ตอนที่ 46 รีบเอามือเหม็นๆของนายออกไปเลยนะ
“หลังจากเสร็จงาน ก็นำอาหารมาส่งให้คุณจู่”ผู้ช่วยจางพูด
เรื่องที่กวนชิงเฟิงรับงานชิ้นนี้แทนเพื่อนเขา ผู้ช่วยจางไม่รู้เรื่องเลย เพราะว่าข้อมูลของชิงเฟิงก็ออกมาจากโรงเรียนนั้น เขายังคิดอยู่เลยว่ากวนชิงเฟิงก็คือหมาป่า
กวนชิงเฟิงเอามือลูบจมูกแล้วแล้วพูดขึ้นอย่างกลุ้มใจว่า“คุณน่าจะเอาอาหารมาส่งให้ไวกว่านี้หน่อย เธอพึ่งเอาข้าวของผมไปกิน”
“อะไรนะ?”เลขาจางถึงกลับนิ่งไปครู่นึง
เมื่อมองดูคุณจู่ที่กำลังทานอาหารที่มีมันเยิ้ม ๆ พวกนั้น ผู้ช่วยจางก็แปลกใจเป็นอย่างมาก เขาค่อยติดตามจู่ซือซือมาตลอด อาหารทุกเช้าเย็นต้องสั่งซื้อพิเศษกลับมาจากร้านอาหารเท่านั้น แล้วตอนนี้กลับมากินกับข้าวบ้านๆพวกนี้ แล้วยังกินข้าวอีก
“คุณจู่ ไม่ใช่ว่าคุณไม่ชอบทานอาหารพวกนี้ไม่ใช้เหรอ?”ผู้ช่วยจางพูดขึ้นอย่างอดไม่ได้ “ยิ่งไปกว่านั้นอาหารที่มีมันเยิ้มๆพวกนี้ ทำให้อ้วนง่ายนะ”
“ทำไมคุณเป็นคนน่ารำคาญแบบนี้กัน พูดจาอะไรเลอะเทอะ”จู่ซือซือกลอกตาใส่เลขาจาง ไม่ง่ายเลยที่เธอจะรู้สึกอยากอาหารขึ้นมา ดันมาถูกคนพูดมากทำให้รำคาญอีก
ผู้ช่วยจาง“……”
เอาอาหารกลางวันวางไว้ตรงหลังโต๊ะ และลากกวนชิงเฟิงออกมาอีกด้านเพื่อคุยเป็นการส่วนตัว
ผู้ช่วยจาง“เดือนหน้าคุณมีเวลาว่างไหม อยากให้คุณออกนอกประเทศหน่อย”
“ไม่ใช่ว่าแค่ดูแลดาราคนนี้ก็พอแล้วเหรอ?”กวนชิงเฟิงขมวดคิ้ว เขาแค่ต้องการเก็บเงินให้ได้เร็วๆ“เรื่องผิดกฎหมายฉันไม่ทำ และฉันก็ไม่มีพาสปอร์ตอีกด้วย”
“ได้เตรียมเครื่องบินส่วนตัวไว้แล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้พาสปอร์ต”ผู้ช่วยจางหลับตาลง ยิ้มเล็กน้อยแล้วพูดขึ้นว่า“ไม่ใช่เรื่องผิดกฎหมาย คือประธานมู่จะต้องไปคุยธุรกิจ กลัวว่าจะมีการลอบทำร้าย”
“และไม่ใช่เพียงแค่คุณคนเดียว ฉันยังได้เตรียมคนไว้อีกสองสามคน พวกคุณแค่ทำหน้าที่เฝ้าระวังอยู่ในที่ลับ รับประกันความปลอดภัยของประธานมู่ก็พอ หากว่าคุณตอบตกลงล่ะก็ รอบนี้ผมให้คุณห้าหมื่นหยวน และจะมอบให้คุณก่อนครึ่งหนึ่ง”
เงินห้าหมื่นไม่ใช่เงินน้อยๆ
หลังจากคิดทบทวนแล้ว กวนชิงเฟิงก็พยักหน้า แล้วพูดว่า“ถ้าแค่เฝ้ามองล่ะก็ ฉันรับงานนี้”
“งั้นพวกเราก็มาร่วมมืออย่างสันติ ”เลขาจางและกวนชิงเฟิงทั้งสองจับมือกัน เวลาเดียวกันก็ผ่อนลมหายใจออกมา แท้จริงแล้วการจะออกมาจากโรงเรียนนั้นมันก็ไม่ง่ายเลย รอบนี้มีกวนชิงเฟิงตามไปด้วย ก็วางใจเป็นอย่างมาก
“พวกคุณคุยอะไรกันอยู่”ในขนาดเดียวกันจู่ซือซือที่กอดชามข้าวไว้ก็แทรกขึ้นมาแล้วพูดขึ้นว่า“ทำไมต้องปิดบังฉัน มีอะไรที่พูดกับฉันไม่ได้งั้นเหรอ?”
“ก็คุยเรื่องความอันตรายในหมู่แฟนคลับของคุณไง ว่าต้องเพิ่มความปลอดภัยในการเดินทางให้มากขึ้นแล้ว”กวนชิงเฟิงจับหัวของเธอหมุนกลับแล้วพูดต่อว่า“ไปทานข้าวของคุณต่อไป”
“ไม่อนุญาตให้จับหัวของฉัน เอามือเหม็นๆของนายออกไปซะ!”จู่ซื่อซื่อก็ร้องขึ้นมา
“ถ้าคุณไปผมถึงจะปล่อยมือ”กวนชิงเฟิง
“นายก็ปล่อยมือก่อนซิ”จูซื่อซื่อ
มองดูคนสองคนที่กำลังทะเลาะกันแล้ว ผู้ช่วยจางก็อดไม่ได้ที่จะส่ายหัวไปมา และลอบมองกวนชิงเฟิงโดยไม่ให้สุ้มให้เสียงอีกสองสามครั้ง นับจากแวบแรกที่เห็นผู้ชายคนนี้ เขาก็ให้ความรู้สึกว่าสามารถพึ่งพาได้ และยังเป็นผู้ชายที่ซื่อตรงมากเกินไปอีกด้วย ถึงขนาดมองใครก็เป็นเพศเดียวกันไปหมด แต่แบบนี้ก็ดีแล้วล่ะ จะได้ไม่ต้องรู้สึกหวั่นไหวกับคุณจู่
หลังจากนั้นไม่นาน ถังซินก็ได้รับโทรศัพท์จากกวนชิงเฟิงบอกว่าวันหยุดนี้เขาจะกลับมา
แต่ว่าวันหยุดนี้เป็นวันที่เธอจะออกจากโรงพยาบาลพอดี เธอพึ่งจะบอกให้กวนชิงเฟิงมาหาเธอที่โรงพยาบาล เพราะก่อนอื่นจะพากวนชิงเฟิงไปซื้อเสื้อผ้าสักหน่อยแล้วค่อยกลับบ้าน
“พี่ ทำไมมานอนโรงพยาบาลได้ล่ะ”ประมาณสิบโมงกว่าๆกวนชิงเฟิงก็มาหาเธอที่ห้องผู้ป่วยตามที่อยู่ที่ส่งให้ไป และนี่คือคำเดียวที่ใช้วิจารณ์อาการคนเจ็บที่อยู่ตรงหน้าเขา
ถังซินพูดขึ้นอย่างเสียใจว่า “ก่อนหน้านี้ตอนที่ไปคุยธุรกิจ โดนคุณหนูจอมหยิ่งเอาไม่กอล์ฟฟาดหัวเข่าแตก คุณหมอก็เลยให้นอนดูอาการที่โรงพยาบาล ไม่ได้เป็นอะไรมาก”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักเต็มใจ ประธานจงรักของฉัน
สนุกมากๆ เลยค่ะ ขอบคุณมากๆ นะคะ ที่มีนิยายสนุกๆ ได้อ่าน...
สนุกมากๆๆๆ...