"คุณเป็นแพทย์แผนจีนเหรอครับ?"
เมื่อชายหนุ่มเห็นฉินหมิงหยิบเข็มเงินหลายเล่มออกมา เขาก็รู้สึกแปลกใจ
ในสังคมทุกวันนี้ การแพทย์แผนจีนไม่เป็นที่ยอมรับมากขึ้นเรื่อย ๆ และไม่สะดวกรวดเร็วเท่ากับการแพทย์แผนตะวันตกในหลาย ๆ ด้าน
นอกเหนือไปจากนั้น ทฤษฎีของการแพทย์แผนจีนยังมีขอบเขตลึกล้ำกว้างไกล ทั้งยังจำเป็นต้องสั่งสมประสบการณ์มาเนิ่นนาน แพทย์แผนจีนผู้มีชื่อเสียงส่วนใหญ่จึงมักจะเป็นผู้สูงอายุ
แต่ดูเหมือนว่าฉินหมิงจะมีอายุไม่ถึงยี่สิบห้าปีเสียด้วยซ้ำไป มิหนำซ้ำเขายังรู้วิชาแพทย์แผนจีนแค่เพียงผิวเผินเท่านั้น
ชายหนุ่มจึงอดไม่ได้ที่จะพึมพำอยู่ในใจ ฝีมือการรักษาของฉินหมิงคงจะไม่มีอะไรผิดปกติหรอกใช่ไหม?
ฉินหมิงส่ายหน้าแล้วพูดตามความจริงว่า "ผมไม่ใช่ทั้งแพทย์แผนจีนหรือหมอ..."
"อะไรนะ?"
"แกไม่ใช่หมอแล้วแกมาก่อกวนทำไม?"
"เสียเวลาชะมัดเลย!"
ชายหนุ่มเปลี่ยนสีหน้ารุนแรง กระทั่งจมูกก็แทบจะงองุ้มอยู่แล้ว
"ถึงแม้ว่าผมจะไม่ใช่หมอ แต่ผมก็เรียนรู้ทักษะวิชาแพทย์แผนจีนมาบ้างและผมมั่นใจว่าสามารถรักษาคนไข้ได้..."
ฉินหมิงเอ่ยขึ้นจากใจจริง
"ให้มันน้อย ๆ หน่อยเถอะ!"
"ถ้าหากปู่ของฉันอาการแย่ลงเพราะการรักษาตามอำเภอใจของแกเล่า? แกจะรับผิดชอบผลที่ตามมาไหวงั้นเหรอ?"
ชายหนุ่มโกรธมากเสียจนผลักฉินหมิงออกไป จากนั้นก็คว้าตัวชายชรามาจากมือของฉินหมิง
เดิมทีเขาก็ไม่เชื่อฝีมือการรักษาของฉินหมิง ทว่ายามนี้เขารู้ว่าฉินหมิงไม่ใช่แม้แต่หมอเสียด้วยซ้ำไป เขาย่อมมาเอาชีวิตของปู่ตนเองมาล้อเล่นแน่!
"แต่......"
ฉินหมิงคิดจะยืนยัน แต่กลับถูกอีกฝ่ายเอ่ยขัดขึ้นมาก่อนที่จะทันได้พูดอะไร
"ไอ้คนไร้ประโยชน์!"
"ไสหัวออกไปจากที่นี่ซะ!"
ชายหนุ่มจ้องมองตาขุ่นตาเขียว ถ้าไม่ใช่เพราะเห็นแก่ฉินหมิงยื่นมือเข้าช่วยเหลือด้วยเจตนาดี เขาก็คงจะสั่งให้บอดี้การ์ดขับไล่ไปแล้ว!
"งั้น...ก็ช่างเถอะ"
ฉินหมิงยิ้มขมขื่นและไม่มีทางเลือกอื่นนอกเสียจากถอยออกไป
ในตอนนี้เองก็มีเสียงฝีเท้าเดินจ้ำอ้าวดังขึ้น จากนั้นชายวัยกลางคนวัยห้าสิบกว่าปีพร้อมด้วยผู้ช่วยหนุ่มและชุดปฐมพยาบาลเบื้องต้นก็รีบเข้ามาหา
ชายหนุ่มมีสีหน้ายินดีแล้วรีบเอ่ยขึ้นมาว่า "หมอหลิว คุณมาสักที จู่ ๆ คุณปู่ของผมก็หมดสติไป ได้โปรดรีบช่วยท่านที..."
"นายท่านโจวเจี้ยน อย่าห่วงไปเลยครับ คุณโจวน่าจะโรคเก่ากำเริบ ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไรหรอกครับ" หมอหลิวปลอบใจเขา
เมื่อเห็นว่าชายชราหายใจแผ่วลงทุกที ๆ เขาก็ไม่กล้าละเลยจึงรีบส่งสัญญาณให้ผู้ช่วย จากนั้นทั้งสองคนก็เริ่มนวดหัวใจผายปอดกู้ชีพให้ชายชรา
"ช้าก่อนครับ!"
"นายท่านผู้เฒ่าคนนี้เป็นโรคหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน ห้ามกดหน้าอกเป็นอันขาด!"
"มิฉะนั้นอาจจะทำให้อาเจียนเป็นเลือดจนเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้!"
ฉินหมิงรีบลุกขึ้นมาขวางเขาไว้
"ไอ้หนู เป็นแกอีกแล้ว!"
"แกหุบปากไปซะ!"
โจวเจี้ยนตะคอกใส่ด้วยความโกรธจัด
หมอหลิวเงยหน้ามองฉินหมิง "พ่อหนุ่ม คุณก็เป็นหมองั้นรึ?"
"หมอหลิว อย่าไปฟังมันพูดไร้สาระเชียว!"
"มันอ้างว่าร่ำเรียนแพทย์แผนจีนมาบ้าง แต่กลับไม่ใช่หมอเลย!"
โจวเจี้ยนเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา
"ไอ้หนุ่ม ตอนนี้พวกเราอยู่ยุคไหนกันแล้ว? การแพทย์แผนจีนมันล้าสมัยไปตั้งนานแล้ว!"
"ยิ่งไปกว่านั้น แกก็ยังเด็กมาก ต่อให้เรียนรู้การแพทย์แผนจีนมาบ้างจะมีประโยชน์อะไร? แกก็ยังล้าหลังอยู่ดี!"
หมอหลิวหัวเราะเยาะด้วยสีหน้าดูแคลนอยู่บ้าง
เขาไปร่ำเรียนการแพทย์แผนตะวันตกที่เมืองจงโจวอยู่หลายปี ทั้งยังประสบความสำเร็จมากในสายแพทย์แผนตะวันตก
เขามักจะดูถูกการแพทย์แผนจีนมาโดยตลอด เพราะคิดว่าการแพทย์แผนจีนเป็นเรื่องหลอกลวงและไม่ควรค่าแก่การเอ่ยถึง!
"ผมรู้ว่าคุณไม่เชื่อฝีมือการรักษาของผม แต่ทุกอย่างที่ผมพูดเป็นความจริง!"
"ถ้าคุณไม่หยุดมือล่ะก็ นายท่านผู้เฒ่าคนนี้ต้องอาเจียนออกมาเป็นเลือดแน่ ๆ!"
ฉินหมิงเอ่ยขึ้นด้วยท่าทีเป็นกังวล
"ฉันเป็นหมอประจำตัวของคุณโจว ย่อมรู้จักสภาพร่างกายของเขาดีกว่าแก!"
"อย่าเอาฝีมือการรักษาอันน้อยนิดมาสร้างความอับอายให้ตัวเองอยู่ที่นี่เลย!"
หมอหลิวกล่าวเยาะเย้ย
เขาไม่สนใจฉินหมิงและส่งสัญญาณให้ผู้ช่วยของตนนวดหัวใจผายปอดกู้ชีพให้คุณโจวต่อไป
หลังจากผู้ช่วยลงมือแล้ว สีหน้าซีดขาวของคุณโจวก็ค่อย ๆ มีเลือดฝาดขึ้นมาทีละนิด ๆ จนหายใจได้สะดวกขึ้นมาก
ใครที่ไม่ใช่คนโง่เขลาก็มองออกทั้งนั้นว่าอาการของคุณโจวดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
จากนั้นหมอหลิวก็หยิบยาเม็ดจิ้วซินที่ออกฤทธิ์เร็วมาป้อนให้คุณโจวกินเข้าไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลิกชะตารัก มรดกเซียน
รออัพเดท ตอนต่อ ๆ ไป ครับ...