บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 173

หลังจากหัวสมองสวีอีถูกเคาะ “ต๊อก”สองทีแล้ว ก็รีบขี่ม้ากลับจวน

หยวนชิงหลิงยังไม่เข้านอน รออยู่อย่างใจจดใจจ่อ

ได้ยินลู่หยาพูดว่าท่านอ๋องกลับมาแล้ว ก็รีบเดินออกมาทันที

หยู่เหวินเห้าเรียกทังหยางเข้าห้องมาด้วย ตลอดทางเขาขี่ม้ามา อารมณ์จึงค่อนข้างดี ดังนั้นจึงไม่ได้ถามทังหยาง กับสถานการณ์ที่ถามได้ความมาจากในจวนอ๋องฉี

“อาการบาดเจ็บเป็นอย่างไร? เป็นอะไรมากไหม?”หยวนชิงหลิงรีบถามขึ้น

หยู่เหวินเห้าดึงนางมานั่งลง พร้อมพูดขึ้นว่า “ไม่เป็นอะไรมาก มีแผลสองแผล เหมือนถูกของแหลมทิ่มแทง มีเลือดไหลนิดหน่อย”

“คนร้ายนี้ไม่ได้เรื่องเลย”หยวนชิงหลิงพูดว่า แต่ที่เป็นกังวลค่อยโล่งอก ไม่ใช่ว่าเขาเป็นห่วงอ๋องฉี แต่อ๋องฉีถูกนางทำร้ายก่อน และยังถูกลอบทำร้ายห่างจากประตูจวนอ๋องฉู่ไม่ไกล

หยู่เหวินเห้าถามทังหยางว่า “เจ้าเล่าสถานการณ์มาสิ”

ทังหยางพูดขึ้นว่า “ขอรับ ถามมหาดเล็กข้างกายท่านอ๋องกับคนขับรถม้า คนร้ายออกมาจากตรงมุมปากทาง สวมชุดดำ ปิดหน้าปิดตาไว้ ฝีมือการต่อสู้ธรรมดา แต่ผลิตรถม้าพลิกคว่ำ ในขณะที่ต่อสู้ อ๋องฉีถูกดาบแทง มหาดเล็กไล่ต่อสู้ จนคนร้ายหลบหนีไป”

หยวนชิงหลิงแปลกใจ พร้อมพูดขึ้นว่า “ฝีมือการต่อสู้ธรรมดา แต่กลับสามารถพลิกรถม้าคว่ำและทำร้ายอ๋องฉีได้อีกหรือ? อ๋องฉีก็มีฝีมือการต่อสู้ไม่ใช่หรือ? มหาดเล็กล่ะ?”

ทังหยางกับหยู่เหวินเห้ามองหน้ากัน พร้อมพูดขึ้นว่า “ดูสิ พระชายายังดูออกเลยว่ามีปัญหา”

“ดังนั้น?” หยวนชิงหลิงอึ้ง มองดูหยู่เหวินเห้า พร้อมพูดขึ้นว่า “เป็นอย่างไรกันแน่?”

หยู่เหวินเห้าพูดอธิบายขึ้นว่า “คนร้ายคนนี้ไม่ใช่ไม่มีฝีมือ และใช้ว่าไม่สามารถฆ่าเจ้าเจ็ด เขาเพียงแค่ต้องการทำให้เจ้าเจ็ดบาดเจ็บเล็กน้อยเท่านั้น สร้างสถานการณ์เหมือนถูกลอบทำร้าย ให้คนอื่นเอาเรื่องที่เกิดขึ้นตรงหน้าประตูเมืองกับเรื่องนี้มาคิดเกี่ยวข้องกัน หลังจากที่เรื่องประตูเมืองถูกสืบสวนชัดเจนแล้ว หรือมีคนสงสัยขึ้นมาว่า ตอนนั้นมีคนตั้งใจทำให้เกิดความวุ่นวายล่ะ? งั้นเรื่องทั้งหมดก็.....”

หยวนชิงหลิงฟังอยู่ยังแน่นิ่ง แล้วพูดว่า “นี่ไม่ใช่ความผิดของพระชายาฉี และก็ไม่ใช่อุบัติเหตุ แต่มีคนตั้งใจวางแผนทำร้ายจวนอ๋องฉี”

หยู่เหวินเห้ามองดูนาง แววตาแฝงไปด้วยความชื่นชม และพูดขึ้นว่า “และนี่ ก็ไม่ใช่กลยุทธ์ที่ฉลาดอะไร เฮงซวย แค่สอดคล้องกับความเป็นจริง เพราะจากที่เกิดเรื่องตรงประตูเมืองจนถึงตอนนี้ และเจ้าเจ็ดเคยมาที่จวนอ๋องฉู่ เป็นเวลาที่พอเหมาะพอดี ไม่มีเวลาวางแผนกลยุทธ์ที่รอบคอบกว่านี้ได้อีกแล้ว คนคนนี้รู้ว่าค่ะจะต้องดูออก”

หยวนชิงหลิงพูดขึ้นอย่างเย็นชาว่า “ดังนั้น ลงมือข้างจวนอ๋องฉู่ หากอ๋องฉู่ท่านจะปกป้องตนเอง ก็ไม่ต้องรู้ทันแผนการเฮงซวยนี้ ท่านหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะถูกห้องแต่สงสัยอีกครั้งแล้ว ยอมที่จะช่วยปิดบัง แต่ก็ไม่กล้าเปิดเผยความจริง”

หยู่เหวินเห้าอดไม่ได้บีบตรงหน้าของนางหนึ่งทีพร้อมพูดว่า “ทำไมเจ้าฉลาดเช่นนี้?”

หยวนชิงหลิงมองดูเขา พร้อมพูดขึ้นว่า “ดังนั้น คนร้ายคนนี้คืนนี้จะต้องตามเจ้าไปคุยเป็นการส่วนตัว ทั้งใช้ความรู้สึกหลักการและเหตุผล ทั้งเคลื่อนไหวด้วยอารมณ์ ทั้งล่อ หรือใช้เสน่ห์”

หยู่เหวินเห้าหน้าซีดลง พร้อมพูดขึ้นว่า “ผู้หญิงฉลาดขนาดนี้ ไม่น่ารักเลยนะ”

“ใต้เท้าทัง เชิญท่านตามสบาย”หยวนชิงหลิงลุกขึ้นมาไล่คน

ทังหยางเข้าใจ มองดูท่านอ๋องแวบหนึ่ง พร้อมคิดท่านดูแลตัวเองให้ดีเถอะ

ทังหยางช่วยปิดประตูให้เรียบร้อย ไล่พวกลู่หยาฉี่หลอไปกันจนหมด

ลู่หยาพูดขึ้นอย่างไร้เดียงสาว่า “ไปไม่ได้ ท่านอ๋องน่าจะยังไม่ได้ทานข้าว ข้าต้องรอรับใช้อยู่ที่นี่”

“ยังจะทานข้าวหรือ?” ทังหยางถอนหายใจ พร้อมพูดว่า “ไปเถอะ ไปต้มน้ำยาไว้ ท่านอ๋องต้องได้ใช้แน่”

พูดจบ แล้วก็ถูกไล่ออกไปหมดแล้ว

ห่างไปไม่ไกล ทังหยางได้ยินหยู่เหวินเห้าพูดกระซิบอธิบายว่า “เจอกันอยู่ แต่ข้าไม่ได้ให้โอกาสนางใช้ความรู้สึกหรือหลักการเหตุผลอะไร แค่เปิดปากก็ปิดปากของนางไว้แล้ว”

หยวนชิงหลิงยิ้มมองดูเขา พร้อมพูดว่า “ใช่ไหม? แค่เปิดก็ปิดปากของคนอื่นไว้? ปิดยังไงหรือ? แสดงให้ดูหน่อยสิ”

หยู่เหวินเห้าเอียงสายตามองนาง พร้อมพูดว่า “ดูเจ้าสิ พูดอะไรลามกขนาดนั้น ข้าไม่ได้หมายความเช่นนี้ ช่างเถอะไม่พูดละ ไม่มีอะไรน่าพูดแล้ว”

พูดไม่ได้แน่ ต่อให้ไม่มีอะไรก็พูดไม่ได้เด็ดขาด ยังไงฉู่หมิงชุ่ย ก็ได้พูดถึงเรื่องของพวกเขาที่ผ่านมา อีกอย่าง เขาอยู่ตรงหน้าฉู่หมิงชุ่ย ได้พูดคำพูดไม่ดีเกี่ยวกับนางไปไม่น้อย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน