ฉีเฟยอวิ๋นไม่ยอมปล่อยเจ้าห้าลง เมื่อเด็กคนอื่นหลับกันหมดแล้ว ฉีเฟยอวิ๋นจึงหลับลง
อวิ๋นจิ่นออกไปข้างนอกพร้อมกับแม่ทัพฉี แม่ทัพฉีเดินไปถึงจวนหวาและสั่งให้คนมารื้อถอนจวนหวาทิ้ง
แม่ทัพหวาเดินออกมาจากข้างใน เมื่อแม่ทัพฉีเห็นเข้าจึงลงมือทุบตีจนแม่ทัพหวาบาดเจ็บสาหัส
อวิ๋นจิ่นเดินตามมาโดยไม่ทำอะไร แต่ก็พาคนมาด้วยอีกจำนวนหนึ่ง แต่อวิ๋นจิ่นไม่ได้คิดจะช่วยเลยสักนิด จนถึงนาทีที่แม่ทัพหวาถูกทุบตี จากนั้นแม่ทัพฉีหันกลับและเดินออกไป
แม่ทัพหวาโกรธจนตะโกนด่าออกมา "ฉีจือซาน เจ้าทำเกินไป"
แม่ทัพฉีหยุดชะงักและหันกลับไป แม่ทัพหวาตกใจจนตัวสั่น
แม่ทัพฉีหรี่ตาลงและจ้องมอง "สั่งคนมาที่นี่ เผาจวนหวานี่ทิ้งซะ สั่งให้คนเฝ้าบริเวณโดยรอบให้ดี อย่าทำให้ลามไปถึงพื้นที่อื่น"
อวิ๋นจิ่นมองออกไป แม่ทัพฉีมีทีท่าที่จริงจังเด็ดขาดมาก
รองแม่ทัพเฉารีบนำคนไปจุดไฟเผา และเฝ้าดูอย่างใกล้ชิด
แม่ทัพหวาโกรธจนแทบกระอักเลือด จากนั้นจึงรีบกลับไปเรียกให้คนช่วยกันดับไฟ สุดท้ายก็ทำเอาทุลักทุเล ราวกับเดินเข้าไปในห้องไฟ
แม่ทัพฉีเดินกลับไปด้วยความหัวเสีย อวิ๋นจิ่นรีบเดินตาม
เมื่อแม่ทัพฉีมาถึงจวนท่านอ๋องเย่ก็ถอนหายใจออกมา จากนั้นจึงก้าวเดินเข้าไปข้างใน
ขณะนี้ท้องฟ้าก็มืดลงแล้ว ฉีเฟยอวิ๋นและทุกคนต่างพากันหลับหมดแล้ว
แม่ทัพฉีเดินเข้ามาพอดีกับที่หนานกงเย่ก็ผลักประตูออกมา
เมื่อเห็นแม่ทัพฉี หนานกงเย่จึงรีบพูดออกไป "ท่านพ่อตา"
ไปจัดการคนให้แล้ว เช่นนี้ความสัมพันธ์ก็ยิ่งใกล้ชิดกันมากขึ้น
ฉีเฟยอวิ๋นอุ้มเจ้าห้าขึ้นมาและเดินไปที่หน้าประตู
อามู่และเสี่ยวเฉียวก็ตื่นขึ้นมา ทั้งสองดูแลเด็กคนอื่นโดยไม่ต้องรอให้ฉีเฟยอวิ๋นสั่ง
เพื่อไม่เป็นการเสียเวลาของพวกเขา หงเถาและลี่ว์หลิ่วจึงรีบเข้ามาเพื่อดูแลเด็กๆ ฉีเฟยอวิ๋นได้สั่งไปแล้วว่าอามู่คือพี่ชายคนโตของเด็กๆ มีเรื่องอะไรให้เชื่อฟังอามู่ เสี่ยวเฉียวเป็นเด็กผู้หญิง แน่นอนว่าต้องเป็นคนที่สวยที่สุดในจวน
"อืม นี่ก็ดึกมากแล้ว คืนนี้ฝ่าบาทจัดงานเลี้ยงต้อนรับพวกเจ้า รีบเปลี่ยนชุดเตรียมตัวที่จะเข้าวังเถอะ"
"ขอรับ" หนานกงเย่ตอบรับด้วยเสียงเรียบ
ฉีเฟยอวิ๋นสัมผัสได้ว่าท่านพ่อของเธอมีบางอย่างผิดปกติไป
"ท่านพ่อ ท่านไปหรือไม่เจ้าคะ? หรือว่าจะอยู่ดูแลเด็กๆ ที่บ้าน แต่ตามหลักแล้วท่านพ่อต้องไป หากไม่ไปละก็เกรงว่าจะไม่เหมาะสม"
"พ่อจะไปกับพวกเจ้า เด็กๆ ก็ไปด้วยกัน พระพันปีตรัสหลายครั้งแล้วว่าอยากจะเจอ พวกเจ้าสองสามีภรรยากลับไม่อยู่ พ่อจึงไม่ได้พาไปเจอ ถึงอย่างไรก็เป็นท่านย่าของเด็กๆ พ่อทำไปเช่นนีั้นก็ถือว่าผิด" แม่ทัพฉียอมรับผิด
ฉีเฟยอวิ๋นชำเลืองมองหนานกงเย่ก็ยิ่งรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติไป
สองสามีภรรยาจ้องตากันก็ไม่พูดอะไร
"เช่นนั้นท่านพ่อตาก็จะพาอามู่และเสี่ยวเฉียวไปด้วยหรือไม่?"
แม่ทัพฉีเหลือบไปมองอามู่และเสี่ยวเฉียว "ตามใจพวกเจ้าก็แล้วกัน"
แม่ทัพฉีหันหลังและเดินออกไปก่อน ฉีเฟยอวิ๋นกลับยิ่งรู้สึกแปลก
จากนั้นจึงหันหลังกลับไปที่หนานกงเย่ ฉีเฟยอวิ๋นถาม "ท่านพ่อแปลกไปมาก!"
"เจ้าห้าไม่มีความสุข ท่านพ่อก็เลยไม่มีความสุข" หนานกงเย่หันหลังเดินกลับเข้าไป จากนั้นจึงมองไปที่เจ้าห้า
"ไปกันทั้งหมดนี่ล่ะ จะได้ขอยศตำแหน่งให้กับพวกเจ้าด้วย เมื่อเข้าวังหลวงไปอามู่ต้องเปลี่ยนมาเรียกเป็นท่านพ่อบุญธรรมและท่านแม่บุญธรรม เช่นนี้จะดูสมเหตุสมผลกว่า"
"ขอรับ" อามู่ตอบตกลง
หนานกงเย่หันมามองฉีเฟยอวิ๋น "พาสวีกงกงไปด้วย อามู่จะได้ช่วยดูแลเจ้าสี่ อวิ๋นอวิ๋นและข้าดูแลหนึ่งคน เสียวกั๋วจิ้วและท่านพ่อตาก็สามารถช่วยดูแลอีกคน"
"หม่อมฉันว่าพาหงเถาและลี่ว์หลิ่วไปด้วยจะดีกว่า พวกนางจะได้คุ้นเคยกับวังหลวง อามู่และเสี่ยวเฉียวก็ยังต้องการคนดูแล ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นการเข้าวังครั้งแรก จะพลาดไม่ได้เพคะ"
หนานกงเย่ครุ่นคิด "อันที่จริงเข้าวังหรือไม่เข้าวังก็เหมือนกัน ฐานะที่อยู่ในจวนก็ยังคงอยู่ตรงนั้น
อวิ๋นจิ่น เจ้าดูแลอามู่และเสี่ยวเฉียว"
"เพคะ"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ