เกรซซี่หยิกตัวเองแรงๆ แล้วน้ำตาเม็ดใหญ่ก็ไหลลงมา
“พี่เมต ฉันไม่ได้หมายความว่าคุณซูการ์ไม่ดีนะ แต่คุมิเป็นลูกชายฉัน ฉันไม่มีเขาไม่ได้ ถ้าพี่อยากแต่งงานกับคุณซูการ์อีกครั้ง งั้นก็เอาคุมิมาให้ฉัน ฉันพาเขาไปจากที่นี่เอง”
ได้ยินคำนี้ คอฟฟีเมตจึงเหลือบมองเธอ พูดเสียงหม่นว่า:“คุมิเป็นลูกชายผม ผมให้คุณพาเขาไปไม่ได้”
“แต่ถ้าพี่กลับมาแต่งงานกับคุณซูการ์ อนาคตพวกพี่ก็ต้องมีลูกอยู่แล้ว ถึงตอนนั้น คุมิก็จะเป็นส่วนเกิน พี่เมต ฉันเป็นแม่แท้ๆ ของคุมิ มีแค่แม่แท้ๆ เท่านั้นที่จะดีกับลูกแท้จริง”
เกรซซี่ปิดปากไว้ แล้วร้องไห้
คอฟฟีเมตเม้มริมฝีปากบางแน่น นัยน์ตาสีดำหม่นลงไป
เขายอมรับว่า ที่เธอพูดนั้นมีเหตุผล
ในสถานการณ์ส่วนใหญ่ มีเพียงแม่แท้ๆ ที่จะดีกับลูกอย่างจริงใจ
แต่ว่า……
“เกรซ คุณใช้ชีวิตกับคุมิอย่างไรที่ต่างประเทศ?”
ได้ยินคำนี้ เสียงร้องไห้ของเกรซซี่ก็หยุดกะทันหัน
“พี่เมต ที่ต่างประเทศฉันกับคุมิพึ่งพาอาศัยกัน โดยได้รับความช่วยเหลือจากป้าฉันในการใช้ชีวิตมาตลอด”
ทำไมจู่ๆ เขาก็ถามคำถามเธอแบบนี้
“ปกติคุณสื่อสารกับคุมิบ่อยไหม?”
คอฟฟีเมตมองไปที่เกรซซี่ สายตานั้นดูเยือกเย็นอีกครั้ง
“ก็ ก็บ่อย”
“ในเมื่อสื่อสารกันเยอะ ทำไมเขายังเป็นออทิซึมอยู่?แม้ในตอนที่เผชิญหน้ากับคุณ เขาก็ไม่พูดเหมือนกัน?แต่พออยู่ต่อหน้าซูการ์ เขาดันพูดล่ะ?”
ชายหนุ่มจ้องไปที่เธอ สายตาหม่นลง
ด้านหลังของเกรซซี่มีเหงื่อออก กลืนน้ำลายโดยไม่รู้ตัว
เธอรีบละสายตาลง ไม่สบตากับเขา
ในหัวแล่นอย่างรวดเร็ว
สักพัก เธอก็ปิดปากแล้วร้องไห้อีกครั้ง:“ขอโทษนะพี่เมต ที่ฉันทำให้คุมิกลายเป็นแบบนี้ ตอนนั้นฉันไม่อยากได้เด็กที่ไม่มีหัวนอนปลายตีนแบบนี้ ดังนั้นตอนนั้นฉันจึงดูถูกตัวเองโดยไม่ยอมกินข้าว พอคลอดลูกออกมาจึงปิดกั้นตัวเองเพราะว่าขาดสารอาหาร”
เธอเคยศึกษาสาเหตุที่ทำให้เด็กเป็นออทิซึม
คำอธิบายนี้สมเหตุสมผล
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานไม่เติมน้ำตาล