“ที่แม่บ่นเมื่อวานไง ที่บอกว่าพ่อกำลังจะเอาญาติที่น่าสงสารมาเลี้ยงอีกแล้ว!”
“ไม่คิดเลยว่าจะเป็นฮาร์วีย์ ยอร์ก!”
“ทำไมเขาถึงกล้าไปร่วมงานเลี้ยงกัน? เมื่อเทียบกับนายน้อยวอล์คเกอร์แล้ว ฮาร์วีย์ก็ไม่ต่างไปจากขอทาน”
“ทำไมตอนยังเด็กฉันถึงคิดว่าเขาหล่อกันนะ”
เฮเซล มาโลนมองไปที่ฮาร์วีย์และอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ จากนั้นจึงเปรียบเทียบสตีเว่น วอล์คเกอร์กับฮาร์วีย์ คนรักในวัยเด็กของเธอโดยไม่รู้ตัว
เธอไม่รู้ว่าการเปรียบเทียบนั้นน่ากลัวแค่ไหนจนกระทั่งถึงตอนนี้!
สตีเว่นมีความสามารถพิเศษตั้งแต่อายุยังน้อย เขาได้เป็นผู้จัดการด้านธุรกิจของไคเซ็น กรุ๊ป ตอนนี้เขายังเข้าร่วมชมรมรถออฟโรดของมอร์ดู และเป็นถึงหลานชายของรองหัวหน้าสาขาวอล์คเกอร์อีก
หากไม่พูดถึงเส้นสาย อิทธิพล หรือความสามารถ คนสำคัญเช่นนี้ก็นับว่าเป็นบุรุษอันดับต้น ๆ ในมอร์ดูอยู่แล้ว
เมื่อเทียบกับเขาแล้วฮาร์วีย์ไม่คู่ควรที่จะถือรองเท้าให้เขาด้วยซ้ำ
ความสัมพันธ์ในวัยเด็กของฮาร์วีย์และเฮเซล แค่คิดถึงเรื่องนี้เธอก็รู้สึกขยะแขยงแล้ว
'ตอนยังเด็กเธอคงตาบอดไปแล้ว ถึงขนาดคิดที่จะแต่งงานกับเขาด้วยซ้ำ!'
แต่เมื่อฮาร์วีย์เห็นเฮเซล เขาก็แค่พยักหน้าอย่างเฉยเมยเป็นการทักทาย เขาไม่สนใจเทพธิดาคนงามรวยเสน่ห์อย่างเธอ
สายตาที่ดูไม่ไยดีของฮาร์วีย์ทำให้เฮเซลอารมณ์เสีย
เทพธิดาเช่นเธอมีคนนับไม่ถ้วนที่ยอมทำทุกอย่างเพียงเพื่อให้เธอพอใจ ผู้คนที่พะเนาพะนอเธอจะเข้าแถวตั้งแต่หอไข่มุกแห่งมอร์ดูไปจนถึงหอคอยบัควู๊ด
ไม่เคยมีผู้ชายคนไหนต้านทานหน้าตาและรูปร่างของเธอได้ แม้แต่สตีเว่นที่เป็นหนุ่มน้อยมากพรสวรรค์ก็ยังตกตะลึงไปกับรูปลักษณ์ที่มีเสน่ห์ของเฮเซล
ฮาร์วีย์กล้าดียังไงถึงไม่คิดจะชายตาแลเธอ?
เฮเซลรู้สึกตัวหลังจากนั้นไม่นาน เธอคิดว่านี่เป็นเพียงวิธีที่ผู้ชายน่าสมเพชใช้เวลาคิดจะเล่นตัว
เขาก็เป็นแค่ยาจกคนหนึ่ง แต่ยังพยายามจะดึงดูดความสนใจของเทพธิดาด้วยการทำตัวเย็นชาและห่างเหิน
แต่ในใจลึก ๆ ก็คงไม่ต่างจากหมาไม่มีเจ้าของ
เฮเซลรังเกียจคนแบบนี้ที่สุด
'แสร้งทำเป็นเย็นชาแบบคนรวยหล่อ ๆ’
‘เขากำลังคิดอะไรอยู่?’
'มีหัวเอาไว้แค่คั่นหูหรือยังไง?’'
เฮเซลรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังมองดูเล่ห์เหลี่ยมของฮาร์วีย์ ใบหน้าที่สวยงามของเธอแสดงความดูถูกเหยียดหยามออกมา
“คิดอะไรอยู่ฮาร์วีย์? มาทักทายพวกเขาสิ!”
เมื่อจูน ลีเห็นฮาร์วีย์จิบชา เธอก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วด้วยดวงตาที่เฉียบคม
“นี่คือนายน้อยสตีเว่น วอล์คเกอร์ ถ้าเขาอยู่ในดินแดนรกร้างว่างเปล่าอย่างเซาท์ไลท์ สถานะของเขาจะสูงกว่าผู้บังคับบัญชาสูงสุดของที่นั่นเสียอีก!”
“ทั้งตระกูลของนายคงจะดีใจที่นายได้พบกับเขา!
“ทำไมยังนั่งอยู่ตรงนั้น? ลุกขึ้นทักทายเขาได้แล้ว!”
ฮาร์วีย์ยังคงจิบชาต่อไปและไม่สนใจคำพูดของจูน
สตีเว่นหรี่ตาที่ยาวและแคบของตน ก่อนจะหัวเราะเบา ๆ
“คุณเป็นกิ้งก่าที่อยากจะได้พลอยอย่างที่เฮเซลเคยบอกผม… ไม่ ไม่ ไม่ คุณคือฮาร์วีย์ ยอร์ก!”
“ฉันอสตีเว่น ยินดีที่ได้รู้จัก”
“เพื่อประโยชน์ของเฮเซล คุณสามารถมาหาผมได้หากต้องการความช่วยเหลือในมอร์ดู”
สตีเว่นยื่นมือขวาออกมาด้วยสีหน้าอ่อนโยน น้ำเสียงของเขาเน้นย้ำถึงความใจกว้างและความคิดที่เปิดกว้างของเขา
บรรดาสาว ๆ ที่อยู่ ณ ขณะนั้นต่างแสดงความชื่นชมยินดี
'ชนชั้นสูงใช้อะไรเป็นตัวกำหนดกัน? อะไรที่บ่งชี้ถึงความเป็นสังคมชั้นสูง?!'
“คุณไม่คู่ควร”
ฮาร์วีย์พูดอย่างใจเย็น
“คุณไม่มีตัวตน อำนาจ หรือสถานะสูงส่งอะไรเลย”
“คนอย่างคุณไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะจับมือกับผม”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก
ยังไม่จบใข่ไหมครับ...
ผมอ่านสองตอนวันนี้แล้วเริ่มเวียนหัว... บท... เวียนไปวนมา... ว่าจะหยุดหล่ะครับ บาย...
ผมขอเสนอแนะครับ แปลได้ 10 ตอน แล้วมาลงทีเดียวดีไหมครับ ระยะหลังมานี้ ลงครั้งละ 2 ตอน อ่านไม่ถึง 5 นาทีครับ ยังไม่ได้อรรถรสเลย บทนิยายหมดแล้ว ฮ่าๆๆๆๆ...
เนื้อเรื่องโรงพยาบาลซ้ำไปซ้ำมาหลายรอบละ แค่เปลี่ยนชื่อบุคคล สถานที่ เรื่องราวนิดหน่อย อ่านมามีแต่น้ำ เนื้อเรื่องจริงๆแทบไม่กระดิกไปไหน...
เย้ๆๆ มาแล้ว ขอบคุณคับ...
นานจังรออ่านอยู่ครับ...
รออ่านหลายสัปดาห์แล้วครับ รีบๆแปลให้อ่านหน่อย...
เป็นนิยายที่หลังๆเป็นเกาเหลา(มีแต่น้ำ) จะง้างทีต้องอธิบายกันไปถึงอีกฝ่ายแอบเป็นริดสีดวง สู้กับแค่คนๆเดียวไม่ยอมจบ มาหลังๆนี้รู้เลยยิ่งไม่เคยจบ ต้องพาศิษย์ผู้พี่ ผู้น้อง ลุงป้าน้าอา ไหนจะอธิบายความในใจ สรุป นิยายดึง จบไม่เป็นไปต่อไม่ได้ จุดขายคือรอพระเแกตบ...
หลายวันเลย ไม่มีมาซักตอน เป็นกำลังใจให้ ครับ...
เช้าวันนี้ ได้อ่าน 10 ตอน บวกเพิ่มอีก 2 ตอน รวมเป็น 12 ตอน ขอบคุณอย่างมากเลยครับ...