ผู้ชนะเลศคือราชา นิยาย บท 66

สรุปบท บทที่ 66 สัญชาตญาณการต่อสู้ที่น่ากลัว: ผู้ชนะเลศคือราชา

ตอน บทที่ 66 สัญชาตญาณการต่อสู้ที่น่ากลัว จาก ผู้ชนะเลศคือราชา – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 66 สัญชาตญาณการต่อสู้ที่น่ากลัว คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายใช้ชีวิต ผู้ชนะเลศคือราชา ที่เขียนโดย ถังจิ่ว เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

บทที่ 66 สัญชาตญาณการต่อสู้ที่น่ากลัว

“ผมรอคุณมาตลอด!”

ท่ามกลางความมืด เงาดำที่ถูกคุนหลุนคว้าข้อมือเอาไว้ ไม่เพียงแต่จะไม่มีอาการตื่นตกใจ ในทางตรงกันข้ามกลับมีความประหลาดใจเล็กน้อยอีกด้วย

เฉินตงขมวดคิ้ว สถานที่แห่งนี้มืดเกินไปแล้วจริงๆ ยกเว้นบริเวณรอบๆลูกกรงเหล็ก ส่วนที่เหลือล้วนแต่มืดสนิทจนมองไม่เห็นอะไรเลย

“คุณคือใคร?”

คุนหลุนปล่อยมือขวาของเขา เนื่องจากพบตัวแล้ว เขาไม่สนใจเลยว่าคนตรงหน้าจะลงมือหรือไม่

เป็นเพราะเขามั่นใจว่าในเสี้ยววินาทีที่คนผู้นี้ลงมือ เขาจะคว่ำมันลงได้

เงาร่างนั้นก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าวหันหน้ารับแสงสว่างในทิศทางของกรงเหล็ก เผยให้เห็นแผลเป็นรูปตะขาบที่หางตาอย่างชัดเจน

“กูหลัง?!”

เฉินตงตะลึงไปชั่วขณะแล้วได้สติกลับคืนมาในทันที : “เมื่อกี้นี้นายไม่ได้อยากจะลงมือกับฉันเหรอ?”

ในกรงเหล็กคราวก่อน เขาให้ความเมตตาต่อลูกน้องของกูหลัง ปฏิกิริยาตอบสนองของกูหลังในตอนนั้น เขาไม่คิดเลยว่ากูหลังจะผูกพยาบาท ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อกี้นี้ยังฉวยโอกาสทำร้ายในที่ลับ

“ผม ผมเพียงแค่อยากจะทักทายคุณ”

กูหลังรู้สึกกระดากอายเล็กน้อย “เข้ามาในระหว่างการแข่งขันโรงยิมมวยใต้ดิน แล้วจู่ๆตะโกนเรียกนายจะส่งผลกระทบที่ไม่ดี”

เฉินตงถูจมูกแล้วยิ้มอย่างประดักประเดิด

“นายจะทักก็สามารถเดินเข้ามาใกล้แล้วทักทายก็ได้นี่นา มีมือดำมืดยื่นออกมาในสถานที่ประเภทนี้ ไม่ยากเลยที่คุนหลุนจะเข้าใจนายผิด”

“เป็นผมเองที่ไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้มากพอ”

กูหลังแสยะยิ้ม

ได้พบกันอีกครั้ง เฉินตงค้นพบว่าลักษณะท่าทางของกูหลังตอนที่อยู่ในกรงเหล็กมีความแตกต่างอย่างมาก

เมื่อเขาอยู่ในกรงเหล็ก กูหลังทำให้เขารู้สึกเหมือนกับเป็นสัตว์ป่ากระหายเลือด และในตอนนี้ค่อนข้างจะมีความนุ่มนวลกว่ามาก

แม้จะมีความนิ่งเฉยอยู่บ้าง

ตูม!

ทันใดนั้น ในความมืดของโรงยิมมวยใต้ดินก็เกิดเสียงโห่ร้องตะโกนจนหูแทบแตก

เฉินตงผงะไปทันที เมื่อหันไปมองทางกรงเหล็ก การต่อสู้ได้มาถึงจุดที่เดือดที่สุด

ทั้งนองเลือดและโหดร้าย ในตอนนี้มันได้แสดงออกมาอย่างเต็มตาและทั่วถึง

สุนทรียภาพของความรุนแรงเมื่อกำปั้นกระแทกเนื้อเป็นปัจจัยที่ง่ายที่สุดในการกระตุ้นสัญชาตญาณอันป่าเถื่อนของมนุษย์

“ใกล้จะตัดสินผลแพ้ชนะแล้ว” กูหลังพูดอย่างสงบนิ่ง : “ภายใต้การกดอัดด้วยโครงสร้างร่างกายและพละกำลังของฮิปโป ใช้เวลาประมาณหนึ่งนาทีก็สามารถตัดสินผลแพ้ชนะได้แล้ว”

ด้วยการหมกมุ่นกับการต่อสู้ที่โรงยิมมวยใต้ดินอย่างยาวนาน กูหลังมีความเป็นมืออาชีพอย่างมาก

เฉินตงไม่ได้โต้แย้ง

สถานที่ประเภทโรงยิมมวยใต้ดินนี้สามารถฆ่าคนให้ตายได้ตลอดเวลา เป็นไปไม่ได้เลยที่จะปฏิบัติอย่างซื่อสัตย์ในเกมการต่อสู้แบบนี้ ลำดับความสำคัญนั้นเป็นไปตามขนาด

แต่ทว่า ทันใดนั้นคุนหลุนกลับถามเฉินตงว่า : “คุณชาย คุณคิดยังไง?”

เฉินตงตะลึงไปชั่วขณะ แล้วมีปฏิกิริยาตอบสนองกลับมาทันที

คุนหลุนกำลังทดสอบเขา

กูหลังที่อยู่ด้านข้างก็ขมวดคิ้ว แต่กลับไม่ได้ส่งเสียง

เขาเพิ่งจะเข้ามาใกล้เมื่อสักครู่และถูกคุนหลุนค้นพบและหยุดด้วยหลังมือ ประเมิณแค่สิ่งนี้เท่านั้น เขาก็รู้แน่ชัดว่าคุนหลุนมีความแข็งแกร่งเหนือกว่าเขา

ในความมืด เสียงกรีดร้องตะโกนนั้นราวกับเสียงคลื่น

และภายในกรงเหล็กมีเลือดสาดกระเซ็น เลือดทะลักออกมา

คนที่กูหลังเรียกว่าฮิปโปนั้นมีอำนาจเหนือกว่าในสถานการณ์ต่อสู้โดยสมบูรณ์ แม้กระทั่งหมัดหนักๆก็ใช้มือซ้ายสกัดเอาไว้ได้

แต่สิ่งที่ทำให้เฉินตงประหลาดใจที่สุดก็คือ ถึงแม้ว่าแขนจะหักไปแล้วข้างหนึ่ง แต่คนผู้นั้นกลับยังคงเคลื่อนย้ายหลบหลีกและในบางครั้งก็โต้กลับด้วยหมัดขวา

เห็นได้ชัดว่าสถานการณ์ที่ไม่เอื้ออำนวยและอาการบาดเจ็บไม่ได้เป็นสาเหตุทำให้จิตใจวุ่นวายสับสนได้เลย

สิ่งนี้ดึงดูดความสนใจของเฉินตง

ทุกวินาทีที่ผ่านไป

การต่อสู้ที่ถึงขีดสุดได้ระเบิดอารมณ์ของผู้ชมทั้งสนาม

สายตาของเฉินตงจ้องมองการต่อสู้อย่างตั้งใจ พูดให้ถูกต้องคือจ้องมองไปที่ชายร่างเล็ก

คุนหลุนที่อยู่ด้านข้างดูคล้ายจะยิ้มออกมา

“จริงเหรอ…เปลี่ยนความพ่ายแพ้เป็นชัยชนะจริงๆเหรอเนี่ย?” กูหลังตกตะลึงจนตาค้างและมองภายในกรงเหล็กอย่างเหลือเชื่อ

“ฟู่ว…” เฉินตงถอนใจยาว เมื่อกี้นี้พลังงานทั้งหมดของเขาได้เพ่งความสนใจไปที่ชายร่างเล็ก ทำให้เขาเองอดไม่ได้ที่จะเป็นกังวลกับสงครามการต่อสู้ขึ้นมา

“คุณชายครับ ความก้าวหน้าของคุณทำให้ผมประหลาดใจมากเกินไปแล้ว”

คุนหลุนตบไหล่เฉินตงอย่างชื่นชมและดวงตาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม

อันคำว่าการศึกษาอันยอดเยี่ยมของคนรุ่นใหม่ของตระกลูเฉิน หนึ่งในนั้นคือสมรรถภาพทางกายและทักษะการต่อสู้

นับตั้งแต่ตนเองเข้าร่วมกับตระกูลเฉิน เขารู้ดีทุกอย่างเกี่ยวกับสมรรถภาพทางกายและระดับทักษะการต่อสู้ของคนรุ่นใหม่ของตระกูลเฉิน แต่ว่าไม่มีใครที่มีพัฒนาการได้รวดเร็วเท่ากับเฉินตง!

“สายตาของคุณท่านดูเหมือนคบเพลิงจริงๆ”

ในขณะที่ชื่นชมเวลาเดียวกันนั้นเอง คุนหลุนก็แอบถอนใจอยู่ในใจ

“อย่ามาไม้นี้เลย นายโยนข้อสอบออกมา ฉันถึงได้ดูอย่างละเอียด สิ่งนี้เทียบกับมองไปที่กูหลังโดยตรงแล้ว นั่นง่ายกว่ามาก”

เฉินตงตอบ อย่างนี้จะได้ไม่ทำให้กูหลังต้องรู้สึกอายเกินไป

คุนหลุนพยักหน้าแล้วพูดต่อไปว่า : “คุณชาย ขอให้จำไว้ว่า ทักษะการต่อสู้คือทักษะการฆ่าก่อนที่แพ้ชนะจะถูกกำหนด คุณสามารถถูกศัตรูโจมตีได้เป็นร้อยๆครั้ง ขอเพียงแค่คุณไม่ล้มลง คว้าโอกาสเอาไว้เพราะชนะหรือแพ้อยู่ในหนึ่งกระบวนท่าและการฆ่าคนจำเป็นต้องใช้แค่กระบวนท่าเดียวเท่านั้น”

เฉินตงพยักหน้าเงียบๆ

ดวงตาของกูหลังที่อยู่ด้านข้างมีความหวาดกลัวหนักยิ่งขึ้นและครุ่นคิดถึงบางสิ่ง

คุนหลุนยิ้ม : “แต่ว่า ชายร่างเล็กคนนั้นยังโง่อยู่เล็กน้อย ยอมจ่ายราคาออกไปมากขนาดนั้นเพียงเพื่อแลกกับการโจมตีที่รุนแรง คู่ต่อสู้ถูกเขาเตะจนเกือบตายและเขาแขนหักข้างหนึ่ง เขาไม่มีทางต่อสู้ได้ในหนึ่งหรือสองเดือนข้างหน้า”

“การต่อสู้คือทักษะการฆ่า ก่อนที่ชนะหรือแพ้จะถูกกำหนด ต้องพยายามสร้างสมดุลของอัตราส่วนต้นทุนและผลกำไรให้ได้มากที่สุดแล้วใช้ต้นทุนน้อยที่สุดแลกกับการฆ่าในหนึ่งกระบวนท่า!”

เฉินตงขบปากอย่างครุ่นคิด

“ผมจะไปช่วยคุณชายทำการนัดหมายเพื่อลงสนาม” คุนหลุนพยักหน้าแล้วจากไป

เวลานี้ ในที่สุดกูหลังก็มีสติคืนกลับมาจากความสยดสยอง

สายตาล้ำลึกของเขาเหลือบมองดูคุนหลุนที่จากไปแล้วสุดท้ายก็ตกอยู่บนตัวเฉินตง

เขาสงสัย และคิดอยู่…เพียงไม่กี่วินาที ดวงตาของกูหลังก็เปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีก

ท้ายที่สุด เขาก็แน่วแน่ขึ้นมาอย่างทันทีทันใด

พูดเสียงเข้มว่า : “ได้โปรดให้ผมติดตามคุณ!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้ชนะเลศคือราชา