พลิกชะตารัก มรดกเซียน นิยาย บท 38

“ก็ดี!”

หลินหว่านชิงกรอกตาใส่ฉินหมิงด้วยท่าทางน่ามอง แต่พอเห็นแผลที่ฝ่ามือฉินหมิงเธอถามด้วยความเป็นห่วง “ว่าแต่แผลที่มือนายเป็นอย่างไรบ้าง?”

“บริษัทของเรามีห้องพยาบาลเฉพาะนะ เดี๋ยวฉันพานายไปเอง”

ฉินหมิงลังเลเล็กน้อย แผลที่มือเขาก็แค่บาดเจ็บที่ผิวหนังถาก ๆ ไม่ได้ร้ายแรงอะไร

แต่ว่าไปที่ห้องพยาบาลทำความสะอาดและฆ่าเชื้อก็ช่วยหลีกเลี่ยงการติดเชื้อที่บาดแผลได้

“หว่านชิงเมื่อวานเธอก็ไม่ได้มาที่บริษัทมีงานเป็นกองที่รอให้เธอจัดการเพียบเลย เดี๋ยวฉันพาฉินหมิงไปทำแผลที่ห้องพยาบาลเอง!”

หานซีฉวยโอกาสชวนฉินหมิง

“เธอน่ะเหรอ?”

หลินหว่านชิงมองหานซีด้วยความแปลกใจ ถ้าจำไม่ผิดหานซีไม่ค่อยชอบหน้าฉินหมิงเพราะเรื่องเมื่อเช้าไม่ใช่เหรอ?

อีกทั้งนิสัยของหานซีหยิ่งยโสมาก เธอมักจะเมินพวกผู้ชายเสมอ

ตอนนี้ปรากฏว่าหานซีร้องขออยากจะพาฉินหมิงไปห้องพยาบาลเอง นี่เป็นเรื่องหายากจริง ๆ

“ก็ฉันเข้าใจผิดหลงเชื่อคำโกหกของเหยียนซ่งไท่ เลยเข้าใจฉินหมิงผิดไปหน่อย”

“เพราะฉะนั้นฉันเลยจะพาเขาไปห้องพยาบาลถือว่าเป็นการขอโทษเขาละกัน…”

ใบหน้าสวยของหานซีแดงเล็กน้อย เพราะสายตาของหลินหว่านชิงทำให้หานซีรู้สึกกระอักกระอ่วน

“อืม อย่างนั้นเธอก็พาเขาไปเถอะ”

หลินหว่านชิงยิ้มเล็กน้อย ไม่ได้เอามาใส่ใจ

หลังจากที่ฉินหมิงทำความสะอาดแผลและพันแผลที่ห้องพยาบาลเสร็จแล้วเขาก็กลับมาที่สำนักงานผู้บริหารอีกครั้ง

เนื่องจากเหยียนซ่งไท่ถูกไล่ออกไปแล้ว หลินหว่านชิงจึงมอบหมายให้ผู้อำนวยการระดับสูงคนหนึ่งไปที่สำนักงานผู้บริหารเพื่อคอยดูแลงานต่าง ๆ

อีกฝ่ายเป็นชายวัยกลางคนในวัยสี่สิบกว่าปี เขามีชื่อว่าจั้วหลิวเจิ้นซึ่งต่อไปเขาจะมาเป็นผู้อำนวยการสำนักงานผู้บริหาร

ในสำนักงานผู้บริหารมีเลขานุการประธานถึงสามคนด้วยกัน

นอกจากฉินหมิงและเฉินถิงถิงแล้ว ก็ยังมีหญิงสาวอีกคนหนึ่งที่ชื่ออู๋จิ้ง

อู๋จิ้งอยู่ในช่วงอายุสามสิบต้น ๆ และทำงานที่บริษัทได้สามปีแล้ว เธอสวมสูทดูเป็นทางการสีดำ สวมแว่นสายตาสั้นแบบไร้ขอบ เธอดูเหมือนคนเฉียบแหลมและมีความสามารถ

หลิวเจิ้นจัดการให้ฉินหมิงอยู่กับอู๋จิ้งเพื่อให้ฉินหมิงเรียนรู้งานพื้นฐานจากอู๋จิ้ง

ภายใต้การแนะนำอย่างรอบคอบของอู๋จิ้ง ฉินหมิงเรียนอย่างตั้งใจ โดยไม่รู้เนื้อรู้ตัวเวลาช่วงบ่ายก็ผ่านไปแล้ว

หลังจากเลิกงาน

ฉินหมิงคิดถึงใบหน้างามของหลินหว่านชิงอย่างสบายอารมณ์ เขาฮัมเพลงที่ไม่รู้จักแล้วเดินไปที่ลานจอดรถ

“เลขาฉินคะ รอก่อนค่ะ…”

เสียงแหลมเล็กดังมาจากด้านหลัง เฉินถิงถิงวิ่งตามมาข้างหลังจนหน้าแดงก่ำ

“เลขาเฉิน มีธุระอะไรหรือเปล่าครับ?”

ฉินหมิงขมวดคิ้วมองเฉินถิงถิงอย่างไม่สบอารมณ์ เขามีความประทับใจที่ไม่ดีกับเฉินถิงถิงเพราะว่าเธอหักหลังเขาอย่างเจ็บแสบ

“ฉันขอโทษนะคะ สิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้เป็นความผิดของฉันเอง ฉันต้องขอโทษคุณจริง ๆ นะคะ…”

เฉินถิงถิงโค้งคำนับต่อฉินหมิง

“ไม่จำเป็นหรอกครับ คุณได้ขอโทษผมที่ห้องสำนักงานแล้ว”

ฉินหมิงพูดเสียงเรียบ

“ฉันรู้ค่ะ แต่ฉันหวังว่าคุณจะให้อภัยฉัน…”

เฉินถิงถิงกัดริมฝีปากแน่น ตลอดทั้งตอนบ่ายในใจเธออยู่ไม่เป็นสุขได้แต่ครุ่นคิดว่าจะทำอย่างไรให้ฉินหมิง

อภัยกับเธอ ไม่อย่างนั้นใจเธอคงไม่สงบเป็นแน่

“เรื่องมันก็ผ่านมาแล้ว ไม่มีอะไรจะให้อภัยหรือไม่ให้อภัยแล้วล่ะครับ!”

ฉินหมิงนึกขัน เขาเองก็ไม่ใช่นักบุญ ไม่ว่าใครเจอเรื่องแบบนี้ก็คงยากที่จะปล่อยมันไปง่าย ๆ

เฉินถิงถิงกัดฟัน เธอคุกเข่าลงต่อหน้าฉินหมิงดังตุบ

ฉินหมิงตกใจและรีบไปพยุงเฉินถิงถิง “เลขาเฉินนี่คุณจะทำอะไร? คุณรีบลุกขึ้นมาเร็ว!”

เฉินถิงถิงส่ายหน้าไม่ยอมลุกขึ้น

“พ่อของฉันทิ้งไปตั้งแต่ฉันยังเล็ก ๆ เหลือเพียงแม่ที่คอยเลี้ยงดูฉันกับน้องชายจนโตมาอย่างยากลำบาก”

“ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา แม่ฉันป่วยเนื่องจากการทำงานหนักและเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ทุก ๆเดือนค่ารักษาก็แพง…”

“ปีนี้น้องชายของฉันก็เพิ่งจะเข้าเรียนที่มหาลัยเจียงเฉิง ต้องการค่าเทอมและค่ากินอยู่…”

“งานนี้สำคัญกับฉันมาก ฉันกลัวว่าจะตกงานก็เลยหน้ามืดตามัวร่วมมือเป็นพยานให้ผู้อำนวยการเหยียน…”

“ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าฉันผิดจริง ๆ โปรดให้โอกาสฉันและให้อภัยฉันด้วยเถอะนะคะ…”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลิกชะตารัก มรดกเซียน