หลินหว่านชิงภายในใจดิ่งวูบ เมื่อรู่ว่าอีกฝ่ายมีเจตนาที่ไม่ดี เธอจึงรีบคว้าแขนของฉินหมิงแล้วรีบวิ่งขึ้นไปบนยอดเขาทันที
ผลลัพธ์เป็นเพราะเธอร้อนใจมากเกินไป เท้าของเธอจึงลื่นลงไป เธอเดินโซเซ จากนั้นจึงล้มลงไปที่บันไดหิน
“หว่านชิง ระวัง! ”
ฉินหมิงตกใจมาก โชคดีที่เขาตาไวและมือเร็ว เขาจึงเอื้อมมือไปคว้าเอวเพรียวบางและอ่อนนุ่มของหลินหว่านชิงเข้าไปในอ้อมแขนของเขาอย่างแน่นหนา
“เจ็บมาก…”
หลินหว่านชิงร้องด้วยความเจ็บปวด การลื่นล้มในครั้งนี้ทำให้ข้อเท้าของเธอพลิก ความเจ็บปวดแสนสาหัสที่ข้อเท้ามากจนเธอแทบจะหลั่งน้ำตาออกมาในทันที
“หว่านชิง คุณเป็นอะไร คุณล้มตรงที่ไหน? ”
สีหน้าของฉินหมิงเปลี่ยนไป เขารีบนำหลินหว่านชิงออกจากอ้อมแขนของเขา มองสถานการณ์ของหลินหว่านชิงด้วยสีหน้าประหม่าและกังวล
“เท้าของฉันดูเหมือนจะพลิกน่ะ…”
ใบหน้าแสนสวยของหลินหว่านชิงซีดลง เธอกัดริมฝีปากแน่นเพื่อระงับความเจ็บปวด
“บัดซบ! ”
ฉินหมิงโกรธเป็นฝืนเป็นไฟ สายตาอันดุร้ายจ้องมองไปที่ชายสวมต่างหูทั้งสี่คน
ถ้าหากไม่เจอกับชายสวมต่างหูทั้งสี่คนจนตกใจ หลินหว่านชิงก็คงไม่มีทางเท้าพลิกได้!
ด้วยเหตุผลนี้เพียงอย่างเดียว ไม่ว่าอีกฝ่ายจะมีเจตนาไม่ดีอย่างไร เขาก็ไม่สามารถไว้ชีวิตอีกฝ่ายได้ง่าย ๆ !
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะคิดบัญชีกับอีกฝ่าย เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้หลินหว่านชิงได้รับบาดเจ็บซ้ำ เขาจึงรีบอุ้มหลินหว่านชิงขึ้นมาในท่าเจ้าหญิง
จากนั้นท่ามกลางเสียงอุทานของหลินหว่านชิง เขากระโดดลงบันไดหินและรีบวิ่งไปทางป่าเล็ก ๆ ข้างทาง
“คิดจะหนีเหรอ? ”
“มันไม่ง่ายอย่างนั้นหรอก! ”
ชายสวมต่างหูพูดอย่างเยือกเย็น สั่งลูกน้องให้รีบตามไปทันที
สองข้างทางของบันไดหินเต็มไปด้วยต้นไม้สีเขียวชอุ่มที่ก่อตัวเป็นป่าเล็ก ๆ
แม้ว่าพื้นที่ที่นี่จะค่อนข้างสูงชัน แต่ก็มีที่โล่งกว้างมากมายที่ด้านหลังต้นไม้ บนพื้นปูด้วยสนามหญ้าอันนุ่มนวลและสะดวกสบาย
เมื่อพูดขึ้นมาแล้ว สถานที่แห่งนี้ปลอดภัยกว่าบันไดหินมาก
มาถึงพื้นที่โล่งกว้างแห่งหนึ่ง
ฉินหมิงกลัวว่าจะทำให้หลินหว่านชิงบาดเจ็บ ดังนั้นเขาจึงวางหลินหว่านชิงลงอย่างระมัดระวัง
เวลานี้ชายสวมต่างหูทั้งสี่คนก็ได้ไล่ตามพวกเขามาจากด้านหลังแล้วและล้อมรอบฉินหมิงและหลินหว่านชิงไว้เป็นครึ่งวงกลม
“เจ้าหนุ่ม นายหนีเก่งไม่ใช่เหรอ? ”
“ฉันขอดูหน่อยสิว่าตอนนี้นายจะหนีไปทางไหนได้! ”
ชายสวมต่างหูยิ้มเยาะเย้ย มองดูฉินหมิงด้วยสายตาขี้เล่น ราวกับแมวที่กำลังเล่นกับหนูอย่างไรอย่างนั้น
ไม่รอให้ฉินหมิงตอบกลับ หลินหว่านชิงเริ่มเป็นคนพูดก่อน “พวกนายคิดจะทำอะไร! ”
“ทำอะไร? เธอคิดว่าไงล่ะ! ”
“ไอ้หนุ่มนี่มันหยาบคายกับเราตอนที่อยู่นอกจุดชมวิว วันนี้พวกพี่สองสามคนก็เลยจะสั่งสอนมันสักหน่อย ให้มันได้รู้ว่ามีคนที่มันจะไม่สามารถมาหยามได้! ”
ชายสวมต่างหูพูดด้วยรอยยิ้มอย่างเยือกเย็น
“ชิ พึ่งแค่พวกนายไม่กี่คน? อยากที่จะสั่งสอนฉันคงยังไม่มีคุณสมบัตินั้นหรอก! ”
ฉินหมิงเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม
“หม่าเต๋อ จะตายแล้วยังจะปากกล้าอีก! ”
“ไอ้หนุ่ม ในเมื่อนายอยากรนหาที่ตาย วันนี้พวกพี่จะสนองให้นายเอง! ”
ชายสวมต่างหูโมโหอย่างมาก โบกมือส่งสัญญาณให้ลูกน้องเตรียมตัวลงมือ
“ช้าก่อน! ”
“ฉันขอเตือนพวกนาย ตอนนี้เป็นสังคมที่ปกครองด้วยกฏหมาย ถ้าหากพวกนายกล้าก่อความวุ่นวายล่ะก็ ฉันจะแจ้งตำรวจ! ”
หลินหว่านชิงหยิบโทรศัพท์ออกมา เธอตะโกนด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“ฮ่าฮ่า…”
ชายสวมต่างหูหลายคนถูกคำพูดของหลินหว่านชิงทำให้ขำ ต่างพากันหัวเราะออกมา
“ที่รัก เธอมาที่นี่เพื่อสร้างความตลกงั้นเหรอ? ”
“ที่นี่มันอยู่บนเขา เธอเองก็ไม่ดูโทรศัพท์เธอดี ๆ มันมีสัญญาณไหม! ”
“อีกอย่างพวกพี่ก็ไม่ได้โง่ ต่อให้โทรศัพท์เธฮมีสัญญาน เธอคิดว่าพวกเราจะปล่อยให้เธอแจ้งความหรือยังไง! ”
ชายสวมต่างหูพูดด้วยสีหน้าเยาะเย้ย
“นี่…”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลิกชะตารัก มรดกเซียน
รออัพเดท ตอนต่อ ๆ ไป ครับ...