องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ นิยาย บท 322

ฉีเฟยอวิ๋นถาม "ความหมายของท่านอ๋องก็คือ เรื่องนี้ไม่ใช่จะให้ความเป็นธรรมกับฮูหยินใหญ่ หากแต่เป็นคนใต้หล้า?"

หนานกงเย่มองฉีเฟยอวิ๋น "ให้ความเป็นธรรมกับทั้งคนใต้หล้าและฮูหยินใหญ่ด้วย ยิ่งรวมไปถึงเหล่าขุนนาง แม่ทัพทหารที่ภักดีต่อแคว้นต้าเหลียง

ปวงชนต้องรู้เรื่องนี้ไม่ช้าก็เร็วอยู่แล้ว เพราะใต้หล้ามีหูตาเป็นสับปะรด และไม่มีกำแพงใดที่ไม่มีลมพัดผ่าน คนเบื้องล่างมีใจชั่วร้ายเช่นนี้ กล้าหลอกลวงเบื้องบน คิดว่าราชวงศ์ไร้คนแล้วหรือ?"

"มี ยามนี้ไม่ใช่มีเยอะแล้วหรือเพคะ"

ฉีเฟยอวิ๋นรู้สึกขบขัน พลางมองท้องปราดหนึ่ง

หนานกงเย่จับมือฉีเฟยอวิ๋นแนบแน่น "ข้าคิดไว้แล้ว หากมีบุตรเพียงคนเดียว ข้าก็ไม่เสียใจ จะซาบซึ้งอวิ๋นอวิ๋นที่คลอดบุตรให้ข้า ข้าหวังเพียงให้แม่ลูกปลอดภัยก็พอ

ถ้าเกิดมีบุตรเป็นโขยง ข้าก็จะยิ่งดีใจ ขอแค่พวกเขาปลอดภัย อวิ๋นอวิ๋นปลอดภัย สำหรับข้า อย่างไรก็ได้

นับจากวันนี้ข้าจะเริ่มกินเจ ไม่กินสิ่งมีชีวิตจนกว่าพวกเขาจะคลอดออกมา

ถือว่าเป็นการขอพรให้พวกเขา

ประเดี๋ยวจัดการเรื่องนี้เสร็จ ข้าจะไปที่ศาลบรรพชน ข้าพึ่งนึกได้ว่า หลังจากที่มีลูกแล้วยังไม่เคยไปแจ้งข่าวดีที่ศาลบรรพชนเลย ข้าจะไปแจ้งข่าวดีให้บรรพชนปลาบปลื้มใจ

หากพวกเขาคลอดออกมาแล้วร่างกายไม่แข็งแรงอย่างที่อวิ๋นอวิ๋นบอก หรือว่าเป็นอย่างอื่นก็ไม่เป็นกระไร

ล้วนเป็นบุตรของข้า ข้าย่อมรักใคร่พวกเขาแน่"

ฉีเฟยอวิ๋นทอดถอนใจหนึ่งเฮือก รู้สึกใจคอเหี่ยวแห้งเล็กน้อย

"ท่านอ๋องเคยคิดไหมเพคะ บุตรที่ข้าคลอดออกมาอาจจะเป็นเด็กมีพิษมีภัยก็ได้"

หนานกงเย่หยุดก้าวเดิน แล้วมองไปยังฉีเฟยอวิ๋น พลางเอ่ยว่า "ถึงแม้จะคลอดเป็นหน่าจา ข้าก็ยินดี"

“……”

หน่าจา?

ฉีเฟยอวิ่นห่อเหี่ยวใจ ช่วงนี้เขาอ่านนิทานเทพนิยายมากเกินไปแล้ว

"ในเมื่อข้าไม่กลัว เช่นนั้นก็คลอดเถอะ"

ฉีเฟยอวิ๋นก้าวเท้าเดินไปด้านหน้า แล้วมาถึงตำหนักเฉาเฟิ่ง

พระพันปีสวมฉลองพระองค์สีแดงลายดอกมู่ตาน เฉิดฉายความโอ่อ่างดงาม ผู้ที่ยืนอยู่ด้านข้างพระองค์ คือพระมเหสีหวาที่สวมฉลองพระองค์สีเขียวทึบนั้น

พระมเหสีหวาไม่ค่อยสบาย ดวงตาแดงก่ำไปหมด

อีกฟากหนึ่งคือฮองเฮา เฉินอวิ๋นชู และผู้ที่อยู่ด้านหลังถัดไปคือหวงกุ้ยเฟย จวินเซียวเซียว

ทั้งสี่พระองค์รอพวกเขาโดยมีนางกำนัลหลายสิบชีวิตติดตาม

ฉีเฟยอวิ๋นรู้สึกตกใจ เหตุใดทุกคนในแคว้นต้าเหลียงจึงเก่งกาจปานนี้?

"ลูกคารวะเสด็จแม่พ่ะย่ะค่ะ" หนานกงเย่กล่าว ฉีเฟยอวิ๋นก็กล่าวทำความเคารพตาม

พระพันปีเดินไปหาฮูหยินใหญ่ ก่อนจะก้มหน้ามองฮูหยินใหญ่ ทันใดนั้นนัยน์ตาก็มีประกายความเสียใจแวบผ่าน "ทำให้ท่านน้อยใจแล้ว"

สิ้นเสียง พระพันปีหันไปมองพระมเหสีหวาที่อยู่ด้านหลัง "เจ้ามาดูสิ นางเคยปกป้องเจ้ามาก่อน"

พระมเหสีหวาเช็ดน้ำตา เดินไปหาฮูหยินใหญ่ ฉีเฟยอวิ๋นรู้สึกแปลกใจ มีประวัติด้วยกันหรือ?

พระมเหสีหวาให้คนประคองไปด้านข้างฮูหยินใหญ่ น้ำตาก็อดไหลพรากไม่ได้

"เฮ้อ……หลายปีมานี้ข้าละอายใจต่อท่านแล้ว"

พระมเหสีหวากล่าวจบ ดวงตารูปเห่งยิ้งเต้พลันส่งกระแสกราดเกรี้ยว "ฮูหยินรองตระกูลเฉินไม่อยากมีชีวิตแล้วหรือนี่?"

พระพันปีมองพระมเหสีหวาแวบหนึ่ง "เข้าไปเถอะ"

สิ้นเสียงพระพันปีก็เข้าไป ทว่าพระมเหสีหวาไม่ใช่ กล่าวว่า "ไทเฮาเข้าไปก่อนเถอะเพคะ หม่อมฉันจะเข้าไปเป็นเพื่อนฮูหยินใหญ่เพคะ"

พระพันปีหมุนกายเข้าไป พระมเหสีหวาเข้าไปพร้อมกับฮูหยินใหญ่ ตลอดทางพระองค์สะอื้นไห้ด้วยความเศร้าโศก

ฉีเฟยอวิ๋นมองไปยังหนานกงเย่ "ท่านอ๋องเพคะ"

หนานกงเย่ได้ยินเสียงฉีเฟยอวิ๋นดังเท่าเสียงมด มองเธอแล้วพลันกระซิบกระซาบข้างหู "ไม่บอกเจ้าหรอก"

ฉีเฟยอวิ๋นชะงัก มองอีกฝ่าย "ข้าต้องรู้แน่ ท่านอ๋องอย่าเสียใจภายหลังนะเพคะ"

หนานกงเย่รู้สึกเสียใจในบัดดล

เข้ามาถึงตำหนักเฉาเฟิ่ง หนานกงเย่ได้แต่เดินด้วยใบหน้าบูดเบี้ยว

ฮูหยินใหญ่ถูกส่งไปด้านหลัง ฉีเฟยอวิ๋นเข้าไปถึงพลันเห็น พระพันปี เฉินอวิ๋นชูผู้เป็นฮองเฮา จวินเซียวเซียวผู้เป็นหวงกุ้ยเฟย

พระพันปีนั่งลง ส่วนพระมเหสีหวา ฮองเฮาและหวงกุ้ยเฟยย่อมต้องยืนอยู่ข้างกาย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ