พลิกชะตารัก มรดกเซียน นิยาย บท 39

ฉินถิงถิงน้ำตาไหลเป็นสายน้ำ สีหน้าเต็มไปด้วยความสำนึกและความรู้สึกผิด

ฉินหมิงถึงกับอึ้ง เขาคิดไม่ถึงว่าจะมีเรื่องราวอันขมขื่นอยู่เบื้องหลังเฉินถิงถิงเช่นนี้

เขาเองก็เป็นเด็กกำพร้าตั้งแต่เล็ก ๆ ชีวิตก็ไม่ได้ดีไปกว่าเฉินถิงถิง เขาจึงเข้าใจความรู้สึกของเฉินถิงถิงเป็นอย่างดีและยังเข้าใจถึงความสิ้นหวังและความไร้หนทางของเฉินถิงถิงเมื่อเผชิญกับความยากลำบาก...

โลกนี้มันโหดร้าย!

ตอนนี้ฉินหมิงรู้สึกโล่งใจอย่างมากและเขาก็เข้าใจพร้อมทั้งเห็นใจเฉินถิงถิงมากขึ้นอีกเล็กน้อย

ตอนนี้ก็เป็นเวลาเลิกงานพอดี เรื่องของฉินหมิงและเฉินถิงถิงจึงกลายเป็นจุดสนใจจากบรรดาเพื่อนร่วมงานที่อยู่โดยรอบ

“นี่มาดูเร็ว!”

“ผู้หญิงสวย ๆ ที่คุกเข่าลงบนพื้นอยู่ไม่ใช่เลขาเฉินที่เป็นเลขานุการของประธานหรอกเหรอ? ผู้ชายตรงข้ามเธอเป็นใครน่ะ?”

“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย”

“น่าแปลกใจจริง ๆ พวกเขาสองคนกำลังทำอะไรกันอยู่น่ะ?”

...

ผู้คนรอบข้างพูดคุยกันไม่หยุดและมองไปที่ฉินหมิงและเฉินถิงถิงด้วยสีหน้าแปลก ๆ

ฉินหมิงตกใจ เขาไม่ต้องการเป็นจุดสนใจเลยรีบพูดขึ้นว่า “นี่คุณเลขาเฉิน ลุกขึ้นมาครับ!”

“ไม่ค่ะ ถ้าคุณไม่ยอมให้อภัยฉัน ฉันก็จะไม่ลุกขึ้น…”

เฉินถิงถิงยืนกราน

“ผมให้อภัยคุณแล้ว คุณลุกขึ้นก่อนนะครับ พวกเราออกจากที่นี่ก่อนค่อยว่ากัน!”

ฉินหมิงรีบดึงให้เฉินถิงถิงลุกขึ้นแล้วรีบเผ่นออกมา

เฉินถิงถิงยิ้มออกแล้ว แม้ใบหน้ายังคงมีน้ำตาไหลอยู่แต่ในใจกลับดีใจมาก

ในที่สุดเธอก็ได้รับการอภัยจากฉินหมิงแล้ว เธอรู้สึกโล่งใจมาก

ฉินหมิงดึงเฉินถิงถิงไปที่ลานจอดรถของบริษัท

“เลขาเฉิน คุณเดินทางมาทำงานอย่างไรล่ะครับ ขี่รถมอเตอร์ไซค์มาหรือนั่งแท็กซี่มาครับ?”

ฉินหมิงสงสัย

“บางครั้งฉันก็นั่งรถเมล์ บางครั้งฉันก็นั่งรถไฟฟ้าสาธารณะมาค่ะ”

ใบหน้าสวยของเฉินถิงถิงแดงก่ำ

จริง ๆ แล้วทุกเดือนบริษัทจะมีค่ารถให้หลายร้อยหยวน แต่ค่าแท็กซี่ก็แพงเกินไป เธอจึงเลือกออมเงินให้ได้มากที่สุด

“คุณอาศัยอยู่ที่ไหนล่ะครับ? ให้ผมขี่รถไปส่งคุณเถอะ!”

ฉินหมิงชี้ไปที่รถมอเตอไซด์สปอร์ตคันสีชมพูตรงหน้า สีหน้าเขาแปลก ๆ ไปเล็กน้อย

เพราะยังไงสีของมอเตอร์ไซค์คันนี้ก็ดูไม่เหมาะเท่าไรนักแล้วก็ไม่ใช่เรื่องที่เขาอยากอวดนัก

“นี่…นี่รถของคุณเหรอคะ?”

เฉินถิงถิงตกตะลึงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ “สีรถคันนี้สวยจริง ๆ นะคะ…”

“รถมอเตอร์ไซค์คันนี้เพื่อนให้ผมน่ะครับ ผมจะใช้ไปก่อนสักสองสามวัน…”

ฉินหมิงหัวเราะแห้ง เขาคิดอยู่แล้วว่าเฉินถิงถิงจะมีปฏิกิริยาอย่างนี้และมันก็เป็นไปตามที่คาดไว้

โชคดีที่จากน้ำเสียงของเธอทำให้รู้ว่าเฉินถิงถิงไม่ได้ตั้งใจจะหัวเราะเยาะเขา ฉินหมิงรู้สึกดีขึ้นมาไม่น้อย

“ขึ้นรถเถอะครับ เดี๋ยวผมส่งคุณกลับบ้านเอง”

“นี่มัน…คงไม่ค่อยเหมาะสักเท่าไรมั้งคะ?”

เฉินถิงถิงลังเลเล็กน้อยเพราะแต่ไหนแต่ไรเธอไม่เคยกลับบ้านกับเพศตรงข้ามมาก่อน

แถมทั้งสองคนนั่งรถมอเตอร์ไซค์เดียวกันเกรงว่าจะถูกคนเห็นจะเข้าใจผิดได้ง่าย

“ผมไม่ได้มีเจตนาเกินเลยอะไรหรอกครับ แม่ของคุณป่วยและพักอยู่ที่โรงพยาบาล ผมแค่อยากจะไปเยี่ยมท่านสักหน่อยน่ะครับ”

“ผมรู้ทักษะทางการแพทย์บางอย่าง อาจจะช่วยอะไรได้บ้าง”

ฉินหมิงพูดพร้อมยิ้ม

เมื่อคืนเขาได้รับการถ่ายทอดตำราทางการแพทย์มากมายมาจากบรรพบุรุษตระกูลฉิน ซึ่งทำให้เขามีทักษะทางการแพทย์ใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น

“คุณมีทักษะการแพทย์ด้วยเหรอคะ?”

“จริงเหรอคะนี่?”

เฉินถิงถิงดีใจมาก

“ผมรู้แค่ผิวเผินนะครับ อย่ามาหวังอะไรจากทักษะการแพทย์ของผมเลยครับ”

“ผมก็แค่ไปดูเฉย ๆ ก็เท่านั้น บางทีผมอาจจะให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์แก่คุณบ้างก็ได้”

ฉินหมิงยักไหล่พูด

ทักษะการแพทย์ของเขายังตื้นเขินนักแถมยังไม่รู้ว่าจะนำไปใช้ได้จริงหรือไม่ เขาแค่เห็นใจเฉินถิงถิงและอยากช่วยเธอเท่าที่ทำได้

“อืม ขอบคุณนะคะ…”

เฉินถิงถิงพยักหน้าอย่างตื่นเต้น

แม่ของเธออยู่โรงพยาบาลมาหลายเดือนแล้ว อาการป่วยก็ไม่เห็นจะดีขึ้น

เธอยังถามแพทย์เกี่ยวกับอาการของแม่แต่คำตอบของแพทย์ก็กลับคลุมเครืออยู่เสมอ

ถ้าฉินหมิงเข้าใจทักษะการแพทย์ เขาก็สามารถให้ความคิดเห็นแก่เธอได้

จากนั้นทั้งสองคนก็ขึ้นรถ ฉินหมิงสตาร์ทมอเตอร์ไซค์และขับพาเฉินถิงถิงออกจากบริษัทไป

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลิกชะตารัก มรดกเซียน