โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง นิยาย บท 290

คำว่าฝันดีคำนี้ ทำให้ใจของอันหรันเบิกบาน

เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา และมือของเธอก็เริ่มสั่น

หลังจากนั้นไม่นาน เธอถึงจะตอบกลับไปว่า “ฝันดีค่ะ คุณฮั่ว”

อันหรันยังไม่แน่ใจว่าในใจของเธอนั้นรู้สึกดีใจหรือไม่

ในความทรงจำของเธอ นี่เป็นครั้งแรกที่ผู้ชายคนนี้พูดประโยคนี้กับเธอ

นี่มันหมายความว่าอย่างไรกันแน่ เธอไม่กล้าที่จะจินตนาการต่อไป

ยิ่งได้มันมาง่ายเท่าไหร่ มันก็ยิ่งอันตรายเท่านั้น

ณ บ้านใหญ่ของตระกูลฮั่ว

ในห้องนั่งเล่น ในมือของหลี่รูยาถือของบางอย่างอยู่ และในขณะเดียวกันเธอกำลังมองไปที่ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเธอ

อันหงไชและยี่เฉียวถงก็นั่งอยู่ข้างๆ พร้อมกับใบหน้าที่เต็มไปด้วยความรู้สึกผิด

ถึงแม้ว่าสีหน้าของหลี่รูยาจะนิ่งสงบ แต่ว่าของเธออยู่ในมือเธอกำลังสั่นอยู่เบาๆ ไม่นานเธอก็พูดออกมาว่า “นี่ก็หมายความว่า อันหรันเป็นลูกสาวของพวกคุณ?”

ยี่เฉียวถงส่งเสียง อืม และตอบออกมาด้วยความระอาว่า “ขอโทษค่ะ คุณหญิงฮั่ว ที่ต้องทำให้เกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ พูดตรงๆหรันหรันเป็นลูกสาวโดยสายเลือดของพวกเรา แต่ว่าในปีนั้น เพื่อผลประโยชน์บางอย่างพวกเราก็เลยเอาอันหรันกับอันชิงบมาสลับตัวกัน.....”

ยี่เฉียวถงคิดเหตุผลไว้ตั้งแต่แรกแล้ว เธอคิดมาดีแล้ว อย่างไรหลี่รูยาก็ไม่สามารถพิสูจน์เรื่องนี้ได้

“นับตั้งแต่ที่หรันหรันแต่งงานกับตระกูลฮั่ว หัวใจของฉันก็ได้บอกกับสวรรค์อยู่ตลอด ฉันเคยผิดพลาดครั้งแล้วครั้งเล่า ... ฉันทนไม่ได้กับความทรมานในใจนี้ ฉันมาที่นี่ครั้งนี้ก็เพื่อที่จะอ้อนวอนและสารภาพบาป” เธอพูดพร้อมกับคุกเข่าลงไปที่พื้น

เธอแสดงอย่างสุดความสามารถ

“อันชิงไร้เดียงสามาตั้งแต่เด็ก ไร้เดียงสาจนพวกเราไม่อยากที่จะทำร้ายเธอต่อไป เธอเป็นคนที่ควรมาเป็นลูกสะใภ้ของตระกูลฮั่ว ควรคู่กับฮั่วเทียนหลัน ฉันไม่อยากปกปิดมันอีกต่อไปแล้ว ฉันรู้ว่าเรื่องนี้มันเชื่อได้ยาก แต่ถ้าหากย้อนกลับไปได้ฉันจะไม่ให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้น.....” ยี่เฉียวถงพูดถึงตรงนี้ น้ำตาเธอก็ไหลลงมา

ดูเหมือนว่าความรู้สึกผิดในใจเธอที่มีต่ออันชิงมาถึงจุดสูงสุดแล้ว

หลี่รูยามองไปที่ใบหน้าของอันชิง

ข้อมูลของอันชิง เธอเพิ่งจะให้คนไปตรวจสอบมา พอเธอเห็นก็คิดว่าผู้หญิงคนนี้ไม่เลวเลยทีเดียว

เธออยู่ต่างประเทศมาตั้งแต่เด็ก และมีความประพฤติดี ตระกูลอันดูแลเธอเป็นอย่างดีมาโดยตลอด

แต่ไม่รู้ว่าทำไม หลี่รูยามองหน้าอันชิงแล้วรู้สึกว่าเธอไม่ได้มีนิสัยเหมือนกับที่ยี่เฉียวถงพูดมา ไม่เหมือนกับอันหรันที่มีความไร้เดียงสาเป็นธรรมชาติ

เธอตอบกลับไปว่า “ตอนแรกฉันกับสองสามีภรรยาของตระกูลอันได้ตกลงกันเอาไว้แล้ว ดังนั้นลูกสาวของพวกเขาต้องมาเป็นสะใภ้ของฉัน แต่ในเมื่อมันเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น พวกเธอคิดว่าควรจะทำอย่างไรหละ?”

แบบนี้ก็เท่ากับอันหรันกลายเป็นลูกสาวของอันหงไชกับยี่เฉียวถง ดังนั้นการแต่งงานของเธอก็เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง

ใบหน้าของยี่เฉียวถงเต็มไปด้วยความโศกเศร้า เสียงของเธอสั่นเพราะความเสียใจ เธอพูดออกมาว่า “ฉันต้องขอโทษจริงๆ คุณหญิงฮั่ว อันหรันเข้ามาแทนที่ตำแหน่งของอันชิง แต่ตอนนี้ความจริงก็เปิดเผยแล้ว ดังนั้นให้หรันหรันถอยออกและเอาอันชิงเข้าไปแทน แบบนั้นมันคงจะเป็นผลดีที่สุด!”

ในตอนนี้ ยี่เฉียวถงดูเหมือนจะกลายเป็นแม่ที่ดีและซื่อสัตย์

แม้แต่หลี่รูยายังรู้สึกสะเทือนใจ

และความรู้สะเทือนใจนี้ กลับดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่น่ารำคาญ

พวกเขาคิดว่าตระกูลฮั่วเป็นอะไร? โรงแรม? คิดจะมาก็มาคิดจะไปก็ไป?

หลี่รูยาได้บอกเรื่องนี้กับอันหรันไปแล้ว อันหรันกำลังขับรถมาอีกไม่นานก็น่าจะถึง

เรื่องนี้จริงแท้อย่างไร เธอรอฟังคำตอบของอันหรัน

อย่างไรก็ตาม อันหรันเป็นผู้หญิงที่ดีในใจของเธอมาโดยตลอด

เมื่ออันชิงได้ยินเสียงเท้าของอันหรันที่กำลังเดินเข้ามาเธอจึงพูดว่า “พี่สาวดีกับฉันมาโดยตลอด ดูแลฉันเป็นอย่างดี ไม่จำเป็นต้องตรวจ DNA ก็ได้คะคุณหญิง ฉันจะคิดว่าเรื่องราวทั้งหมดมันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โอเคไหมคะ?”

อันหรันมองลึกๆไปที่หน้าของอันชิง น่าเสียดายที่ไม่ส่งผู้หญิงคนนี้ไปเรียนสาขาการแสดง

อันหรันเดินมาถึงห้องนั่งเล่นพร้อมพูดว่า “คุณแม่ ฉันมาแล้ว”

หลี่รูยาถอนหายใจ เธอลุกขึ้นมาจับมือของอันหรัน ให้อันหรันนั่งข้างเธอ

เธอสังสัยอยู่สักพัก ในที่สุดก็พูดออกมา “หรันหรัน เอกสารชิ้นนี้ เธอควรจะดูมันสักหน่อยนะ”

หลี่รูยายื่นเอกสารที่วางอยู่บนโต๊ะให้กับอันหรัน หลังจากที่อันหรันอ่านมัน เธอก็ขมวดคิ้วขึ้นมา สุดท้ายเธอก็วางมันลงบนโต๊ะ

เธอไม่อยากจะเชื่อ ยี่เฉียวถงทำให้ชื่อเสียงของคนที่ตายไปแล้วต้องด่างพร้อย เผื่อแลกกับเอกสาร DNA ฉบับนี้

“เป็นไปไม่ได้!” คำสี่พยางค์นี้ แสดงถึงความโมโหที่มีอยู่ในใจเธอ

อันหรันรู้ดีอยู่แก่ใจว่านี่เป็นเพียงอุบายที่สกปรกของยี่เฉียวถงเท่านั้น

ท่าทางที่โศกเศร้าของยี่เฉียวถง ทำให้อันหงไชต้องถอนหายใจออกมา อันชิงที่อยู่ข้างๆก็ร้องไห้ตามออกมาพร้อมพูดออกมาว่า “พี่ พี่อย่าโกรธฉันนะ ฉันไม่ได้จะมาแย่งตำแหน่งของพี่....”

“เรื่องนี้ จะจริงหรือเท็จนั้นเอาไว้ก่อน ตอนนี้อันหรันได้แต่งงานกับฮั่วเทียนหลันไปแล้ว ถึงแม้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมันจะไม่จริง แต่มันก็กลายเป็นเรื่องจริงไปแล้ว” หลี่รูยาครุ่นคิดอยู่ในใจแล้วพูดออกมา

สำหรับเอกสารตรวจสอบ DNA นั้น เธอยังเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง

ที่แท้เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่ถูกแต่งขึ้นโดยตระกูลอัน ตระกูลอันเป็นคนอย่างไรกันแน่ ใจของเธอก็ยังไม่ค่อยแน่ใจ

แต่อย่างไรพวกเขาก็ยังเป็นญาติกัน หลี่รูยาจึงแสร้งทำเป็นมิตอยู่ตลอด

ตระกูลอันโลภมาก และพร้อมที่จะทำทุกให้ให้ตนเองพอใจ

และท่าทางร้องไห้งอแงของอันชิงทำให้หลี่รูยานึกถึงคนหนึ่งคนที่เธอเกลียดเอามากๆ

เด็กคนนี้ต้องการเข้ามาเป็นหนึ่งเดียวกับตระกูลฮั่ว

อันหรันรู้สึกหวั่นไหวกับคำพูดของหลี่รูยา เธอต้องการที่จะปกป้องชีวิตคู่ของอันหรัน

เธอพูดออกมาว่า “ฉัน....”

คำพูดของเธอยังไม่ทันจะออกมา จู่ๆยี่เฉียวถงก็พูดขึ้น “คุณหญิงคะ ฉันขอคุยกับหรันหรันเป็นการส่วนตัวได้ไหมคะ? บางเรื่องมันถึงเวลาที่เธอต้องรู้!”

หลี่รูยามองไปที่อันหรัน อันหรันไม่ได้แสดงกิริยาท่าทางใดๆ เธอจึงพูดออกมาว่า “ได้ งั้นพวกเธอก็ไปคุยกันก่อน”

ยี่เฉียวถงลุกขึ้น และจับมืออันหรันอย่างนุ่มนวล

ท่าทางที่เสแสร้งแบบนี้ ทำให้อันหรันรู้สึกสะอิดสะเอียน

เธออยากจะอาเจียนออกมาแต่ก็ต้องควบคุมตัวเองไว้ และเดินตามไปที่ห้องรับแขก

พอถึงห้องรับแขกยี่เฉียวถงก็ปล่อยมืออันหรันออก เธอก็หยิบกระดาษทิชชู่ออกมาเช็ดมือและก็ดมจากนั้นพูดว่า “ทำไมถึงมีกลิ่นหนอนแมลงอยู่นะ?”

อันหรันเพิกเฉยต่อการยั่วยุของเธอและพูดว่า “คุณต้องการอะไร?”

“อืม ต้องการอะไรนะ?” ยี่เฉียวถงตอบกลับไปทันที

เธอเปิดโทรศัพท์ และเปิดคลิปวิดีโอให้ยื่นให้อันหรันดู “เอ้า เธอดูนี่สิ เป็นไงหละ? ถ้าหากเธอยังไม่ฟังที่ฉันพูดหละก็ เด็กคนนี้ก็จะ....”

วิดีโอกำลังดำเนินต่อไป อันหรันมองเห็นลั่นลานที่โดยจับตัวไว้ หลังจากนั้นก็มีคนถือกระบอกไม้ไผ่ตีเธออย่างแรง

ลั่นลานไม่ได้ส่งเสียงใดๆ แต่ขาของเธอเป็นสีม่วงจากนั้นน้ำตาของเธอก็ไหลลงมา แต่อีกฝ่ายกลับหัวเราะ

อันหรันโกรธจนตัวสั่น เธอขว้างโทรศัพท์ทิ้ง แล้วเดินเข้าไปกระชากคอเสื้อของยี่เฉียวถงพร้อมพูดว่า “ยี่เฉียวถง เธอยังมีความเป็นคนอยู่หรือป่าว? เธอทำกับเด็กได้อย่างไร?”

ยี่เฉียวถงหัวเราะออกมา และยื่นมือมาเอามือของอันหรันออกพร้อมพูดว่า “ความเป็นคน? ของเล่นพันนั้นมันเอามากินได้ไหม? อันหรัน ควบคุมอารมณ์หน่อย ฟังที่ฉันพูดให้ดีๆ ถ้าไม่อย่างนั้นฉันจะตัดขาของเด็กคนนี้ซะ!”

ตอนนี้อารมณ์ของอันหรันพลุ่งพล่านขึ้นมาอย่างรุนแรง เธอไม่สามารถยอมให้เกิดเรื่องกับลั่นลานได้ นั่นคือสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตของเธอ

เธอมองไปที่ยี่เฉียวถงด้วยความโกรธพร้อมพูดว่า “เธอทำแบบนี้ ไม่กลัวจะถูกสวรรค์ประณามหรือไง?”

ยี่เฉียวถงมองขึ้นไปบนเพดาน เหมือนกับว่าตอนนี้เธอกำลังได้ฟังเรื่องตลก เธอจึงขำออกมาพร้อมพูดว่า “สวรรค์ประณาม? บางครั้งฉันก็อิจฉาความบริสุทธิ์ของเธอจริงๆ ถ้ามันเป็นแบบที่เธอพูดจริงๆหละก็ ในปีที่พ่อแม่ของเธอตาย..........”

พูดถึงตรงนี้ จู่ๆยี่เฉียวถงก็หยุด เธอรู้ว่าตอนนี้เธอพูดมากเกินไปแล้ว

อันหรันตัวแข็งทื่อเมื่อได้ยินประโยคหลังที่ยี่เฉียวถงพูดออกมา

ในปีนั้น คนที่ทำให้พ่อแม่ของเธอต้องตาย?

พ่อแม่ของเธอจากไปโดยปกติไม่ใช่หรอ?

เธอยังจำได้ พ่อแม่ของเธอประสบอุบัติเหตุจนเสียชีวิต

และหลังจากที่ตำรวจตรวจสอบ มันก็ไม่มีอะไรน่าสงสัย

แต่ว่าตอนนี้ เรื่องที่ธรรมดาปกติทั่วไป หลุดออกมาจากปากของยี่เฉียวถง แสดงว่ามันจะต้องมีอะไรแน่!

อันหรันโกรธมาก เปลวไฟแห่งความโกรธกำลังแผดเผาความอดทนของเธอ

เธอมองไปที่ยี่เฉียวถงอย่างโหดเหี้ยม ยี่เฉียวถงที่ถูกอันหรันมองด้วยสายตาแบบนั้นจึงถอยหลังไปสองสามก้าวโดยไม่ได้ตั้งใจ

“อันหรัน เธอคิดจะทำอะไร? ฉันจะบอกเธอเอาไว้ ถ้าเธอทำอะไรฉันแม้แต่นิดเดียว ลูกสาวของเธอตายแน่!”

อันหรันกำหมัดแน่น จนเล็บมือของเธอเข้าไปในฝ่ามือแล้ว

เธอพยายามอย่างมากเพื่ออดทนกับสิ่งนี้ แต่ตอนนี้เธอทนต่อไปไม่ได้แล้ว

ตอนนี้ไม่ใช่แค่เรื่องลักพาตัวลั่นลาน แต่ยังรวมถึงเรื่องการตายที่เกิดขึ้นในปีนั้นด้วย

ยี่เฉียวถง เป็นคนฆ่าพ่อแม่ของเธอ

ยี่เฉียวถงเป็นคนที่แต่งงานเข้ามาอยู่ด้วย แต่อันหงไชนั้นเป็นพี่ชายแท้ๆของพ่อเธอ

เขาทำอย่างนั้นได้อย่างไร!

ยี่เฉียวถงมองอันหรันอยู่ในสภาพแบบนั้น เธอไม่กล้าที่จะอยู่กับอันหรันสองต่อสองอีกแล้ว เพราะเกรงว่าอันหรันจะเสียการควบคุม

เธอรีบพูดประโยคสุดท้ายออกมา “เธอคงจะรู้นะว่าเธอควรจะทำอย่างไรต่อไป” และเธอก็กลับเข้าไปที่ห้องนั่งเล่น

หลังจากนั้นไม่นานอันหรันก็ออกมาจากห้องรับแขก

เธอเดินไปด้านหน้าของหลี่รูยา และโค้งคำนัพอย่างจริงใจพร้อมพูดว่า “ขอโทษคะแม่ ตำแหน่งที่ฉันเป็นอยู่ควรจะเป็นของอันชิง ฉันจะไปเอง”

หลี่รูยาไม่เชื่อกับสิ่งที่เธอได้ยิน เธอพยายามดึงมือของอันหรันไว้ แต่อันหรันกลับส่ายหัวและก้าวถอยหลังออกไป

แต่อยู่ดีๆอันชิงก็พูดขึ้นมา

“คุณหญิงคะ เรื่องบางเรื่องมันอาจจะไม่ควรพูด แต่ที่พี่สาวทำอยู่มันเกินไปจริงๆ ฉันไม่อยากที่จะปิดบังความจริงกับคุณ”

อันชิงหยิบแฟ้มข้อมูลที่เธอเตรียมไว้ตั้งแต่แรกแล้วส่งให้หลี่รูยาดู

อันหรันใจสั่น เธอพอจะเดาได้ว่าข้างในแฟ้มนั้นมีอะไรอยู่

ก็เห็นกันอยู่ว่าเธอกำลังถูกใส่ร้ายด้วยเรื่องไร้สาระและเธอก็ยอมถอยให้แล้ว แต่ทำไมตอนนี้อันชิงถึงยังไม่หยุด?

หลี่รูยาเปิดแฟ้มนั้นดู เปิดไปทีละหน้า สีหน้าของเธอก็ซีดลง

อันชิงพูดขึ้นมาว่า “คุณหญิง ที่คุณเห็นอยู่ฮั่วเทียนหลันนั้นรู้ดี ก่อนหน้าที่อันหรันเป็นคนที่ไร้ยางอาย ทำตัวสำมะเลเทเมาอยู่ด้านนอก ติดยา เห็นแก่เงิน เธอเคยคิดจะหย่ากับอันหรัน เพื่อแบ่งผลประโยชน์ ดังนั้นเธอจึงวางกับดักกับฮั่วเทียนหลัน.....และเท่าที่ฉันรู้มาเธอยังมีลูกสาว.......”

อันชิงยังพูดไม่ทันจบแต่ก็ถูกยี่เฉียวถงขัดจังหวะ

ยี่เฉียวถงทำท่าทางเสียใจ เธอชี้ไปที่อันชิงพร้อมพูดว่า “อันชิง ทำไมเธอถึงพูดแบบนี้กับพี่สาวของเธอ?”

อันชิงรู้สึกผิด แต่เธอมองไปที่อันหรันด้วยความรังเกียจพร้อมพูดว่า “นี่คือแม่สามีในอนาคตของฉัน และฉันก็ไม่อยากจะมีความลับอะไรต่อเธอ แม่ฉันผิดไปแล้ว ฉันยอมรับผิด”

หลี่รูยาโกรธจนตัวสั่น เธอไม่เคยคิดมาก่อนเลยลูกสะใภ้ที่เธอไว้ใจมาโดยตลอดจะเป็นคนแบบนี้

นี่ทำให้เธอไม่สนใจเรื่องที่อันหรันเป็นลูกของใคร ตอนนี้เธอคิดแค่ว่าอันหรันเป็นผู้หญิงที่เลวทรามต่ำช้าที่สุด

“อันหรัน นี่มันเป็นความจริงหรอ?” หลี่รูยากำข้อมูลไว้แน่น มองมาที่อันหรันแล้วถาม ในตอนนี้น้ำเสียงของเธอยังคงมีความหวังหลงเหลืออยู่เธอรอเพียงอันหรันตอบกลับมาว่าไม่จริง

แต่อันหรันเพียงแค่ยิ้มและไม่ตอบคำถามนี้

เนื่องจากตอนที่หลี่รูยากำลังดูข้อมูล ยี่เฉียวถงก็ส่งคลิปวิดีโอให้เธอดูเล็กน้อย

ตอนนี้ลั่นลานกำลังถูกคนกำลังยกขึ้นมาอยู่ แค่คนคนนั้นปล่อยมือ ลั่นลานก็จะตกลงมาจากที่สูงสิบกว่าเมตร กระดูกของเธอคงจะแหลกละเอียด

ลูกสาวของเธอกำลังถูกทรมานอยู่ แถมรอบนี้ยังอันตรายกว่าเดิมอีกด้วย

อันหรันรู้สึกว่าใจของเธอกำลังจะพังทลาย ความเงียบที่เกิดขึ้นเกือบจะกลืนสติของเธอไป

และตอนนี้อันชิงก็ยิ่งพูดใส่ไฟ “ที่จริงผลของ DNA ก็ออกมาแล้ว ไม่ว่าฉันหรือพี่สาวของฉันจะเป็นสะใภ้ของตระกูลฮั่วมันก็เป็นเรื่องดีทั้งนั้น แต่สิ่งที่เธอทำตลอดหลายปีที่ผ่านมามันน่าละอาจริงๆ ผู้หญิงแบบนี้ยังมีหน้าจะกล้ามาเป็นภรรยาของฮั่วเทียนหลันอีก? ถ้าเป็นฉันหละก็คงไม่กล้า นี่คงเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้เห็นหน้าของเธอในบ้านหลังนี้!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง