ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก นิยาย บท 1095

“คุณพูดจริงเหรอ คุณชาย!”

“ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง เราจะทำทุกอย่างให้เต็มที่และทำให้คุณชายได้เซอร์ไพรส์ก่อนพิธีผลัดเปลี่ยนตำแหน่งผู้บัญชาการลำดับหนึ่งแห่งกองทัพเซาท์ไลท์แน่นอน!”

คุณย่าเยตส์และคนอื่น ๆ ที่เหลือต่างก็จับมือกันด้วยความดีใจ

การจัดการกับฮาร์วีย์ ยอร์กในครั้งนี้มันจะเท่ากับว่าจะสามารถแลกเปลี่ยนกับอิสรภาพของพวกเขาได้ ไม่มีการต่อรองราคาใด ๆ ในโลกนี้แล้วที่จะดีไปกว่าครั้งนี้สำหรับพวกเขา

โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับตระกูลเยตส์ พวกเขาไม่เคยลืมเรื่องซิลเวอร์นิมบัส เอ็นเทอร์ไพรส์เลย แต่ถึงอย่างไรก็ตามพวกเขาไม่ค่อยที่จะเต็มใจที่จะดำเนินการใด ๆ มากนัก เนื่องจากว่ามันจะเปรียบเสมือนว่าพวกเขาเข้าไปยุ่งวุ่นวายกับเบลลามี่ เบลคซึ่งเป็นว่าที่ผู้บัญชาการสูงสุดแห่งเซาท์ไลท์ไปด้วย

แต่ตอนนี้พวกเขามีควินตัน ยอร์กที่สนับสนุนพวกเขาอยู่ พวกเขากลับมาไร้ยางอายและความหวาดกลัวไปโดยปริยาย

เมื่อมองดูเหล่าผู้อาวุโสทั้งสามที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น สีหน้าของควินตันก็เย็นชาราวกับเทือกเขาน้ำแข็ง

เขาได้รับข่าวเรื่องความล้มเหลวของคัลลัม ร็อบบินส์แล้ว

นอกจากนี้เขายังรู้เกี่ยวกับเรื่องที่เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนค่ายศัสตราวุธจะเข้าร่วมพิธีผลัดเปลี่ยนตำแหน่งผู้บัญชาการลำดับหนึ่งแห่งกองทัพเซาท์ไลท์ด้วย

นี่เป็นเหตุผลหลักที่จู่ ๆ เขาก็ปรากฏตัวขึ้นและออกคำสั่งให้ทั้งสามตระกูลใหญ่ช่วยจัดการในเรื่องนี้

เพราะเมื่อตัวตนที่แท้จริงของฮาร์วีย์ถูกเปิดเผย ตระกูลเหล่านี้จะยังกล้าที่จะดำเนินการช่วยเหลือเขาอีกหรือ?

พวกเขาจะไม่กล้าแม้ว่าจะมีพลังพิเศษจากเหล่าทวยเทพก็ตาม

หากเป็นเช่นนั้น การเตรียมการก่อนหน้านี้ของตระกูลยอร์กในเซาท์ไลท์อาจถึงขั้นล้มเหลวไปโดยสิ้นเชิง

นั่นคือเหตุผลที่ควินตันขอให้คนเหล่านี้ช่วยกันจัดการกับฮาร์วีย์โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

มันจะดีมาก ๆ ถ้าพวกเขาทำสำเร็จ

แต่ถ้าพวกเขาทำล้มเหลว ตระกูลยอร์กก็จะไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียใด ๆ เลย

และเมื่อนั้นทุกคนก็จะตกอยู่ในเรือลำเดียวกัน

แม้ว่าพวกเขาจะค้นพบตัวตนที่แท้จริงของฮาร์วีย์ พวกเขาก็ยังจะต้องยืนเคียงข้างตระกูลยอร์กอยู่ดี

เมื่อควินตันจากไปแล้ว เหลือเพียงเหล่าผู้เฒ่าทั้งสามจากตระกูลชนชั้นหนึ่งเท่านั้น พวกเขานั่งลงในที่สุด

คัลลัมกระซิบเบา ๆ “คุณย่าเยตส์ ฮาร์วีย์เป็นหลานเขยของคุณ คุณควรจะเป็นคนที่รู้จักเขาดีที่สุดแล้ว คุณคิดว่าเรามีโอกาสสูงแค่ไหนที่จะกำจัดเขา?”

คุณย่าเยตส์ตอบอย่างใจเย็นว่า “เราไม่รู้ภูมิหลังของมันมาก่อน นั่นเป็นเหตุผลที่มันใช้ประโยชน์จากสิ่งนั้น แต่ในตอนนี้พวกเราก็รู้แล้วว่ามันใช้อำนาจส่วนหนึ่งภายใต้อำนาจที่ยิ่งใหญ่ของเจ้าชายยอร์กในการดำเนินการต่าง ๆ เราน่าจะหาวิธีจัดการกับมันได้ไม่ยากนัก!”

“ถ้าพวกคุณทั้งสองคนตกลงที่จะร่วมมือกับตระกูลเยตส์ในครั้งนี้และร่วมมือกันทำงานของคุณชายไปด้วยกันแล้วละก็...มันคงจะสำเร็จได้ไม่ยาก!”

หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น ดวงตาของคาร์สันและคัลลัมก็เบิกกว้างขึ้นทันที

หลังจากนั้นคาร์สันก็หัวเราะออกมา

“ดูเหมือนว่าคุณชายจะไม่ค่อยพอใจกับช่วงเวลาที่เขาใช้อยู่ที่ฮ่องกงเมื่อเร็ว ๆ นี้!

“เขาจะให้อิสระแก่ตระกูลชนชั้นหนึ่งอย่างพวกเราด้วยซ้ำเพื่อกำจัดมือขวาของเจ้าชายยอร์กออกไป!”

“ในกรณีนี้ พวกเราทุกคนก็มาพยายามอย่างเต็มที่กันเถอะ เพื่อแก้ไขปัญหานี้ให้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี!”

คัลลัมขมวดคิ้ว

“คาร์สัน เราควรจะทำอย่างไรดี ถ้าพวกเราจัดการกับฮาร์วีย์สำเร็จ แต่คุณชายไม่เต็มใจที่จะยอมรับมัน”

คาร์สันตอบอย่างใจเย็นว่า “เราทุกคนรู้กันดีอยุ่แล้วว่าคุณชายควินตันเป็นคนอย่างไร คำพูดของเขามีน้ำหนักมากพอน่า หากเราทำได้สำเร็จจริง เขาจะต้องยอมรับมันอย่างแน่นอนอยู่แล้ว!”

“แต่ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ทำเช่นนั้น ทำไมพวกเราทั้งสามตระกูลถึงจะต้องไปเกรงกลัวตระกูลยอร์กที่สูญเสียอำนาจไปตั้งครึ่งหนึ่งแล้วล่ะ?

“ตระกูลยอร์กไม่ได้น่ากลัวเท่าเมื่อก่อนแล้วในตอนนี้ แต่เมลิสซา ลีโอ เธอสามารถเข้าควบคุมตระกูลลีโอได้อย่างเต็มตัวแล้ว นี่คือเหตุผลที่พวกเขายังคงน่ากลัวอยู่” คุณย่าเยตส์ตอบพร้อม ๆ กับขมวดคิ้วอย่างเป็นกังวล

คัลลัมถอนหายใจออกมาเมื่อได้ยินเช่นนั้น

“เป็นเรื่องดีที่คุณรู้เรื่องนี้ อำนาจของเมลิสซานั้นแข็งแกร่งกว่าแต่ก่อน นั่นเป็นเหตุผลที่เราไม่สามารถปฏิเสธคุณชายควินตันได้เมื่อเขาออกคำสั่งอะไรกับพวกเรา”

ทั้งสามตกอยู่ในที่นั่งเดียวกันหลังจากที่ได้พูดคุยกันจนมาถึงจุดนี้

ไม่สำคัญว่าควินตันจะทำตามสัญญาหรือไม่ ถึงอย่างไรพวกเขาก็ต้องดำเนินการตามคำสั่งของเขาอยู่ดี

“พวกเราต้องจัดการกับชายคนนั้นก่อนพิธีผลัดเปลี่ยนตำแหน่งผู้บัญชาการลำดับหนึ่งแห่งกองทัพเซาท์ไลท์ มีใครมีไอเดียดี ๆ ไหม?” คัลลัมพูดด้วยใบหน้าที่จริงจัง

คาร์สันคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้วตอบกลับว่า “พวกเราไม่สามารถใช้วิธีปกติในเรื่องนี้ได้ ทำไมพวกเราไม่ลองใช้พวกอันธพาลดูล่ะ?”