อวิ๋นจิ่นรีบเดินเข้าไปขัดขวาง "ท่านแม่ทัพ ท่านอย่าทำอะไรโดยพลการเช่นนี้นะ"
"อวิ๋นจิ่น เจ้ารีบถอยไป ไม่เช่นนั้นข้าจะโยนเจ้าออกไป" ในสายตาของแม่ทัพฉี อวิ๋นจิ่นก็เป็นเหมือนลูกสาวของเขา ยังเป็นเด็กน้อย
เขาพูดออกไปเช่นนั้นก็เพื่อทำให้อวิ๋นจิ่นตกใจเท่านั้น
อวิ๋นจิ่นไม่กลัวเพราะรู้ว่าท่านแม่ทัพฉีเป็นคนที่มีเมตตา
"ท่านแม่ทัพ ท่านระดมฝูงชนเพื่อไล่ตามไปและไม่กลัวคนภายนอกจะรับรู้ข่าวขึ้นมาแล้วติดตามออกไป ต่อให้ต้องการหานายท่าน เช่นนั้นก็ควรกระทำโดยลับๆ ไม่เช่นนั้นหากท่านหาอย่างเปิดเผยเช่นนี้ พวกเขารู้ว่าไปหานายท่านละก็ ถึงตอนนั้นพวกเขาอาจส่งคนไปฆ่าก็ได้นะเจ้าคะ?"
แม่ทัพฉีฟังแล้วก็รู้สึกมีเหตุผลและรีบกล่าวว่า "เช่นนั้นก็ดำเนินการอย่างลับๆ"
"เช่นนั้นก็ไม่ได้เจ้าค่ะ ท่านแม่ทัพ นายท่านกลัวว่าท่านจะไม่ฟังคำห้ามปราม จึงให้ข้ามาขัดขวาง ท่านแม่ทัพนั่งลงก่อน เรามาคุยกันดีๆ เจ้าค่ะ"
"คุยอะไรหรือ? ช้ากว่านี้ก็จะตามไม่ทันแล้ว ต้องตามไปตอนนี้" แม่ทัพฉีต้องการจะไป อวิ๋นจิ่นจึงร้องไห้ออกมา
เมื่อเห็นอวิ๋นจิ่นร้องไห้ออกมา แม่ทัพฉีก็ตกใจขึ้นมา
"ร้องไห้ทำไมหรือ ข้าก็ไม่ได้โยนเจ้าออกไป รีบหยุดร้องเดี๋ยวนี้เลย"
อวิ๋นจิ่นเกือบจะหัวเราะออกมา
นางหันกลับไปร้องไห้พลางกับกล่าวว่า "นายท่านได้ติดต่อกับท่านอ๋องแล้ว ท่านอ๋องบอกว่าจะมารับระหว่างทาง หากท่านแม่ทัพไป ข้าก็ไม่รู้จะอธิบายอย่างไรเจ้าค่ะ"
"อะไรนะ? พูดว่าอย่างไรนะ? ทำไมข้าถึงไม่รู้?" แม่ทัพฉีสงสัย เขาส่งข่าวกับนกพิราบแต่ลูกเขยไม่มีตอบกลับ แต่ลูกสาวกลับติดต่อได้แล้ว?
"ข้าก็ไม่แน่ชัดนัก แต่นายท่านพูดเช่นนี้เจ้าค่ะ"
"เจ้านายของเจ้าโกหกเจ้าแล้ว ข้าไม่เชื่อด้วยซ้ำ แต่เจ้ากลับเชื่อหรือ?"
แม่ทัพฉีรู้สึกดูถูกอวิ๋นจิ่น เด็กคนนี้ดูเหมือนจะฉลาด รู้จักหาเงินเก่ง ทำไมถึงถูกหลอกง่ายๆ เช่นนี้
เมื่อเดินอ้อมกลับมาแม่ทัพฉีก็ต้องการจะจากไป อวิ๋นจิ่นรู้ว่าขัดขวางต่อไปไม่ได้และไม่สามารถโกหกได้อีก จึงกอดแม่ทัพฉีไว้จากข้างหลัง
"ท่านแม่ทัพ ท่านดูข้าทำเช่นนี้แล้ว ท่านไปสิ ดูว่าท่านจะไปได้อย่างไร?"
แม่ทัพฉีตกใจจนตัวสั่น
"เจ้ารีบ เจ้ารีบปล่อยข้าเดี๋ยวนี้" แม่ทัพฉีรีบปล่อยอวิ๋นจิ่นออก อวิ๋นจิ่นจึงตะโกน
"ใครก็ได้ ใครก็ได้......"
มู่เหมียนที่รออยู่ที่หน้าประตูจึงรีบวิ่งเข้ามา เมื่อเห็นสถานการณ์ตรงหน้าจึงรีบหันหลังกลับและใช้มือบังตา
"ขัดต่อประเพณีและศีลธรรม ช่างไม่เหมาะสม......" ตามที่ได้ตกลงกันไว้ก่อนหน้านี้ มู่เหมียนจึงรีบพูดออกมา
แม่ทัพฉีตกใจจนรีบผลักอวิ๋นจิ่นออกไป และหลบไปอีกฝั่งหนึ่ง
"นี่......นี่......"
แม่ทัพฉีพูดติดๆ ขัดๆ ไม่เป็นคำพูด อวิ๋นจิ่นจึงพูดขึ้นมา "มู่เหมียน เจ้าอย่าพูดจาเหลวไหล"
มู่เหมียนสะบัดชายกระโปรงแล้ววิ่งออกไป
แม่ทัพฉีรีบตะโกน "กลับมา เจ้ารีบกลับมาเดี๋ยวนี้"
อวิ๋นจิ่นแล้วเปลี่ยนสีหน้าและร้องไห้ออกมาก่อนจะถามว่า "ท่านแม่ทัพ ทำอย่างไรดีเจ้าคะ?"
"เหลวไหล อะไรคือทำอย่างไรดี? ข้าไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น"
"แต่มู่เหมียนคิดล่ะเจ้าคะ?" อวิ๋นจิ่นทำสีหน้าลำบากใจ แม่ทัพฉีก็ตระหนก
"เช่นนั้นเจ้าว่าควรทำเช่นไร? เป็นเพราะเจ้า อยู่ดีๆ แต่เจ้ากลั[มากอดข้าได้อย่างไร?" แม่ทัพฉีรู้สึกโกรธจัด
"นั่นก็เป็นเพราะท่านแม่ทัพต้องการออกไปไม่ใช่หรือเจ้าคะ?" อวิ๋นจิ่นทำสีหน้าลำบากใจ
แม่ทัพฉีชี้ไปที่ประตู "เจ้ารีบไปนำนางกลับมา บอกนางให้ละเอียดและอย่าให้นางเอาไปพูดเหลวไหลข้างนอก"
"เช่นนั้นท่านแม่ทัพจะไปหรือไม่เจ้าคะ?"
"ไป จะไปอะไรอีก เจ้ารีบไปซะ" แม่ทัพฉีรู้สึกโมโห
อวิ๋นจิ่นหันกลับจากนั้นจึงออกไป
แม่ทัพฉีรอให้นางออกไปจากนั้นก็ทำสีหน้าจริงจังและเดินออกจากภายในเรือนไปด้วยใบหน้าบูดบึ้ง
เขากลับไม่สนใจสิ่งเหล่านั้น และเดินตรงไปที่ประตูหน้าของจวนท่านอ๋องเย่
เขาต้องการไปหาลูกสาว เรื่องอื่นทั้งหมดนั้นต่างไม่สำคัญ
ระยะทางการเดินทางไปเขตชายแดนนั้นไกลมาก เขาต้องไปปกป้องลูกสาว ไม่ใช่ว่าคำพูดของอวิ๋นจิ่นเหล่านั้นจะสามารถโกหกเขาได้
เขายังต้องการเข้าวังหลวงไปพบจักรพรรดิ เพื่อบอกจักรพรรดิว่าเขาต้องการไปหาลูกสาว
แม่ทัพฉีรีบร้อนที่จะออกไปจนเกือบจะล้มลงเมื่อสะดุดที่หน้าประตู
มีเงาของคนหนึ่งเข้ามา และได้รับตัวของแม่ทัพฉีไว้
แม่ทัพฉีรู้สึกสับสนในขณะนั้น คนที่อยู่ข้างหลังก้มตัวลงและแบกแม่ทัพฉีไปที่เรือนด้านหลัง
พ่อบ้านอาวุโสรีบปิดประตู เขาตกใจจนเหงื่อไหลเต็มตัว
อวิ๋นจิ่นก็ตามไปที่เรือนจู๋อวิ๋นไจที่อยู่ด้านหลัง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ