ตอนที่ 11 อาศัยเรื่องส่วนร่วมแก้แค้นส่วนตัว
เมื่อเห็นหญิงสาวแต่งหน้าจัดจ้านคนนั้น สีหน้ารังเกียจก็ผุดขึ้นบนใบหน้าของเฉินผิง! หญิงสาวนางนี้มีนามว่าเจี่ยงเหวินจิ้ง เธอเป็นเพื่อนร่วมชั้นของเฉินผิง สมัยเรียนเธอเคยตามตี๊อเฉินผิง ในเวลานั้นพ่อของเฉินผิงมีการงานที่มันคง จึงมีสาวๆ จำนวนไม่น้อยคอยไล่จีบเฉินผิง! แต่เฉินผิงกลับไม่ชอบเจี่ยงเหวินจิ้งคนนี้ หากเปรียบกับเกิ่งซานซาน ไม่ว่าจะด้วยหน้าตาหรืออุปนิสัย เฉินผิงรู้สึกว่าเกิ่งซานซานดีกว่าผู้หญิงที่รักในชื่อเสียงเงินทองอย่างเจี่ยงเหวินจิ้งเป็นไหนๆ แต่ในเวลานี้ ดูเหมือนผู้หญิงทั้งคู่จะเดินตามรอยเดียวกัน เป็นเฉินผิงที่มองพลาดไป! “เฉินผิง เจอเพื่อนฝูงแล้วทำไมเงียบซะล่ะ หรือว่าเป็นใบ้ไปแล้ว ตอนอยู่มหา’ลัย นายออกจะโดดเด่น แถมยังเป็นประธานสภานักศึกษาด้วย ถ้าพวกอาจารย์หรืออธิการบดีได้รู้ว่า ประธานสภานักศึกษาที่เก่งกาจในสายตาของพวกเขาอย่างนาย เข้าไปกินข้าวแดงในคุกหลังจากที่เรียนจบ นายว่า...พวกเขาจะคิดยังไง” ชายหนุ่มข้างกายเจี่ยงเหวินจิ้งก็พูดขึ้นเช่นกัน ชายหนุ่มมีนามว่าฟู่เหว่ย เป็นอดีตรูมเมทของเฉินผิง ซึ่งนับได้ว่าทั้งสองคนเป็นเพื่อนที่สนิทกันมาก เพียงแต่ฟู่เหว่ยคนนี้ก็แอบรักเกิ่งซานซานเช่นกัน ต่อมา เมื่อเฉินผิงและเกิ่งซานซานคบหากัน เขาจึงโกรธแค้นเฉินผิง และพยายามทำลายความสัมพันธ์ระหว่างเฉินผิงและเกิ่งซานซาน หากทว่า มันไม่เคยสำเร็จ! ความสัมพันธ์ระหว่างเขาและเฉินผิงจึงขาดสะบั้นลง หลังจากจบจากมหาวิทยาลัยก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย! เวลานี้ เจี่ยงเหวินจิ้งและฟู่เหว่ยได้ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกันที่นี่ พวกเขาคงจะได้รับเชิญจากเกิ่งซานซาน ไม่เช่นนั้น ด้วยคุณสมบัติของทั้งคู่ คงไม่มีสิทธิ์ได้เข้าร่วมงานหรอก เฉินผิงแค่เหลือบตามองคนทั้งสอง จากนั้นก้มศีรษะลงและดื่มชาอย่างเงียบๆ เขาขี้เกียจเกินกว่าจะใส่ใจคนทั้งคู่! เมื่อเห็นเฉินผิงก้มศีรษะลง ฟู่เหว่ยและเจี่ยงเหวินจิ้งยิ่งรู้สึกกระหยิ่มยิ้มย่อง พวกเขาคิดว่าเฉินผิงกำลังกลัวพวกเขา! “เฉินผิง นายเพิ่งออกจากคุกนี่ ยังไม่มีงานทำใช่ไหมล่ะ ฉันแนะนำงานขัดห้องน้ำให้นายดีไหม แม้จะสกปรกไปนิดเหนื่อยไปหน่อย แต่ก็พอให้นายกินอิ่มนะ ตอนนี้พ่อของนายก็ตกงานแล้ว หวังจะพึ่งใบบุญของพ่อเหรอ เกรงว่าจะพึ่งไม่ได้น่ะสิ!” ใบหน้าของฟู่เหว่ยผุดรอยยิ้มสะใจ ไม่ต้องบอกเลยว่าเขามีความสุขขนาดไหนที่ได้เหยียบย่ำเฉินผิง เมื่อครั้งตอนเรียนอยู่ หากไม่ใช่เพราะพ่อของเฉินผิงมีการงานที่มั่นคง เฉินผิงไม่มีทางเทียบเขาได้หรอก “ฟู่เหว่ย นายอย่าพูดจาเหลวไหลสิ ประธานสภานักศึกษาเชียวนะ จะให้ไปขัดส้วมได้ยังไงกัน อย่างน้อยๆ ก็หางานที่มันสะอาดกว่านี้หน่อยสิ ฉันว่า ให้ไปกวาดถนนดีกว่าไหม” เจี่ยงเหวินจิ้งปิดปากหัวเราะคิกคัก “ฮ่าๆๆ...” คำพูดถากถางของฟู่เหว่ยและเจี่ยงเหวินจิ้ง ทำให้พวกหัวล้านและแขกเหรื่อจำนวนมากหัวเราะออกมา เวลานี้ เฉินผิงค่อยๆ เงยหน้าขึ้น “หากพวกนายสองคนยังไม่อยากตาย ก็รีบไปให้พ้นจากตรงนี้ซะ!” ท่าทางที่ไม่ยี่หระและน้ำเสียงที่เรียบเฉยของเฉินผิงไม่ได้บ่งบอกถึงความขุ่นเคืองเลย แต่เมื่อฟู่เหว่ยและเจี่ยงเหวินจิ้งได้ยินกลับรู้สึกสั่นสะท้าน! โดยเฉพาะ เจี่ยงเหวินจิ้งที่รู้สึกเย็นวาบไปทั้งตัวเหมือนร่างทั้งร่างตกลงไปในถ้ำน้ำแข็ง เธอไม่กล้าแม้แต่มองไปที่เฉินผิงตรงๆ อีกด้วย! คำพูดส่อเสียดที่เตรียมเอาไว้กลับพูดไม่ออกขึ้นมากะทันหัน! ผ่านไปสักพักหนึ่ง ฟู่เหว่ยที่รู้สึกเหมือนถูกเหยียดหยามก็ตะคอกใส่เฉินผิงด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “นายก็แค่ไอ้ขี้คุก เก๊กอะไรนักหนา แฟนตัวเองไปแต่งงานกับคนอื่นแล้ว สักคำก็ไม่กล้าพูด ยังจะมาทำเป็นพูดดีใส่พวกฉันอีกแน่ะ” “ก็ใช่น่ะสิ นายคงรู้ดีสินะว่าตระกูลเซียวร่ำรวยและมีอำนาจถึงได้ไม่กล้าหาเรื่อง ก็เลยมาระบายใส่พวกฉันสองคนนี่ พวกเราก็ไม่ใช่จะหาเรื่องกันง่ายๆ นะ!” เจี่ยงเหวินจิ้งได้สติคืนกลับมาแล้ว เธอชี้นิ้วพลางด่าทอเฉินผิง” “อย่าทำให้ฉันโกรธ...” หลังจากที่พูดจบ เฉินผิงก็ก้มหน้าลงอีกครั้ง! “แม่นายเหอะ ฉันจะยั่วโมโหนาย นายจะทำไม นี่เป็นงานแต่งงานของคุณชายเซียวนะเว้ย...” ฟู่เหว่ยด่าทอด้วยความโกรธ เขาก้าวเข้าไปคว้าคอเสื้อของเฉินผิงไว้และดึงเฉินผิงขึ้น เหตุที่พวกเขาหาเรื่องเฉินผิงแบบนี้ ก็เพราะต้องการเอาใจเซียวเหล่ย ขอเพียงแค่เซียวเหล่ยพอใจ การงานในอนาคตของพวกเขาก็จะดำเนินไปอย่างราบรื่น มือของฟู่เหว่ยกำลังดึงเฉินผิงไว้ พริบตาเดียวเขาก็ลากให้เฉินผิงลุกขึ้น ในขณะที่เขากำลังจะลงมือกับเฉินผิงนั้น กลับเห็นฝ่ามือของเฉินผิงสวนกลับมา! เพียะ! เสียงฝ่ามือดังกึกก้อง มากพอที่จะทำให้คนทั้งงานสะดุ้ง ร่างของฟู่เหว่ยลอยปลิวออกไป ร่วงกระแทกใส่โต๊ะตัวหนึ่งอย่างจัง! โครม... โต๊ะพังเสียหาย จานชามและชุดถ้วยชาร่วงหล่นลงมาบนพื้นและแตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ! เวลานี้ไม่มีใครสนใจเซียวเหล่ยและเกิ่งซานซานที่อยู่บนเวทีแล้ว สายตาของแขกเหรื่อทั้งหมดต่างหันเหมาทางนี้ แม้แต่เซียวเหล่ยและเกิ่งซานซานก็อดไม่ได้ที่จะหันมามอง! “ไอ้เวรเอ๊ย แกอยากตายรึไง...” ชายหัวล้านดีใจจนเนื้อเต้นที่ได้เห็นเฉินผิงลงมือ เขาตะโกนเสียงดัง “จัดการมัน ฆ่าไอ้หมอนี่ซะ...” เวลานี้ ชายหัวล้านสามารถคิดบัญชีแค้นส่วนตัวของเขาได้อย่างสมเหตุสมผลแล้ว เขารู้ดีว่าเฉินผิงมีฝีมือพอตัว ดังนั้นจึงไม่ได้เข้าไปจัดการด้วยตัวเอง แต่ให้ลูกน้องด้านหลังสิบกว่าคนเข้าไปรุม! “ไอ้หนู แกกล้าก่อความวุ่นวายในงานมงคลของคุณชายเซียว แกนี่มันรนหาที่ตายชัดๆ...” ลิ่วล้อสิบกว่าคนพร้อมกระบองในมือพุ่งเข้าทักทายเฉินผิง บรรดาแขกเหรื่อที่ได้เห็นภาพเหตุการณ์นี้ต่างก็อดส่ายหัวไม่ได้ พวกเขารู้ดีว่าเฉินผิงจะไม่มีทางรอด!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ประกาศิตราชามังกร
เมื่อไหร่จะต่อครับ...