ฉีเฟยอวิ๋นออกมาจากถ้ำ พยายามหาชายแปลกหน้าเพื่อออกไปด้วยกัน แต่ท้ายที่สุดนางออกมาแล้วก็ไม่เห็นผู้ใดเลย
ฉีเฟยอวิ๋นก็ยอมใจแล้ว พอเกิดเรื่องก็ทิ้งนางไว้แล้วจากไปเลย เป็นคนอะไรกัน?
ไม่เห็นชายแปลกหน้าฉีเฟยอวิ๋นมองไปโดยรอบ ต้องการออกไปนั้นยากลำบาก นางเข้ามาได้แต่ว่ากลับไม่สามารถออกไปได้
ไม่ใช่ว่านางเดินทางบนเขาไม่ได้เช่นไรก็ฝึกฝนภาคสนามมานานเช่นนั้น แต่ตอนนี้นางพบว่าภูเขาโบราณนั้นดูน่ากลัวไปหน่อยจึงหาทางออกไปไม่ได้จริงๆ ทิศทางก่อนเข้ามานั้นชัดเจนแต่ในขณะที่ไล่ตามเสือมาทางนี้ลืมทุกสิ่งอย่างไปหมดเลย ทางก็จำไม่ได้ ต้องการออกไปนั้นยากลำบากยิ่งนัก
ฉีเฟยอวิ๋นเหลือบมองเจ้าห้าในอ้อมแขนและกล่าวอย่างช่วยไม่ได้ว่า: "แม่ไร้ประโยชน์ยิ่งนัก คิดไม่ถึงว่าแม้แต่ทางก็จำไม่ได้ หากมีโทรศัพท์ก็ดีสิ สามารถโทรหาพ่อเจ้าได้จะดีแค่ไหน”
ฉีเฟยอวิ๋นหวังว่าที่นี่จะมีโทรศัพท์มือถือและติดตั้งให้หนานกงเย่เครื่องหนึ่ง เช่นนั้นก็จะสามารถติดต่อกันได้แล้ว
เจ้าห้าลืมตาขึ้นราวกับว่าไม่เข้าใจในสิ่งที่ฉีเฟยอวิ๋นพูด ฉีเฟยอวิ๋นวางเจ้าห้าไว้ในอ้อมแขนแล้วกล่าวว่า: "แม่จะพาเจ้าไป"
ทันทีที่กล่าวจบก็มีเสียงบางอย่างเดินเกิดชึ้นมาจากด้านหลัง เสียงเบายิ่งนักแต่รู้สึกถึงได้ เป็นสัตว์ประหลาดขนาดใหญ่
ฉีเฟยอวิ๋นหันหลังมองกลับไป เป็นเสือสองตัวตัวใหญ่ตัวหนึ่งและตัวเล็กตัวหนึ่งออกมา
เห็นเสือแล้วฉีเฟยอวิ๋นก็หวาดกลัว เดิมนางก็กลัวเสืออยู่แล้ว แต่ก็ไม่สามารถอุ้มเจ้าห้าวิ่งหนีได้เช่นไรก็บอกว่าเป็นคนของเจ้าห้าแล้ว
ฉีเฟยอวิ๋นฝืนสงบนิ่ง สานสัมพันธ์กับเสือตัวใหญ่นั้นไม่ได้ง่ายเหมือนอีกา
แต่เสือบนภูเขานี้น่าจะเป็นเสือโคร่ง ขอร้องแล้วออกไปได้เป็นแน่
ฉีเฟยอวิ๋นกล่าวอย่างลำบากใจว่า: “เข้ามาก็ออกไปไม่ได้แล้ว เจ้าส่งข้าออกไปได้หรือไม่?”
เสือตัวใหญ่ก้าวอุ้งเท้าอันอ้วนพีเดินไปตรงหน้า ฉีเฟยอวิ๋นและหมอบลงบนพื้น ฉีเฟยอวิ๋นจึงถามว่า: "ให้ข้านั่งบนตัวเจ้าหรือ?"
เสือตัวใหญ่คำรามส่วนฉีเฟยอวิ๋นส่ายศีรษะ: “ไม่ ได้ ข้าเดินและข้าก็ไม่กล้านั่ง เจ้าแค่นำพาข้าออกไปก็พอ”
เสือตัวใหญ่จึงลุกขึ้นและนำทางฉีเฟยอวิ๋นเดินไปด้านหน้า และเจ้าเสือน้อยก็ก้าวทีละก้าวทีละรอยเท้าตาม เจ้าเสือน้อยนั้นตัวเล็กเกินไปจึงเดินได้ช้า เสือตัวใหญ่จึงคาบเอาไว้แล้วเดินไป
เดินเป็นเวลาสองชั่วยามกว่า ฉีเฟยอวิ๋นจึงมาถึงหน้าเรือนเมื่อครู่ หยุดลงแล้วฉีเฟยอวิ๋นก็ถามว่า: "มีผู้ใดอยู่ในเรือนหรือไม่?"
เสือตัวใหญ่ส่ายหัวฉีเฟยอวิ๋นจึงกล่าวว่า: "หนาวเกินไปหากข้าออกไปยังไม่ทันลงเขาก็ค่ำมืดซะแล้ว ไม่เช่นนั้นพักที่นี่พวกเจ้าแม่ลูกก็กลับไปก่อนเถอะ"
ฉีเฟยอวิ๋นรู้ว่าชายแปลกหน้าไม่อยู่จึงไปยังด้านในกระท่อม
ใครจะรู้ว่าเสือตัวใหญ่ก็คาบเจ้าเสือน้อยเข้าไปด้วย
ฉีเฟยอวิ๋นก็ไม่สะดวกที่จะกล่าวสิ่งใด ราวกับว่ากำลังเดินอยู่กับสุนัขตัวหนึ่งอยู่ตลอดทางไม่ใช่เสือตัวหนึ่ง
เสือตัวใหญ่วางเจ้าเสือน้อยลง ฉีเฟยอวิ๋นมองไปโดยรอบ ในเรือนยังมีตะเกียงน้ำมันอยู่นางจึงได้จุดไฟก่อน แต่ทว่าว่าไม่มีของกินฉีเฟยอวิ๋นจึงอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ: "ก็คงต้องทนหิว"
ฉีเฟยอวิ๋นโชคดีที่เสือตัวใหญ่อยู่
“รบกวนแม่เสือแล้ว สักคู่เจ้าให้เจ้าห้ากินมื้อหนึ่งเพื่อให้สามารถทนอยู่ถึงพรุ่งนี้เช้าได้”
แม่เสือไม่พูดสักคำราวกับว่าไม่อยากเปิดปาก
เจ้าเสือน้อยมีชีวิตชีวามากกว่า กระโดดโลดเต้นอยู่ในเรือนและอยากรู้อยากเห็นไปหมดทุกอย่าง
เสือตัวใหญ่นั้นไม่มีความสุขใช้กรงเล็บจับเจ้าเสือยน้อยเอาไว้
ฉีเฟยอวิ๋นก็เหนื่อยแล้วเช่นกันเดินไปยังเตียงไม้และพักผ่อนเป็นเวลาหนึ่งชั่วยาม ขณะที่ตื่นขึ้นมาก็พบว่าเสือตัวใหญ่ก็อยู่บนเตียงไม้เช่นกัน
เตียงไม้นั้นใหญ่มากจนไม่ได้ถูกเสือตัวใหญ่ที่มีน้ำหนักหลายร้อยกิโลกรัมทับแต่กลับอบอุ่นยิ่งนัก
ฉีเฟยอวิ๋นกับเจ้าห้าอยู่ในอ้อมแขนของเจ้าเสือ ที่น่าแปลกก็คือเจ้าเสือน้อยแนบชิดติดอยู่กับเจ้าห้าหัวเล็กๆยังคงชิดอยู่กับศีรษะเล็กของเจ้าห้าฝั่งหนึ่ง เช่นนี้เจ้าห้าจึงไม่หนาว
ฉีเฟยอวิ๋นกอดเจ้าเสือน้อยไว้ เจ้าเสือน้อยตื่นขึ้นมาจากนั้นก็เลียใบหน้าของฉีเฟยอวิ๋นครั้งหนึ่ง รู้สึกขมฉีเฟยอวิ๋นนัันทนไม่ไหวซะแล้ว
เจ้าห้าลืมตาขึ้นแล้วเหลือบมองเจ้าเสือน้อย เจ้าเสือน้อยเอาหัวออกและมันก็คว่ำอยู่ฝั่งหนึ่งอย่างเชื่องนักโดยไม่กล้าทำสิ่งใดเรื่อยเปื่อย
ฉีเฟยอวิ๋นขบขำ: "ไม่เป็นไรนะ ขอบใจเจ้ามากไม่เช่นนั้นเจ้าห้าคงจะแข็งไปแล้ว"
เจ้าเสือน้อยได้ยินก็ดีใจ ม้วนตัวไปมาและเงยหน้าขึ้นครางออกมาเสียงหนึ่ง
ในเวลานี้เสือตัวใหญ่ลุกยืนขึ้นมาแล้วคาบเจ้าเสือน้อยแล้วจากไป ฉีเฟยอวิ๋นก็อุ้มเจ้าห้าขึ้นมา ออกประตูไปแล้วเสือตัวใหญ่มองกลับไปยังฉีเฟยอวิ๋นและเดินจากไปท่ามกลางสายลมและหิมะ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ