ฉีเฟยอวิ๋นจนปัญญาจำใจต้องเข้าเมืองกับชายแปลกหน้า เพื่อที่จะปิดบังความจริง ฉีเฟยอวิ๋นทำให้หน้าของตนเองเปื้อนมาก เฟิงอู๋ชิงถามเรื่องเกี่ยวกับจวนอ๋องเย่กับเธอไม่กี่ประโยค ฉีเฟยอวิ๋นถามว่า“เจ้าไปหาญาติที่จวนอ๋องเย่หรือ?”
“ไปสังหารคน!”เฟิงอู๋ชิงกล่าวอย่างราบเรียบ ฉีเฟนอวิ๋นสะดุ้งตกใจ คิดว่าเฟิงอู๋ชิงไม่ใช่คนที่ง่ายต่อการรับมือเลย มีความแค้นอันใดถึงต้องไปหาหนานกงเย่
“เจ้าอยากสังหารผู้ใดกัน?”ฉีเฟยอวิ๋นกล่าวเสียงสั่นเครือ
เฟิงอู๋ชิงหยุดแล้วชำเลืองมองฉีเฟยอวิ๋น เขากล่าวว่า“พระชายาเย่”
“......”
ฉีเฟยอวิ๋นอ้าปากเสียงตะกุกตะกักกล่าวว่า“พระชายาเย่หรือ?”
“อืม”
แม่เจ้า เขาต้องการสังหารเธอหรือ?
ฉีเฟยอวิ๋นถามว่า“พวกเจ้ามีความแค้นต่อกันหรือ?”
“ไม่มี”
ฉีเฟยอวิ๋นกล่าวถามด้วยความแปลกใจว่า“เช่นนั้นเพราะเหตุใดกัน?”
“มีคนให้ตั๋วเงิน เพื่อให้ข้าสังหารนาง”เฟิงอู๋ชิงกล่าวอย่างเรียบเฉย คล้ายดั่งการสังหารคนเป็นการกินข้าว
ฉีเฟยอวิ๋นถึงได้รู้สึกว่านี่คือนักฆ่าที่แท้จริง
คิดไม่ถึงเลยว่าการสังหารคนจะพูดได้ง่ายเช่นนี้
“ข้าไม่รู้จักพระชายาเย่ แต่เจ้าต้องการสังหารนาง ควรที่จะไปหาถามคน ข้าไม่รบกวนเจ้าแล้ว”
ฉีเฟยอวิ๋นเตรียมตัวเผ่น กลับถูกเฟิงอู๋ชิงเรียกไว้ว่า“ร่างกายข้าไม่แข็งแรงดี เจ้าอยู่ดูแลข้า วันนี้ดึกแล้ว หาสถานที่พักก่อน”
ฉีเฟยอวิ๋นถูกเรียกไว้ใจสั่นหวั่นไหวไปหมด เธอหยุดฝีเท้าลงไม่ได้ตามไป
เฟิงอู๋ชิงกล่าวอีกว่า“รอหาสามีเจ้าเจอ ข้าจะช่วยเจ้าสังหารเขา ถือว่าเป็นค่ารักษาที่เจ้าช่วยรักษาข้า”
“ไม่จำเป็น ข้าไม่ต้องการสังหารสามีของข้า ถึงแม้ความสัมพันธ์ของข้ากับสามีจะไม่ดี แต่ถึงอย่างไรก็มีลูกแล้ว ถึงอย่างไรเขาก็คือท่านพ่อของลูกข้า ข้าจะสังหารเขาได้อย่าง
เพียงแค่เขาสามารถเปลี่ยนแปลงความคิด ข้าก็เพียงพอใจแล้ว”ฉีเฟยอวิ๋นกล่าวอธิบายอย่างเลอะเทอะ
เฟิงอู๋ชิงกล่าวว่า“เช่นนั้นข้ารับเด็กผู้นี้เป็นลูกศิษย์ เจ้ามิต้องกังวลว่าลูกจะไร้ผู้เลี้ยงดูจนเติบโต ข้าจะเลี้ยงให้เจ้า สังหารคนทรยศนั่นเสีย”
ฉีเฟยอวิ๋นเงียบสนิท นี่คือตรรกะอะไรกัน
“บุคคลที่มีจิตใจกล้าหาญเข้าใจผิดแล้ว ข้ายังไม่รู้เลยว่าเจ้าชื่ออะไร?”ฉีเฟยอวิ๋นเปลี่ยนหัวข้อสนทนา เลยถือโอกาสถามด้วยว่าใครจะสังหารเธอ
เธอถามตนเองว่าไม่ได้ไปทำให้ใครไม่พอใจนะ แต่ว่าเหตุใดถึงต้องพบเจอเรื่องนี้?
เฟิงอู๋ชิงกล่าวอย่างเยือกเย็นว่า“เฟิงอู๋ชิง!”
ฉีเฟยอวิ๋นชะงักงัน เฟิงอู๋ชิง?
อวิ๋นจิ่นเคยบอกจะหาคนผู้นั่น หัวหน้าหอทิงเฟิงหรือ?
ตอนที่พิจารณา ฉีเฟยอวิ๋นรู้สึกค่อนข้างกังวลใจ คนเยี่ยงนี้มาเป็นราชครูอาจารย์ของลูก ไม่เหมาะสมหรอก?
“ไปเถอะ”
ตอนที่ฉีเฟยอวิ๋นเหม่อลอย เฟิงอู๋ชิงได้หมุนตัวเดินไปแล้ว
ฉีเฟยอวิ๋นไร้หนทางจำใจต้องเดินตามเขาไป พอถึงหน้าประตูเมือง ยังไม่ทันได้เข้าไป ประตูเมืองได้ปิดเข้าหากันแล้วเพราะไม่อนุญาตให้เข้าไป
ฉีเฟยอวิ๋นอ้าปากค้าง อย่างนี้ก็ได้หรือ
เธอยังไม่ทันได้เข้าไปเลยนะ?
ได้แต่จ้องมองประตูเมืองปิด ฉีเฟยอวิ๋นถามว่า“ตอนนี้ทำอย่างไร?เข้าไปไม่ได้เสียแล้ว”
“ไปเถอะ ไปที่วัดของราชวงศ์กัน”เฟิงอู๋ชิงหมุนตัวเดินไป ใบหน้าของฉีเฟยอวิ๋นเต็มไปด้วยความประหลาดใจ ยังต้องไปที่วัดของราชวงศ์ด้วย
วัดของราชวงศ์มีเพียงวัดฮู่กั๋ว เขาต้องการไปวัดฮู่กั๋วหรือ?
“วัดฮู่กั๋วไปสถานที่ของราชวงศ์ พวกเราเข้าไปได้หรือ?”ฉีเฟยอวิ๋นพยายามถาม เฟิงอู๋ชิงก็ไม่ได้สนใจ เดินต่อไป
วัดฮู่กั๋วอยู่นอกเมืองหลวงยี่สิบลี้ ขาของฉีเฟยอวิ๋นจนจะขวิดแล้ว
เดินถึงช่วงดึกฉีเฟยอวิ๋นถึงได้เดินตามทัน และเฟิงอู๋ชิงเดินอยู่ด้านหน้าอย่างสบายคล่องแคล่ว ฉีเฟยอวิ๋นตัดสินใจว่าค่ำคืนนี้จะสังหารใส่พิษเขาแล้ว
พอมาถึงวัดฮู่กั๋วยังมีบันไดกว่าร้อยขั้น ฉีเฟยอวิ๋นแทบอยากจะเอาเถ้ากระดูกของเขาไปโปรย
ถึงหน้าประตูวัดฮู่กั๋ว เฟิงอู๋ชิงได้เคาะประตู ด้านในไม่มีคน เขาเลยเปิดประตูออกเอง แล้วพาฉีเฟยอวิ๋นไปที่กุฏิวัดที่อยู่ด้านหลังวัดฮู่กั๋ว
ผลักประตูห้องหนึ่งออก แล้วติดไฟขึ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ