ฉีเฟยอวิ๋นมีสีหน้าสงสัย "เขามีลูกชายด้วยหรือ?"
"อวิ๋นอวิ๋น เจ้าไม่รู้ขนาดว่าเขามีลูกชายสามคนอย่างนั้นหรือ?" แม่ทัพฉีพูดไม่ออกกับลูกสาวคนนี้ "เจ้ารู้แต่ท่านอ๋องเย่"
ฉีเฟยอวิ๋นหน้าแดง "จำไม่ได้แล้ว ท่านพ่อ จวินเจิ้งตงมีลูกชายเยอะเช่นนี้แต่กลับหนีไปแล้ว?"
"ไม่น่าจะใช่ จวินเจิ้งตงและพ่อเป็นสหายกัน พวกเราเคยดื่มเหล้าด้วยกัน ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ใช่คนเก่งกาจอะไร แต่ก็เป็นคนที่ซื่อสัตย์ เขาไม่มีเหตุผลอะไรที่จะคิดกบฏทรยศหักหลัง การกระทำของเขาในครั้งนี้ อาจจะเกี่ยวข้องกับลูกชายทั้งสามของเขา พ่อจะรอความคืบหน้าของพวกเขา หากเขาเป็นกบฏคิดคดทรยศต่ออาณาจักร พ่อจะชำระล้างแค้นนี้ให้กับท่านราชครูจวินเอง แต่หากไม่ใช่ก็ยังพอมีแก้ไขได้"
แม่ทัพฉีลุกขึ้น "นี่ก็ดึกมากแล้ว ไปพักผ่อนกันก่อนเถอะ พรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่ อวิ๋นอวิ๋นเจ้าอยู่ที่กระโจมของพ่อที่นี่ หากมีเรื่องอะไรพ่อจะได้ปกป้องเจ้าได้"
"เจ้าค่ะ"
เมื่อทั้งหมดถูกจัดแจง ทุกคนต่างก็แยกย้าย ฉีเฟยอวิ๋นจึงเข้าไปหาแม่ทัพฉี เธอรู้ว่าแม่ทัพฉีมีอะไรจะพูด
เมื่อสองพ่อลูกนั่งลง ฉีเฟยอวิ๋นจึงถามว่า "ท่านพ่อ ท่านมีเรื่องอะไรที่ต้องการพูดหรือไม่เจ้าคะ?"
แม่ทัพฉีจึงดึงมือของฉีเฟยอวิ๋นเข้ามาและกล่าวว่า "ทำไมเจ้าถึงไม่เชื่อฟังบ้างเลยนะ อยู่ในเมืองหลวงอย่างสุขสบายก็ดีเท่าไรแล้ว แต่ดันอยากจะมาทุกข์ทรมานกับเรื่องเช่นนี้ เจ้าดูท้องของเจ้าสิ หากเกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้น เช่นนี้พ่อจะทำเช่นไร?"
"ท่านพ่อ ข้าก็ไม่ได้เป็นอะไรเห็นไหม?" ฉีเฟยอวิ๋นพูดเกลี้ยกล่อมแม่ทัพฉี
แม่ทัพฉีถอนหายใจ "พ่อก็แค่กลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้นแล้วไม่ทันกาล"
"ไม่มีทางเจ้าค่ะ" ฉีเฟยอวิ๋นไม่กลัว แต่แม่ทัพฉีกลับมีสีหน้าไม่สบายใจนัก และมักกังวลว่าจะเกิดอะไรขึ้น
ฉีเฟยอวิ๋นตื่นขึ้นมาในตอนเช้า แม่ทัพฉีก็ลุกขึ้นแล้ว สองพ่อลูกจึงพูดคุยเรื่องสำคัญกัน
"ท่านพ่อหมายความว่า จวินเจิ้งตงอาจจะถูกข่มขู่ เหตุผลหลักก็เพราะลูกชายทั้งสามคนของเขาถูกจับไป?" ฉีเฟยอวิ๋นคาดเดา
แม่ทัพฉีส่ายหน้า "อาจจะไม่ถูกจับไป พูดยาก"
"ท่านพ่อ ทำไมท่านยังพูดอ้อมค้อมกับข้าอีก?"
"พ่อไม่สามารถยืนยันได้ แต่พ่อมาที่นี่ได้สิบกว่าวันแล้วและไม่เห็นว่าทหารของฝ่ายตรงข้ามจะมีการเคลื่อนไหวอะไร แต่ตอนที่จวินเจิ้งตงจะฆ่าพ่อในคืนนั้น ทหารของฝ่ายตรงข้ามเข้ามาจู่โจมทหารของพ่อ นี่ก็สามารถบอกได้ว่า ต่อให้จวินเจิ้งตงไม่ได้คิดทรยศหักหลังอาณาจักร ทหารของพ่อจะต้องมีสายลับเข้าไปสอดแนม พวกเขาดูจากสัญญาณก็สามารถรู้ได้ว่าพ่อถูกฆ่าแล้วหรือไม่
หากพวกเขาต้องการศีรษะของพ่อ หากไม่เห็นศีรษะของพ่อ จะต้องรู้ได้ว่าการฆ่าพ่อนั้นล้มเหลว พ่ออยู่ที่นี่พวกเขาจึงไม่กล้าทำการเคลื่อนไหวอะไรง่ายๆ"
ฉีเฟยอวิ๋นรู้สึกชื่นชมท่านพ่อของเธอในความเฉลียวฉลาด
"เช่นนั้นท่านพ่อจะหาพวกเขาได้อย่างไร?"
"เรื่องหาพวกเขานั้นไม่รีบร้อน เพียงแค่พ่ออยู่ที่นี่ ไม่ช้าอย่างไรพวกเขาก็ต้องมา เพราะจวินเจิ้งตงอยู่ในมืองของพ่อ นอกเสียจากว่าพวกเขาไม่สนใจจวินเจิ้งตงตั้งแต่แรก แต่หากพวกเขาไม่สนใจจวินเจิ้งตงตั้งแต่แรก เช่นนั้นพ่อก็สามารถทำให้จวินเจิ้งตงสารภาพออกมาได้ว่าทำไมต้องทรยศหักหลังต่ออาณาจักร"
"ท่านพ่อเก่งกาจสุดยอดมากที่สุดเลย!" ฉีเฟยอวิ๋นอดไม่ได้ที่จะชื่นชม
แต่แม่ทัพฉีกลับยิ้มไม่ออก "ตอนนี้สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องสำคัญเร่งรีบอะไร เรื่องเร่งด่วนในตอนนี้คือเสบียงอาหารของกองกำลังทหารของพ่อ
จวินเจิ้งตงต้องการฆ่าพ่อเพื่อให้เกิดความวุ่นวายในกองกำลังทหาร เขาเผาเสบียงอาหารไปแล้ว ถึงแม้จะขนออกมาได้ทันอยู่บ้าง แต่ก็สูญเสียไปเป็นจำนวนมาก ต่อให้รอเสบียงอาหารที่เมากมายเช่นนั้นก็ต้องรออยู่หลายวัน
และไม่ต้องพูดถึงยาและเสื้อผ้า อีกแค่เพียงหนึ่งเดือนจะเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงแล้ว ถึงตอนนั้นหากกองกำลังของพ่อไม่มีเสบียงอาหารและเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม และหากทหารของฝ่ายตรงข้ามเข้ามาจู่โจมอีก เช่นนั้นคงยากต่อการรับมือ"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ