รักวุ่นๆ ของนายวายร้าย (ออสติน) นิยาย บท 2

ตั้งแต่วันที่เอเดนเลือกที่จะใช้ชีวิตกับพิ้งค์พลอย เขาก็กลายเป็นผู้ชายอบอุ่นเอาอกเอาใจภรรยาอย่างสม่ำเสมอมาโดยตลอด จนกระทั่งได้สร้างครอบครัวที่น่ารักให้ใครต่อใครได้อิจฉา ซึ่งพวกเขามีลูกด้วยกันสองคนคือออสตินเป็นลูกชายคนโตเรียนมหาวิทยาลัยปีสุดท้ายกำลังจะจบแล้ว คณะศิลปกรรมศาสตร์ สาขาวิชาออกแบบเครื่องแต่งกาย เนื่องจากเอเดนและกวิน กำลังจะร่วมมือกันขยายธุรกิจ เครื่องประดับและเครื่องแต่งการควบคู่ไปกับการผลิตรองเท้า เพื่อทำให้ใบพลูกับออสตินสนุกกับงานที่กำลังจะทำ เพราะคนทั้งคู่มีสิ่งที่ชอบเหมือนกัน แล้วยังมีพรสวรรค์คล้ายกันอีกด้วย

ส่วนไอด้าลูกสาวคนเล็กของเอเดนกับพิ้งค์พลอยเพิ่งเข้าปีหนึ่ง ซึ่งเธอได้เข้าเรียนคณะเดียวกันกับพี่ชาย เพราะไอด้าเองก็ชอบการออกแบบเครื่องแต่งกายไม่แพ้ออสติน

ในขณะที่กวินท่านประธานบริษัทกวินชู มีลูกสาวกับใบบุญ และลูกชายอีกหนึ่งคน ซึ่งทั้งสองมีอายุห่างกันพอสมควร เมื่อใบพลูเข้าเรียนมหาวิทยาลัยชั้นปีสุดท้าย คณะเดียวกับออสตินแล้วยังเรียนอยู่คลาสเดียวกันอีกด้วย จึงทำให้บิดามารดาคลายความกังวล เมื่อใบพลูมีออสตินคอยดูแล แต่ว่าในทางกลับกัน คนทั้งสองไม่เคยพูดจาลงรอยกันเลยสักครั้ง

ทางด้านไบเบิลนั้นกำลังจะขึ้นเรียนในชั้นมัธยมปีที่สี่ นิสัยของหนุ่มน้อยเงียบสุขุมจนน่าเกรงขาม ผิดกับลุคใสๆ ของเขาที่แตกหนุ่มหน้าตาดีราวกับโอปา มองยังไงก็ดูมีเสน่ห์ เหมือนกับพี่สาวของเขาที่ดูสวยแบบใสๆ ห้าวเล็กๆ แต่ดูรวมๆ แล้วใบพลูเป็นผู้หญิงที่สามารถทำให้ผู้ชายทุกคนเข้าใกล้ ต้องหลงเข้าไปในวังวนของเธอ ราวกับต้องมนต์ได้อย่างไม่ยากเลยสักนิด เหมือนกับที่ออสตินกำลังเป็นอยู่ในตอนนี้ แต่ทว่าเขากลับทำเป็นปากแข็ง ใช้ความสนิทใกล้ชิดกับเธอไปวันๆ

ส่วนใบบัวเธอเรียนจบแพทย์สมใจ แต่ทว่าหญิงสาวได้ไปประจำอยู่ที่โรงพยาบาลรัฐ ซึ่งอยู่ทางเหนือ เธอมักจะโทรมาเล่าให้พี่สาวฟังเสมอ ถึงบรรยากาศที่ดีและผู้คนที่นั่นล้วนเป็นมิตร แต่ทว่าแพทย์หญิงใบบัวในวัยสามสิบสองย่างสามสิบสามกลับโสดสนิทไม่คิดจะเปิดโอกาสให้ผู้ชายคนไหนเข้ามาในชีวิตของเธอ จนพี่สาวอย่างใบบุญรู้สึกหวั่นใจ กลัวว่าน้องสาวจะขึ้นคาน ไร้คนเหลียวแลใยยามแก่เฒ่า

แต่ที่ขาดไม่ได้คงจะเป็นคู่ของริสากับใบโพธิ์ ทั้งสองมีลูกสาวเพียงคนเดียวเป็นโซ่ทองคล้องใจชื่อใบเฟิร์น ชายหนุ่มต้องขอบคุณริสาที่วันนั้นเธอไม่ยอมกินยาคุมฉุกเฉิน เพราะอยากเอาคืนใบโพธิ์ ซึ่งทำให้น้ำยาของเขาได้ผลเกินคาด จนก่อเกิดกำเนิดสิ่งมีชีวิต กลายเป็นสายใยผูกพัน ของคำว่าครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ กระทั่งปัจจุบันบิดาของริสาได้เสียชีวิตลง เอเดนซื้อหุ้นต่อจากนายคชาทั้งหมด จึงทำให้เขามีหุ้นที่กวินชูห้าสิบเปอร์เซ็นต์ พอๆ กับกวิน

ซึ่งคนที่กำลังจะมาสานต่อธุรกิจรองเท้าแบรนด์ดังอย่างกวินชู คงไม่พ้นออสตินกับใบพลู แต่ทั้งคู่แทบจะไม่พูดกันดีๆ เลยสักครั้ง ซึ่งในเวลานี้คนทั้งคู่กำลังนั่งรถจากบ้านมุ่งสู่มหาวิทยาลัย เพื่อส่งงานอาจารย์หลังจากที่ฝึกงานเสร็จ แต่ดูเหมือนว่ากำลังจะเกิดศึกขึ้นกลางทาง

เมื่อทั้งสองโต้ตอบกันไปมาด้วยวาจาที่ไม่มีใครยอมใคร รถยนต์คันหรูแล่นเข้ามายังถนนใหญ่ มุ่งสู่มหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงของย่านนี้ เรื่องค่าเทอมที่แพงหูฉี่ บวกกับการเรียนการสอนที่ดีเยี่ยม แต่ถึงยังไงมหาวิทยาลัยทุกที่ล้วนมีนโยบายแข็งขัน เน้นยำปลูกฝังให้อาจารย์ถ่ายทอดวิชาความรู้อย่างเต็มความสามารถ เพื่อสอนให้ศิษย์ทุกคนนำความรู้ที่ร่ำเรียนมาไปใช้ในชีวิตจริงได้ เพราะงานทุกวันนี้ยิ่งหาได้ยากเย็นแสนเข็ญ

"ฉันไม่เคยรักนาย! ไม่เคยรักนาย! จำเอาไว้ให้ขึ้นใจเลยนะออสติน" เสียงแหลมดังขึ้นยังกับป่าช้าแตก เมื่อหญิงสาวถูกชายหนุ่มที่นั่งมาข้างๆ กระตุกต่อมโกรธของเธอให้ทำงาน

"หึ! ผู้หญิงทุกคนเข้าใกล้ฉัน ไม่มีใครกล้าปฏิเสธว่าไม่รักไม่ปลื้ม อย่าปากแข็งไปหน่อยเลยน่า แต่อย่างเธอฉันขอประกาศไว้ตรงนี้เลยนะ เธอไม่มีทางได้เห็นขาอ่อนของฉันหรอก" ชายหนุ่มพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่มั่นอกมั่นใจในเสน่ห์ของตัวเอง ซึ่งสามารถมัดใจสาวได้ค่อนมหาวิทยาลัย

"ชิ! นายไปเอาความมั่นใจมาจากไหนออสติน คิดว่าตัวเองเป็นจุดศูนย์กลางของจักรวาลรึไง!" หญิงสาวเองยอมเขาซะที่ไหนตะคอกใส่หน้าชายหนุ่มที่สวมใส่ชุดนักศึกษาจนน้ำลายกระเซ็น ทำให้ออสตินถึงกับมองค้อนไปที่คนตัวเล็ก ถ้าเขาถือสาหาความ แค่จับมาหักแข้งหักขาเธอก็ง่ายยังกับปอกกล้วยเข้าปาก แต่เขาก็ไม่อยากทำ เพราะมันไม่ใช่วิธีของลูกผู้ชาย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักวุ่นๆ ของนายวายร้าย (ออสติน)