โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง นิยาย บท 260

อันหรันเห็นมือของฮั่วเทียนหลันค่อยๆ กำแน่น จากนั้นก็ปล่อยอยู่หลายหน นั่นอาจแสดงว่าเขากำลังจะโกรธอยู่

เธอฟังอยู่สักพัก ลั่นลานก็ส่งข้อความมาที่ที่วีแชท เธอจึงเริ่มพูดคุยกับลั่นลาน

หูอีกข้างก็ฟังเสียงของฮั่วเทียนหลัน อันหรันพูดคุยอยู่กับลั่นลานนานกว่าหนึ่งชั่วโมง

ผ่านไปสักพัก เมื่อบอกราตรีสวัสดิ์กับลั่นลาน เธอก็รู้สึกแปลกๆขึ้นมาทันที

ราวกับว่าเธอกำลังถูกจับตามอง

ทันทีที่เธอเงยหน้าขึ้น เธอก็เห็นสายตาของฮั่วเทียนหลันกำลังมองเธออยู่ เธอไม่รู้ว่ามายืนอยู่ข้างๆเธอตั้งแต่เมื่อไหร่

อันหรันรีบเก็บโทรศัพท์ ในขณะนี้เธอมีความประหม่าเล็กน้อย

เธอไม่รู้ว่าฮั่วเทียนหลันรู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับลั่นลานหรือไม่

โชคดีที่เมื่อสักครู่เพียงแค่เล่านิทานให้ลั่นลานฟัง ไม่ได้มีการเอ่ยถึงสถานะของแม่กับลูก

“ คุณฮั่ว ... ” อันหรันพูดเบา ๆ

“ คุยจบแล้วเหรอ?” ฮั่วเทียนหลันพูดเพียงประโยคเดียว

อันหรันพยักหน้า เหลือบมองไปยังคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คที่วางอยู่บนโต๊ะรับแขก แล้วถามว่า "คุณทำธุระเสร็จแล้วหรือคะ?"

ฮั่วเทียนหลันพยักหน้า จากนั้นยื่นมือออกมาและพูดว่า "ไปพักผ่อนกันเถอะ!"

อันหรันตกตะลึงไปชั่วขณะ หลังจากที่รู้ว่าฮั่วเทียนหลันขอให้เธอช่วยประคองเขาขึ้นไปที่ชั้นบน

เธออดไม่ได้ที่จะคิดว่า ชายคนนี้ แกล้งทำเป็นคนป่วยหรือเปล่านะ

อันหรันประคองฮั่วเทียนหลันขึ้นไปชั้นบน ฮั่วเทียนหลันบอกว่าตัวเองอาการไม่ค่อยดีนัก อาบน้ำไม่ได้ จากนั้นอันหรันก็ทำได้เพียงแค่ทำในสิ่งที่ชวนให้เขินอาย

เธอถอดเสื้อผ้าของฮั่วเทียนหลัน และเช็ดด้วยผ้าอุ่นๆ เช็ดจนสะอาด

ระหว่างการเช็ดตัวให้ฮั่วเทียนหลันอยู่ เสื้อผ้าของอันหรันถูกถอดออกจนเกือบหมด

ซึ่งมันก็เร่งอารมณ์บางอย่างของฮั่วเทียนหลันอีกครั้ง ซึ่งเป็นอารมณ์ที่ทำให้เกิดกิจกรรมที่สามีภรรยานั้นควรทำร่วมกัน

แต่ว่าอันหรันก็ขึ้นไปบนเตียง เธอเกาะผ้าห่มไว้แน่น เธอยังจำคำพูดของหมอที่บอก ต้องไม่มีเพศสัมพันธ์กับฮั่วเทียนหลันเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ ถ้าไม่อย่างงั้นอาจส่งผลเสียกับไตในระยะยาว

“ คุณฮั่ว เพื่อสุขภาพร่างกาย คุณจะต้องทนให้ได้นะ” อันหรันเตือนเบา ๆ

"อย่าพูดมาก เข้ามานี่" ฮั่วเทียนหลันตอนนี้ในใจเปรียบดังเปลวไฟที่โหมกระหน่ำขึ้นเพื่อต้องการที่จะทำลายล้างอันหรัน

อันหรันคว้าผ้าห่มมาเกาะอีกครั้งแล้วพูดว่า "คุณฮั่ว อย่าค่ะ พวกเราพักผ่อนกันเถอะค่ะ"

คำพูดเมื่อสักครู่ เหมือนมีบางอย่างที่ทำให้อ่อนแรงลง อันหรันพูดเสริม "รอให้คุณดีขึ้น แล้วฉันจะฟังคุณทุกอย่างค่ะ"

ฮั่วเทียนหลันมองอันหรันอย่างมีนัยยะบางอย่าง จากนั้นเขาพยักหน้าและพูดว่า: "จำคำูดเธอไว้นะ จะฟังฉันทุกอย่าง"

หัวใจของอันสั่นสะท้านและทันใดนั้นเธอก็รู้สึกหวิวๆ

แต่การที่ฮั่วเทียนหลันไม่ได้แตะต้องตัวเธอ นั่นเป็นเรื่องที่ดี

ฮั่วเทียนหลันยกแขนขึ้น อันหรันก็โน้มตัวด้วยความเข้ามา ทั้งสองกอดกันและกัน

อ้อมแขนของเขาอบอุ่น หัวใจเต้นแรง อันหรันความรู้สึกเหมือนกับถูกห่อหุ้มด้วยความรู้สึที่กปลอดภัย

เธอรู้สึกง่วง เพราะช่วงไม่กี่วันมานี้ไม่ค่อยได้พักผ่อน

เปลือกตาค่อยๆหนักขึ้นและเสียงหายใจสม่ำเสมอดังขึ้นอย่างรวดเร็ว

ฮั่วเทียนหลันยังไม่นอน และด้วยความมุ่งมั่นที่ต้องการตัวของอันหรัน

มือของเขาลูบแขนอันขาวเนียนของอันหรันเบา ๆ

กลิ่นกายเรือนร่างที่เป็นเอกลักษณ์ของอันหรัน ทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายและมีความสุข

เขาตัดสินใจที่จะแยกทางกับมู่เหว่ยแน่นอน และผู้หญิงคนนี้จะเป็นคนที่อยู่กับเขาไปตลอดชีวิต

หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป ในตอนเที่ยงของวันนั้นอันหรันกับฉีหลานเพิ่งทานอาหารเย็นเสร็จ ระหว่างทางกลับไปบ้านเธอก็ได้รับโทรศัพท์จากฮั่วเทียนหลัน

"เธออยู่ที่ไหน?"

อันหรันเหลือบมองไปรอบ ๆ และบอกตำแหน่งที่เธออยู่

"จอดรถแถวนั้นแหละ เดี๋ยวฉันจะไปรับเธอ"

สิบห้านาทีต่อมา โจวหยวนก็ขับรถไปรับอันหรัน

ฮั่วเทียนหลันสวมชุดสูทและรองเท้าหนัง กำลังคุยโทรศัพท์อยู่ที่เบาะหลัง "ตอนบ่ายฉันก็ถึงแล้ว มีธุระอะไรเดี๋ยวค่อยเอาไว้ทีหลัง"

ฮั่วเทียนหลันวางโทรศัพท์ อันหรันเห็นว่าสีหน้าท่าทางเคร่งขรึม จึงพูดอย่างระมัดระวัง: "คุณฮั่ว เราจะไปไหนกันคะ?"

"ปากีสถาน" ฮั่วเทียนหลันพูดห้วนๆ

ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ช่วงที่อยู่บ้าน อันหรันได้ยินฮั่วเทียนหลันพูดถึงปากีสถานในวีแชทหรือในมือถือหลายต่อหลายครั้ง

ปัญหาในปากีสถานยังไม่ได้รับการแก้ไข และยังคงมีความซับซ้อนมากขึ้นเรื่อย ๆ

และเมื่อเธอไปที่บ้านของตระกูลฮั่ว เธอก็ได้ยินหลี่รูยาโทรหาใครบางคน เหมือนว่ากำลังหาอะไรที่สัมพันธ์กับประเทศนี้ เพื่อแก้ไขเรื่องราวนี้

อันหรันไม่รู้ว่าฮั่วเทียนหลันจะพาเธอไปทำไม แต่ถ้าเขาต้องการ เธอก็จะอยู่เคียงข้างกายเขาเสมอ

เมื่อเขามาถึงสนามบิน โจวหยวนก็นำกระเป๋าไปเช็คอิน เมื่อเขากลับมา เขาก็กระซิบไปที่หูของฮั่วเทียนหลัน: "คุณฮั่ว เกิดเรื่องแล้ว Grup Aneng เข้ามาแทรกแซงบริษัทข้ามชาติแล้ว"

Grup Aneng?

อันหรันยังคงจำบริษัทนี้ได้

นี่คือกลุ่มบริษัทข้ามชาติขนาดใหญ่ ซึ่งเกี่ยวข้องกับพลังงานทั่วโลก

มีอิทธิพลมาก และมีข่าวลือมาหนาหูว่า Grup Anengยังเกี่ยวข้องกับการค้าอาวุธและสนับสนุนกองกำลังของรัฐบาลหรือองค์กรก่อการร้ายในหลายประเทศ

พูดง่ายๆก็คือ บริษัทพลังงานที่ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องพวกนั้นมีอยู่เพียงไม่กี่แห่ง

อันหรันรู้จักGrup Anengครั้งแรกก็จากปากของแม่เธอเอง

ตอนนั้นเธอยังเด็ก แต่เธอได้ยินพ่อของเธอพูดกับแม่ เหมือนว่าอยากจะทำความร่วมมือกับGrup Aneng ซึ่งทางฝ่ายแม่ก็เหมือนจะรู้จักกัน

แต่แม่กลับปฏิเสธโดยไม่คิด แเละเธอก็ไม่ได้ต้องการความช่วยเหลือใด ๆ จากGrup Aneng

เธอกำลังครุ่นคิดอยู่ในความทรงจำวัยเด็ก

ซึ่งตอนนี้ดูเหมือนว่า แม่ของเธอจะมีอะไรเชื่องโยงอยู่กับGrup Aneng

"เธอกำลังจะชนเสา!" อันหรันกำลังคิดถึงเรื่องดังกล่าว ทันใดนั้นฮั่วเทียนหลันก็ลากเธอหลบจากเสาตรงบริเวณลานภายในอาคารสนามบิน

ทั้งสองเข้าไปในห้องรับรองวีไอพีและนั่งบนเก้าอี้นวด ฮั่วเทียนหลันกล่าวว่า "เธอรู้จักGrup Anengไหม"

อันหรันตอบรับเบาๆ

ฮั่วเทียนหลันรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยและกล่าวต่อว่า: "ที่จริงแล้วเรื่องนี้ แต่เดิมบริษัทน้ำมันภายใต้กลุ่ม Aneng ที่กำลังในการแข่งขันฟาเรนไฮต์อยู่ดีๆ แต่ระยะหลังIS และองค์กรก่อการร้ายเข้ามามีส่วนร่วมในการแข่งขัน ในการแข่งขันครั้งนี้ ประธานหยางเฟย บริษัท Tianhai Petroleum Company ซึ่งเป็น บริษัท ย่อยของGrup Anengถูกสังหาร และ ลีร่าบุคคลสำคัญในฝ่ายต่างประเทศของGrup Anengก็ถูกสังหารเช่นกัน ดังนั้นGrup Anengจึงสงสัยว่าฟาเรนไฮต์เป็นผู้ทำ...

ฮั่วเทียนหลันไม่จำเป็นเป็นต้องพูดต่อในส่วนที่เหลือ

ในใจของฮั่วเทียนหลัน อันหรันเป็นผู้หญิงที่ฉลาด เธอน่าจะสามารถคาดเดาได้

อันหรันรู้เข้าใจดีว่า หลี่รูยาและฮั่วเทียนหลันต่างมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ นับว่าเป็นเรื่องที่ยุ่งยากและซับซ้อนอย่างยิ่ง

การไปในครั้งนี้ของเธอ พูดให้ดูดีก็คือไปเพท่อให้เป็นหน้าเป็นตา แต่ในทางตรงการข้ามอาจจะไปเป็นภาระ

สิ่งเดียวที่เธอทำได้คือ ดูแลการเป็นอยู่ในชีวิตประจำวันของฮั่วเทียนหลัน

บางที ผู้ชายคนนี้เพียงแค่อยากพาเธอออกมา?

หลังจากขึ้นเครื่องอันหรันก็เริ่มง่วงนอน

อย่างไรก็ตาม เธอเป็นโรคกลัวความสูง หากไม่ได้นอน ก็ยิ่งทำให้เธอกลัวมากยิ่งขึ้น

เครื่องบินลงจอดที่ปากีสถานก็เป็นเวลาดึกพอสมควร

อันหรันยังคงหลับอยู่ แอร์โฮสเตสก็เดินเข้ามา แต่ยังไม่ได้พูดอะไร เนืองจากฮั่วเทียนหลันยกมือห้ามไว้

เขาลุกขึ้น อุ้มอันหรันและเดินลงจากเครื่องบิน

ร่างกายของฮั่วเทียนหลันดีขึ้นมาก ดังนั้นการทำสิ่งเรื่องเล็ก ๆ อย่างนี้จึงไม่ใช่เรื่องยาก

แต่หลังจากลงจากเครื่องบิน และไปถึงช่องวีไอพีฮั่วเทียนหลันก็หยุดและมองไปที่โจวหยวนและพูดว่า "คุณจะเห็นผมอุ้มอีกนานแค่ไหน?"

เพียงแค่ฟังคำพูดของฮั่วเทียนหลัน โจวหยวนก็รู้ทันทีว่าฮั่วเทียนหลันกำลังเหนื่อย

เขาจึงรีบตอบกลับว่า "เดี๋ยวผมไปหารถเข็นมานะครับ"

ผ่านไปสามนาทีโจวหยวนก็กลับมา

อันหรันตื่นขึ้น แล้วยืนอยู่ข้างๆฮัวเทียนหลันด้วยความเขินอายเล็กน้อย

ทั้งสามคนพูดไม่ออก มีบอดี้การ์ดติดอาวุธและกองกำลังติดอาวุธรออยู่ที่ล็อบบี้ของสนามบินแล้วหลายสิบคน ทั้งสามขึ้นรถหุ้มเกราะฮัมวี โดยมีรถถังคอยเคลียร์ทางและมาถึงโรงแรมแห่งชาติซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสภาแห่งชาติปากีสถาน

ปากีสถานถูกควบคุมโดยรัฐบาลทหาร กองกำลังหลักของรัฐบาลทหารคือกองกำลังติดอาวุธ IS นอกจากนี้ยังมีองค์กรติดอาวุธและชนเผ่าติดอาวุธอีกมากมายทั้งใหญ่และเล็ก

ช่วงที่ผ่านมานี้นื่องจากปัญหาด้านพลังงานและการปะทะกันระหว่างfahrenheit Group กับ Grup Aneng ทำให้สถานการณ์ภายในในปากีสถานไม่มั่นคงมาก

หลังจากมาถึงโรงแรมอันหรันก็เข้าห้องน้ำเพื่อล้างหน้าล้างตา สถานที่แปลก ๆ ทำให้เธอรู้สึกกลัวเล็กน้อย

พูดที่จริง เธอก็เป็นผู้หญิงที่บอบบาง อ่อนแอ

โชคดีที่ฮั่วเทียนหลันอยู่ในห้องนั่งเล่น และห้องรอบ ๆ นั้นล้วน แต่มีคนของfahrenheit Group

อันหรันออกมาจากห้องน้ำ เช็ดผมด้วยผ้าขนหนู และเห็นฮัวเทียนหลันกำลังประชุมผ่านทางวีดีโอคอนเฟอเรนซ์

อันหรันเพิ่งอาบน้ำเสร็จ ทำให้เธอรู้สึกสดชื่น และกระปรี้กระเปร่า

ฮั่วเทียนหลันดวงตาเป็นประกาย เขากดปิดการประชุม จากนั้นก็ลุกขึ้นและเดินไปที่ด้านข้างของอันหรัน

อันหรันกำลังเป่าผมและรู้สึกว่ามีคนกอดตัวเองอยู่ข้างหลังเธอ

เธอตัวแข็งเล็กน้อยและพูดเบา ๆ ว่า "คุณฮั่ว ให้ฉันเป่าให้ผมแห้งก่อน เดี๋ยวเราต้องไปงานเลี้ยงกันไม่ใช่เหรอคะ"

ฮั่วเทียนหลันยับยั้งความปรารถนาในใจของเขาและปล่อยอันหรันไป

เขามาที่นี่ เพื่อแก้ไขจัดการกับปัญหา

ครอบครัวมู่ มีความร่วมมือกับGrup Aneng เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาฮัวเฮารันก็เดินทางมาที่ปากีสถานเพื่อแก้ปัญหาด้วยตนเอง

ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองบริษัท ใกล้ชิดกันมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่พวกเขาก็ยังไม่สามารถแก้ไขความขัดแย้งระหว่าง Aneng และfahrenheitได้

ตอนนี้ช่วงที่สำคัญนั้นก็มาถึงแล้ว ฮั่วเทียนหลันรู้ดีว่าตราบใดที่เขาไม่สามารถจัดการได้ด้วยตัวคนเดียว

สิ่งต่อไปที่ต้องเผชิญกับfahrenheit ทั่วโลกอาจถูกโจมตีโดยGrup Aneng

เขาปล่อยอันหรันด้วยความหงุดหงิดเล็กน้อย และไปที่ระเบียงเพื่อสูบบุหรี่

หลังจากสูบบุหรี่ไปหนึ่งมวน กำลังจะนำมวนที่สองเข้าปาก

“ คุณฮั่ว บุหรี่มันจะทำลายสุขภาพคุณนะคะ"

ฮั่วเทียนหลันมองไปด้านข้าง แม้ว่าเขาจะเห็นอันหรันใส่ชุดออกงานหลายครั้ง แต่เขาก็ยังคงตะลึงอยู่ทุกๆครั้งที่เห็น

ปากีสถานเป็นพื้นที่โซนเขตร้อน ตอนกลางคืนอากาศค่อนข้างเย็น

อันหรันสวมชุดกี่เพ้า สวมทับด้วยแจ็คเก็ตหนังหรูหรา มองดูแล้วรู้สึกถึงความสง่างาม

งานเลี้ยงอยู่ที่ชั้นบนสุดของโรงแรมแห่งชาติ สถานการณ์ดูตึงเครียดพร้อม มีเสียงของเฮลิคอปเตอร์ติดอาวุธเป็นระยะ ๆ

อันหรันเดินตามฮั่วเทียนหลัน สายตาจ้องมองไปยังผู้คนที่อยู่ในห้องจัดเลี้ยง

ชาวเอเชียผิวขาวที่มีจมูกโด่ง นี่คือลักษณะรูปลักษณ์ของชาวปากีสถาน นอกจากนี้เธอยังเป็นคนผิวสี

ภายใต้อำนาจของรัฐบาลทหาร ทหารรับจ้างเป็นอาชีพที่ได้รับความนิยมอย่างมาก

อาชีพอื่นๆในปากีสถานนั้น ต่างำม่ได้ให้ผลตอบแทนอะไร

อันหรันยืนขนาบข้างฮั่วเทียนหลัน ทำให้ทุกสายตาจ้องมองด้วยความอิจฉา

ไม่ว่าจะเชื้อชาติไหนๆ ความหล่อต่างก็เป็นมาตรฐานเดียวกัน

ฮั่วเทียนหลันมีใบหน้าที่ทำให้ผู้หญิงลุ่มหลง แม้ว่าจะไม่ได้ทำอะไรที่ต้องการดึงดูดความสนใจ

อันหรันยิ้มด้วยรอยยิ้มทักทาย

ผู้ชายที่อยู่ข้างกายเธอถูกคนอื่นยกย่อง เธอก็รู้สึกปลาบปลื้มใจ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง