้งสองคนไม่กล่าวสิ่งใด กระทั่งมาถึงด้านนอกสถานที่ประหาร

ทังเหอฝ่าฝนออกมาเตรียมการประหาร

ไป๋ซู่ซู่มองไปยังศีรษะที่ถูกไป๋จิ่งหยวนตัดจากที่ไกล ๆ

นางไม่มีความกลัวแม้แต่เล็กน้อย และไม่มีสีหน้าปีติยินดีใด ๆ

ท่าทางของนาง เหมือนไร้ความรู้สึกโดยพื้นฐาน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ