บุบผาร้อยเสน่ห์ นิยาย บท 505

บทที่ 505 วางแผนลำพัง

ระหว่างกุ่ยเม่ยและกู้อ้าวเวยนั้นไม่มีความรักแบบหญิงสาว เป็นแต่เพียงญาติในครอบครัวเท่านั้น

“ข้าไม่เข้าใจว่าเจ้ากังวลเรื่องอะไร แม้ว่านางจะเป็นผู้หญิงแต่นางก็รู้ว่าอะไรควรไม่ควรไม่เอาตัวเองไปเสี่ยงหรอก หากยังไม่แน่ใจ นางไม่ยอมไปแน่นอน ในเมื่อนางไม่ได้ร้องขอให้ข้าคุ้มกัน อย่างนั้นนางก็คงจะหาทางปกป้องตัวเองได้แน่นอน” กุ่ยเม่ยกำลังถูกจ้องมอง และยังคงพูดต่อไป “พวกเจ้าเรียกตัวเองว่าเป็นคนในครอบครัวของนาง แล้วทำไมถึงไม่เข้าใจนางว่าหากเทียบกับการให้คนอื่นมาปกป้องนาง นางต้องการจะปกป้องคนอื่นมากกว่า”

“หากเจ้าคิดถึงนางจริง ๆ ทำไมไม่ช่วยนางทำทุก ๆอย่างให้เรียบร้อย แล้วรอนางกลับมาล่ะ”

เมื่อพูดออกไป ห้องทั้งห้องก็เงียบสงบ

การเป็นแม่คน หยุนหว่านได้แต่ใจเย็นยับยั้งความโกรธที่อยากจะตบกุ่ยเม่ยสักที พูดออกไปด้วยเสียงขุ่น “ที่บอกว่ามันคือความมั่นใจว่าจะสำเร็จ คือการปกปิดพวกเรา แล้วไปทำคนเดียวงั้นเหรอ”

กุ่ยเม่ยเกรงกลัวฮูหยินคนนี้ ความเย่อหยิ่งเมื่อกี้นี้ก็หายไปด้วย กระซิบเบาๆ “หากคนหนึ่งรู้หนึ่งเรื่อง มันก็ง่ายต่อการควบคุม แต่หากทุกคนรู้เรื่องเดียวกัน อย่างนั้นเรื่องราวต่างๆก็เกินความคาดเดาจะควบคุม”

“เวยเอ๋อก็พูดแบบนี้!” หยุนหว่านพยายามพุ่งไปข้างหน้า ฉูห้าวรีบคว้าตัวไว้

ตอนนี้สีหน้าของฉูหลี่เริ่มเปลี่ยน “เรื่องที่พูดมานี้ พวกเรายิ่งรู้น้อยยิ่งดีเหรอ”

“ควรจะเป็นเช่นนั้น” กุ่ยเม่ยแค่รู้สึกว่าบรรยากาศเริ่มไม่ค่อยจะดี ลูบหัวตัวเองแล้วค่อยๆถอยไปหนึ่งก้าว “ดังนั้น ความเสี่ยงของนางมีน้อยมาก หากทุกคนยังคงกังวลมากแบบนี้ ข้าจะไปบอกเรื่องอื่นให้กับพวกเจ้าได้อย่างไร”

“รีบพูดมาสิ!” ซ่านจินจื๋อมองอย่างเย็นชา

กุ่ยเม่ยคิดเพียงว่าคนที่นั่งอยู่สองสามคนนี้ล้วนแต่เป็นผู้มีอำนาจ จึงได้แต่พูดออกไปอย่างเชื่อฟัง “นางบอกกับข้าเป็นการส่วนตัว อ้ายหยินพยายามแย่งชิงบัลลังก์ ส่วนอ้ายจือมีความฉลาด แม้ว่าจะเป็นผู้หญิงแต่สามารถรับภาระอันยิ่งใหญ่ในอนาคตได้ และวันหนึ่งล่ายเสวียนก็จะเปลี่ยนความคิดตนเอง และยังสั่งข้าไว้ด้วย และพร้อมต้อนรับล่ายเสวียนและส่งคนออกไปได้ทุกเมื่อ”

“นางสามารถจะโน้มน้าวล่ายเสวียนได้งั้นหรือ” ฉูหลี่ยกคิ้ว

“นางบอกว่า นางไม่สามารถโน้มน้าวล่ายเสวียนได้เลย แต่ล่ายเสวียนก็มีค่าพอกับการเสี่ยงพนันของนาง” ครั้งนี้กุ่ยเม่ยพูดด้วยเสียงเบา

แต่ถึงจะรู้เรื่องนี้ ก็รูแต่เพียงว่ากู้อ้าวเวยคิดจะลงมือกับคนสองคนนี้

แต่นางคิดจะทำอะไรกันแน่

“อย่างนั้นในยามฤดูใบไม้ร่วง พวกเราจะต้องพาซูพ่านเอ๋อกลับมาแคว้นเอ่อตานจริง ๆหรือ” ฉูห้าวรีบออกปากถามอย่างรวดเร็ว

“ใช่ ต้องทำให้คนทั้งหมดคิดว่าซพ่านเอ๋อคือองค์หญิงของแคว้นเอ่อตานตัวจริง แม้ว่านางจะตกอยู่ในอันตราย แต่นางบอกว่า จะมีคนมาปกป้องนาง” กุ่ยเม่ยพูดถึงตรงนี้ ก็มองไปยังซ่านจินจื๋ออย่างไม่ตั้งใจ

“ข้าเข้าใจความหมายของนาง แต่ข้าคงปกป้องนางไม่ได้” ซ่านจินจื๋อเริ่มใจเย็นลง ได้แต่เพียงมองดูความวุ่นวายนี้ แล้วพูดไปด้วยเสียงต่ำ “เฉิงซาน ให้เคลื่อนค่ายทหารนอกเมืองเยว่ซานออกไปข้างหน้าอีกสามสิบลี้ ด้านชายแดนทิศตะวันตก ที่ติดกับประเทศเล็ก ๆอีกสองสามประเทศให้ถอยเข้ามายี่สิบลี้ สุดท้ายอย่าให้เสบียงที่ด่านลั่วสุ่ยขาดแคลน ถ่ายโอนทหารฝีมือแปดพันนายไปรักษาการณ์ที่เมืองชี่”

หลังจากได้ฟังคำพูดของซ่านจินจื๋อ เฉิงซานก็สั่งคนให้ไปจัดการโดยไม่พูดอะไรสักคำ

และในตอนนี้ หยุนหว่านและกุ่ยเม่ยก็ล้วนสับสนกับเรื่องนี้ ฉูหลี่พูดต่ออย่างเย็นชา “เจ้าอยากจะให้ประเทศเล็ก ๆเหล่านั้นหวาดกลัว หรือคิดอยากจะตีแคว้นเจียงเยี่ยน”

“คนที่ข้าอยากจะทำให้ตกใจคือกู้เฉิง มีเพียงรูปแบบนี้ กู้เฉิงจึงจะยอมสนับสนุนนาง” ซ่านจินจื๋อลุกขึ้นยืน ค่อยๆคิดคำพูดที่กู้อ้าวเวยเคยพูดกับตนเองอย่างละเอียดรอบคอบ ค่อยๆขมวดคิ้ว “ยิ่งกว่านั้น หากว่านางจะให้คนอื่นยั้งมือ จะเป็นอ๋องจงผิง หรือองค์ชายสาม”

“หมายความว่าอย่างไร” หยุนหว่านลุกเดินมาข้างหน้า รู้สึกถึงความผิดปกติบางอย่าง

“นางต้องการให้อ้ายหยินและกู้เฉิงทะเลาะกันเอง ยืมมือของอ้ายหยินทำให้กู้เฉิงก่อกบฏ แต่ก็ต้องการทำให้อ้ายหยินสิ้นหวังในการชิงบัลลังก์ แต่ดูเหมือนว่ายังต้องการแรงกดดันอยู่ ข้าสัญญากับนางไว้ว่าจะปราบปรามไว้ก่อน จากนั้นจะต้องมีใครสักคนของแคว้นชางหลานนำกองทหารออกมา หรือเข้าเจรจา หรือจะทำสงครามกันจริง ๆ” ซ่านจินจื๋อพูดพลางเดินไปเดินมา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุบผาร้อยเสน่ห์