Chapter 10 ริมฝีปากร้อน
ซินเหมยสะอื้นฮักจนตัวโยน สองมือยังคงกอดสามีเอาไว้ไม่ยอมปล่อย หากนางกำลังจมอยู่ในห้วงกระแสธารที่แสนเกรี้ยวกราด สามีคือหลักยึดเพียงหนึ่งเดียวในชีวิตที่นางมี หากเขาหนีหายทิ้งนางไป นางคงไม่อาจมีชีวิตอยู่อีกต่อไป
“ข้าเห็นว่าเจ้ายังนอนหลับสบาย จึงตั้งใจรีบเดินทางเข้าไปในตลาดแต่เช้าตรู่ ซื้อหมั่นโถวร้อนๆ กับเนื้อหมูตุ๋นโสมมาบำรุงเจ้าจะได้แข็งแรง แล้วยังแวะไปหาท่านหมอที่ข้าพอจะรู้จักเพื่อรับยามารักษาดวงตาของเจ้า”
“ทะ...ท่านพี่”
หญิงสาวเสียงเครือก่อนที่น้ำตาจะไหลมากกว่าเดิม ในขณะที่นางกลัวว่าเขาจะทอดทิ้ง คิดถึงแต่ตัวเอง แต่เขากลับทำเพื่อนางถึงเพียงนี้เชียวหรือ
“ข้าขอโทษที่ไม่รอให้เจ้าตื่นก่อน ไม่เช่นนั้นเจ้าคงไม่ต้องมาเจอเรื่องร้ายๆ เช่นนี้ คงจะกลัวมากใช่หรือไม่”
จางจ้าวถางมองไปรอบๆ ห้องเก็บของที่ทั้งอับทั้งทึบคับแคบเต็มไปด้วยฝุ่นและเครื่องมือทำการเกษตร สถานที่แห่งนี้เคยเป็นที่รกร้างเมื่อเขามาอยู่ต่อก็ไม่เคยใส่ใจเข้ามาในนี้เลยเพราะเห็นว่าไม่จำเป็น
ไม่คิดเลยว่าภรรยาตาบอดจะมาติดอยู่ในนี้ เห็นทีว่าต้องตีประตูปิดตายห้องนี้เสียแล้ว
“ข้ากลัวเจ้าค่ะ”
นางยอมรับออกมาตามตรง มือเล็กยังคงสั่นเทิ้ม เรียวปากอิ่มพยายามเม้มเข้าหากันสนิทเพื่อกลั้นแรงสะอื้นฮัก
“ไม่ต้องกลัวข้าอยู่นี่แล้ว”
มือหนาลูบลงบนศีรษะอย่างปลอบโยน จุมพิตแผ่วเบาที่หน้าผาก ไล่เรื่อยมายังเปลือกตาที่ปิดสนิท ก่อนจะไล้ไปยังแก้มนวล อ้อยอิ่งอยู่บริเวณเรียวปากหวานอย่างโหยหา
แล้วแม่ทัพจางก็ทำในสิ่งที่ตนเองอยากทำมากที่สุด คือการปิดเรียวปากอิ่มเอาไว้ด้วยเรียวปากของเขา บดเบียดเนิบช้าเว้ารัญจวนก่อนจะค่อยๆ แทรกปลายลิ้นร้อนเข้าไปควานหารสหวานราวกับเกสรดอกไม้งาม
“อื้อ...”
คนตัวเล็กถึงกับอ่อนยวบไปทั้งสรรพางค์กาย หัวใจดวงน้อยเต้นระรัว ลืมความหวาดกลัวขวัญผวาไปเสียสิ้น แทนที่ด้วยความรู้สึกวาบหวิวเคลิ้มไปกับรสจูบที่แสนนุ่มนวลราวกับแม่ทัพจางได้จับจูงนางขึ้นไปอิงแอบปุยเมฆสีขาวสดใส
จางจ้าวถางค่อยๆ คลายริมฝีปากออก แล้วจูบไปที่ปลายจมูกรั้นเบาๆ
“รู้สึกดีขึ้นบ้างหรือยัง”
คนตัวเล็กไม่ได้ตอบ แต่ใบหน้าของนางแดงระเรื่อไปจนถึงใบหูและลำคอ ก่อนที่นางจะส่ายหน้าช้าๆ
“ยังเจ้าค่ะ”
“งั้นหรือ”
“เจ้าค่ะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภรรยาตาหวาน (คลั่งหื่น)