อันหรันเห็นมือของฮั่วเทียนหลันค่อยๆ กำแน่น จากนั้นก็ปล่อยอยู่หลายหน นั่นอาจแสดงว่าเขากำลังจะโกรธอยู่
เธอฟังอยู่สักพัก ลั่นลานก็ส่งข้อความมาที่ที่วีแชท เธอจึงเริ่มพูดคุยกับลั่นลาน
หูอีกข้างก็ฟังเสียงของฮั่วเทียนหลัน อันหรันพูดคุยอยู่กับลั่นลานนานกว่าหนึ่งชั่วโมง
ผ่านไปสักพัก เมื่อบอกราตรีสวัสดิ์กับลั่นลาน เธอก็รู้สึกแปลกๆขึ้นมาทันที
ราวกับว่าเธอกำลังถูกจับตามอง
ทันทีที่เธอเงยหน้าขึ้น เธอก็เห็นสายตาของฮั่วเทียนหลันกำลังมองเธออยู่ เธอไม่รู้ว่ามายืนอยู่ข้างๆเธอตั้งแต่เมื่อไหร่
อันหรันรีบเก็บโทรศัพท์ ในขณะนี้เธอมีความประหม่าเล็กน้อย
เธอไม่รู้ว่าฮั่วเทียนหลันรู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับลั่นลานหรือไม่
โชคดีที่เมื่อสักครู่เพียงแค่เล่านิทานให้ลั่นลานฟัง ไม่ได้มีการเอ่ยถึงสถานะของแม่กับลูก
“ คุณฮั่ว ... ” อันหรันพูดเบา ๆ
“ คุยจบแล้วเหรอ?” ฮั่วเทียนหลันพูดเพียงประโยคเดียว
อันหรันพยักหน้า เหลือบมองไปยังคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คที่วางอยู่บนโต๊ะรับแขก แล้วถามว่า "คุณทำธุระเสร็จแล้วหรือคะ?"
ฮั่วเทียนหลันพยักหน้า จากนั้นยื่นมือออกมาและพูดว่า "ไปพักผ่อนกันเถอะ!"
อันหรันตกตะลึงไปชั่วขณะ หลังจากที่รู้ว่าฮั่วเทียนหลันขอให้เธอช่วยประคองเขาขึ้นไปที่ชั้นบน
เธออดไม่ได้ที่จะคิดว่า ชายคนนี้ แกล้งทำเป็นคนป่วยหรือเปล่านะ
อันหรันประคองฮั่วเทียนหลันขึ้นไปชั้นบน ฮั่วเทียนหลันบอกว่าตัวเองอาการไม่ค่อยดีนัก อาบน้ำไม่ได้ จากนั้นอันหรันก็ทำได้เพียงแค่ทำในสิ่งที่ชวนให้เขินอาย
เธอถอดเสื้อผ้าของฮั่วเทียนหลัน และเช็ดด้วยผ้าอุ่นๆ เช็ดจนสะอาด
ระหว่างการเช็ดตัวให้ฮั่วเทียนหลันอยู่ เสื้อผ้าของอันหรันถูกถอดออกจนเกือบหมด
ซึ่งมันก็เร่งอารมณ์บางอย่างของฮั่วเทียนหลันอีกครั้ง ซึ่งเป็นอารมณ์ที่ทำให้เกิดกิจกรรมที่สามีภรรยานั้นควรทำร่วมกัน
แต่ว่าอันหรันก็ขึ้นไปบนเตียง เธอเกาะผ้าห่มไว้แน่น เธอยังจำคำพูดของหมอที่บอก ต้องไม่มีเพศสัมพันธ์กับฮั่วเทียนหลันเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ ถ้าไม่อย่างงั้นอาจส่งผลเสียกับไตในระยะยาว
“ คุณฮั่ว เพื่อสุขภาพร่างกาย คุณจะต้องทนให้ได้นะ” อันหรันเตือนเบา ๆ
"อย่าพูดมาก เข้ามานี่" ฮั่วเทียนหลันตอนนี้ในใจเปรียบดังเปลวไฟที่โหมกระหน่ำขึ้นเพื่อต้องการที่จะทำลายล้างอันหรัน
อันหรันคว้าผ้าห่มมาเกาะอีกครั้งแล้วพูดว่า "คุณฮั่ว อย่าค่ะ พวกเราพักผ่อนกันเถอะค่ะ"
คำพูดเมื่อสักครู่ เหมือนมีบางอย่างที่ทำให้อ่อนแรงลง อันหรันพูดเสริม "รอให้คุณดีขึ้น แล้วฉันจะฟังคุณทุกอย่างค่ะ"
ฮั่วเทียนหลันมองอันหรันอย่างมีนัยยะบางอย่าง จากนั้นเขาพยักหน้าและพูดว่า: "จำคำูดเธอไว้นะ จะฟังฉันทุกอย่าง"
หัวใจของอันสั่นสะท้านและทันใดนั้นเธอก็รู้สึกหวิวๆ
แต่การที่ฮั่วเทียนหลันไม่ได้แตะต้องตัวเธอ นั่นเป็นเรื่องที่ดี
ฮั่วเทียนหลันยกแขนขึ้น อันหรันก็โน้มตัวด้วยความเข้ามา ทั้งสองกอดกันและกัน
อ้อมแขนของเขาอบอุ่น หัวใจเต้นแรง อันหรันความรู้สึกเหมือนกับถูกห่อหุ้มด้วยความรู้สึที่กปลอดภัย
เธอรู้สึกง่วง เพราะช่วงไม่กี่วันมานี้ไม่ค่อยได้พักผ่อน
เปลือกตาค่อยๆหนักขึ้นและเสียงหายใจสม่ำเสมอดังขึ้นอย่างรวดเร็ว
ฮั่วเทียนหลันยังไม่นอน และด้วยความมุ่งมั่นที่ต้องการตัวของอันหรัน
มือของเขาลูบแขนอันขาวเนียนของอันหรันเบา ๆ
กลิ่นกายเรือนร่างที่เป็นเอกลักษณ์ของอันหรัน ทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายและมีความสุข
เขาตัดสินใจที่จะแยกทางกับมู่เหว่ยแน่นอน และผู้หญิงคนนี้จะเป็นคนที่อยู่กับเขาไปตลอดชีวิต
หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป ในตอนเที่ยงของวันนั้นอันหรันกับฉีหลานเพิ่งทานอาหารเย็นเสร็จ ระหว่างทางกลับไปบ้านเธอก็ได้รับโทรศัพท์จากฮั่วเทียนหลัน
"เธออยู่ที่ไหน?"
อันหรันเหลือบมองไปรอบ ๆ และบอกตำแหน่งที่เธออยู่
"จอดรถแถวนั้นแหละ เดี๋ยวฉันจะไปรับเธอ"
สิบห้านาทีต่อมา โจวหยวนก็ขับรถไปรับอันหรัน
ฮั่วเทียนหลันสวมชุดสูทและรองเท้าหนัง กำลังคุยโทรศัพท์อยู่ที่เบาะหลัง "ตอนบ่ายฉันก็ถึงแล้ว มีธุระอะไรเดี๋ยวค่อยเอาไว้ทีหลัง"
ฮั่วเทียนหลันวางโทรศัพท์ อันหรันเห็นว่าสีหน้าท่าทางเคร่งขรึม จึงพูดอย่างระมัดระวัง: "คุณฮั่ว เราจะไปไหนกันคะ?"
"ปากีสถาน" ฮั่วเทียนหลันพูดห้วนๆ
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ช่วงที่อยู่บ้าน อันหรันได้ยินฮั่วเทียนหลันพูดถึงปากีสถานในวีแชทหรือในมือถือหลายต่อหลายครั้ง
ปัญหาในปากีสถานยังไม่ได้รับการแก้ไข และยังคงมีความซับซ้อนมากขึ้นเรื่อย ๆ
และเมื่อเธอไปที่บ้านของตระกูลฮั่ว เธอก็ได้ยินหลี่รูยาโทรหาใครบางคน เหมือนว่ากำลังหาอะไรที่สัมพันธ์กับประเทศนี้ เพื่อแก้ไขเรื่องราวนี้
อันหรันไม่รู้ว่าฮั่วเทียนหลันจะพาเธอไปทำไม แต่ถ้าเขาต้องการ เธอก็จะอยู่เคียงข้างกายเขาเสมอ
เมื่อเขามาถึงสนามบิน โจวหยวนก็นำกระเป๋าไปเช็คอิน เมื่อเขากลับมา เขาก็กระซิบไปที่หูของฮั่วเทียนหลัน: "คุณฮั่ว เกิดเรื่องแล้ว Grup Aneng เข้ามาแทรกแซงบริษัทข้ามชาติแล้ว"
Grup Aneng?
อันหรันยังคงจำบริษัทนี้ได้
นี่คือกลุ่มบริษัทข้ามชาติขนาดใหญ่ ซึ่งเกี่ยวข้องกับพลังงานทั่วโลก
มีอิทธิพลมาก และมีข่าวลือมาหนาหูว่า Grup Anengยังเกี่ยวข้องกับการค้าอาวุธและสนับสนุนกองกำลังของรัฐบาลหรือองค์กรก่อการร้ายในหลายประเทศ
พูดง่ายๆก็คือ บริษัทพลังงานที่ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องพวกนั้นมีอยู่เพียงไม่กี่แห่ง
อันหรันรู้จักGrup Anengครั้งแรกก็จากปากของแม่เธอเอง
ตอนนั้นเธอยังเด็ก แต่เธอได้ยินพ่อของเธอพูดกับแม่ เหมือนว่าอยากจะทำความร่วมมือกับGrup Aneng ซึ่งทางฝ่ายแม่ก็เหมือนจะรู้จักกัน
แต่แม่กลับปฏิเสธโดยไม่คิด แเละเธอก็ไม่ได้ต้องการความช่วยเหลือใด ๆ จากGrup Aneng
เธอกำลังครุ่นคิดอยู่ในความทรงจำวัยเด็ก
ซึ่งตอนนี้ดูเหมือนว่า แม่ของเธอจะมีอะไรเชื่องโยงอยู่กับGrup Aneng
"เธอกำลังจะชนเสา!" อันหรันกำลังคิดถึงเรื่องดังกล่าว ทันใดนั้นฮั่วเทียนหลันก็ลากเธอหลบจากเสาตรงบริเวณลานภายในอาคารสนามบิน
ทั้งสองเข้าไปในห้องรับรองวีไอพีและนั่งบนเก้าอี้นวด ฮั่วเทียนหลันกล่าวว่า "เธอรู้จักGrup Anengไหม"
อันหรันตอบรับเบาๆ
ฮั่วเทียนหลันรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยและกล่าวต่อว่า: "ที่จริงแล้วเรื่องนี้ แต่เดิมบริษัทน้ำมันภายใต้กลุ่ม Aneng ที่กำลังในการแข่งขันฟาเรนไฮต์อยู่ดีๆ แต่ระยะหลังIS และองค์กรก่อการร้ายเข้ามามีส่วนร่วมในการแข่งขัน ในการแข่งขันครั้งนี้ ประธานหยางเฟย บริษัท Tianhai Petroleum Company ซึ่งเป็น บริษัท ย่อยของGrup Anengถูกสังหาร และ ลีร่าบุคคลสำคัญในฝ่ายต่างประเทศของGrup Anengก็ถูกสังหารเช่นกัน ดังนั้นGrup Anengจึงสงสัยว่าฟาเรนไฮต์เป็นผู้ทำ...
ฮั่วเทียนหลันไม่จำเป็นเป็นต้องพูดต่อในส่วนที่เหลือ
ในใจของฮั่วเทียนหลัน อันหรันเป็นผู้หญิงที่ฉลาด เธอน่าจะสามารถคาดเดาได้
อันหรันรู้เข้าใจดีว่า หลี่รูยาและฮั่วเทียนหลันต่างมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ นับว่าเป็นเรื่องที่ยุ่งยากและซับซ้อนอย่างยิ่ง
การไปในครั้งนี้ของเธอ พูดให้ดูดีก็คือไปเพท่อให้เป็นหน้าเป็นตา แต่ในทางตรงการข้ามอาจจะไปเป็นภาระ
สิ่งเดียวที่เธอทำได้คือ ดูแลการเป็นอยู่ในชีวิตประจำวันของฮั่วเทียนหลัน
บางที ผู้ชายคนนี้เพียงแค่อยากพาเธอออกมา?
หลังจากขึ้นเครื่องอันหรันก็เริ่มง่วงนอน
อย่างไรก็ตาม เธอเป็นโรคกลัวความสูง หากไม่ได้นอน ก็ยิ่งทำให้เธอกลัวมากยิ่งขึ้น
เครื่องบินลงจอดที่ปากีสถานก็เป็นเวลาดึกพอสมควร
อันหรันยังคงหลับอยู่ แอร์โฮสเตสก็เดินเข้ามา แต่ยังไม่ได้พูดอะไร เนืองจากฮั่วเทียนหลันยกมือห้ามไว้
เขาลุกขึ้น อุ้มอันหรันและเดินลงจากเครื่องบิน
ร่างกายของฮั่วเทียนหลันดีขึ้นมาก ดังนั้นการทำสิ่งเรื่องเล็ก ๆ อย่างนี้จึงไม่ใช่เรื่องยาก
แต่หลังจากลงจากเครื่องบิน และไปถึงช่องวีไอพีฮั่วเทียนหลันก็หยุดและมองไปที่โจวหยวนและพูดว่า "คุณจะเห็นผมอุ้มอีกนานแค่ไหน?"
เพียงแค่ฟังคำพูดของฮั่วเทียนหลัน โจวหยวนก็รู้ทันทีว่าฮั่วเทียนหลันกำลังเหนื่อย
เขาจึงรีบตอบกลับว่า "เดี๋ยวผมไปหารถเข็นมานะครับ"
ผ่านไปสามนาทีโจวหยวนก็กลับมา
อันหรันตื่นขึ้น แล้วยืนอยู่ข้างๆฮัวเทียนหลันด้วยความเขินอายเล็กน้อย
ทั้งสามคนพูดไม่ออก มีบอดี้การ์ดติดอาวุธและกองกำลังติดอาวุธรออยู่ที่ล็อบบี้ของสนามบินแล้วหลายสิบคน ทั้งสามขึ้นรถหุ้มเกราะฮัมวี โดยมีรถถังคอยเคลียร์ทางและมาถึงโรงแรมแห่งชาติซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสภาแห่งชาติปากีสถาน
ปากีสถานถูกควบคุมโดยรัฐบาลทหาร กองกำลังหลักของรัฐบาลทหารคือกองกำลังติดอาวุธ IS นอกจากนี้ยังมีองค์กรติดอาวุธและชนเผ่าติดอาวุธอีกมากมายทั้งใหญ่และเล็ก
ช่วงที่ผ่านมานี้นื่องจากปัญหาด้านพลังงานและการปะทะกันระหว่างfahrenheit Group กับ Grup Aneng ทำให้สถานการณ์ภายในในปากีสถานไม่มั่นคงมาก
หลังจากมาถึงโรงแรมอันหรันก็เข้าห้องน้ำเพื่อล้างหน้าล้างตา สถานที่แปลก ๆ ทำให้เธอรู้สึกกลัวเล็กน้อย
พูดที่จริง เธอก็เป็นผู้หญิงที่บอบบาง อ่อนแอ
โชคดีที่ฮั่วเทียนหลันอยู่ในห้องนั่งเล่น และห้องรอบ ๆ นั้นล้วน แต่มีคนของfahrenheit Group
อันหรันออกมาจากห้องน้ำ เช็ดผมด้วยผ้าขนหนู และเห็นฮัวเทียนหลันกำลังประชุมผ่านทางวีดีโอคอนเฟอเรนซ์
อันหรันเพิ่งอาบน้ำเสร็จ ทำให้เธอรู้สึกสดชื่น และกระปรี้กระเปร่า
ฮั่วเทียนหลันดวงตาเป็นประกาย เขากดปิดการประชุม จากนั้นก็ลุกขึ้นและเดินไปที่ด้านข้างของอันหรัน
อันหรันกำลังเป่าผมและรู้สึกว่ามีคนกอดตัวเองอยู่ข้างหลังเธอ
เธอตัวแข็งเล็กน้อยและพูดเบา ๆ ว่า "คุณฮั่ว ให้ฉันเป่าให้ผมแห้งก่อน เดี๋ยวเราต้องไปงานเลี้ยงกันไม่ใช่เหรอคะ"
ฮั่วเทียนหลันยับยั้งความปรารถนาในใจของเขาและปล่อยอันหรันไป
เขามาที่นี่ เพื่อแก้ไขจัดการกับปัญหา
ครอบครัวมู่ มีความร่วมมือกับGrup Aneng เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาฮัวเฮารันก็เดินทางมาที่ปากีสถานเพื่อแก้ปัญหาด้วยตนเอง
ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองบริษัท ใกล้ชิดกันมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่พวกเขาก็ยังไม่สามารถแก้ไขความขัดแย้งระหว่าง Aneng และfahrenheitได้
ตอนนี้ช่วงที่สำคัญนั้นก็มาถึงแล้ว ฮั่วเทียนหลันรู้ดีว่าตราบใดที่เขาไม่สามารถจัดการได้ด้วยตัวคนเดียว
สิ่งต่อไปที่ต้องเผชิญกับfahrenheit ทั่วโลกอาจถูกโจมตีโดยGrup Aneng
เขาปล่อยอันหรันด้วยความหงุดหงิดเล็กน้อย และไปที่ระเบียงเพื่อสูบบุหรี่
หลังจากสูบบุหรี่ไปหนึ่งมวน กำลังจะนำมวนที่สองเข้าปาก
“ คุณฮั่ว บุหรี่มันจะทำลายสุขภาพคุณนะคะ"
ฮั่วเทียนหลันมองไปด้านข้าง แม้ว่าเขาจะเห็นอันหรันใส่ชุดออกงานหลายครั้ง แต่เขาก็ยังคงตะลึงอยู่ทุกๆครั้งที่เห็น
ปากีสถานเป็นพื้นที่โซนเขตร้อน ตอนกลางคืนอากาศค่อนข้างเย็น
อันหรันสวมชุดกี่เพ้า สวมทับด้วยแจ็คเก็ตหนังหรูหรา มองดูแล้วรู้สึกถึงความสง่างาม
งานเลี้ยงอยู่ที่ชั้นบนสุดของโรงแรมแห่งชาติ สถานการณ์ดูตึงเครียดพร้อม มีเสียงของเฮลิคอปเตอร์ติดอาวุธเป็นระยะ ๆ
อันหรันเดินตามฮั่วเทียนหลัน สายตาจ้องมองไปยังผู้คนที่อยู่ในห้องจัดเลี้ยง
ชาวเอเชียผิวขาวที่มีจมูกโด่ง นี่คือลักษณะรูปลักษณ์ของชาวปากีสถาน นอกจากนี้เธอยังเป็นคนผิวสี
ภายใต้อำนาจของรัฐบาลทหาร ทหารรับจ้างเป็นอาชีพที่ได้รับความนิยมอย่างมาก
อาชีพอื่นๆในปากีสถานนั้น ต่างำม่ได้ให้ผลตอบแทนอะไร
อันหรันยืนขนาบข้างฮั่วเทียนหลัน ทำให้ทุกสายตาจ้องมองด้วยความอิจฉา
ไม่ว่าจะเชื้อชาติไหนๆ ความหล่อต่างก็เป็นมาตรฐานเดียวกัน
ฮั่วเทียนหลันมีใบหน้าที่ทำให้ผู้หญิงลุ่มหลง แม้ว่าจะไม่ได้ทำอะไรที่ต้องการดึงดูดความสนใจ
อันหรันยิ้มด้วยรอยยิ้มทักทาย
ผู้ชายที่อยู่ข้างกายเธอถูกคนอื่นยกย่อง เธอก็รู้สึกปลาบปลื้มใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง