รักวุ่นๆ ของนายวายร้าย (ออสติน) นิยาย บท 5

ภายในผับหรูใจกลางเมือง ชายหนุ่มที่นั่งอยู่ตรงกลางระหว่างสองสาว เขากำลังแอบยกยิ้มที่มุมปาก เมื่อออสตินพอจะเดาได้ว่านัทตี้กับวาวากำลังแชทหาใคร ป่านนี้คนที่นอนอยู่บ้านคงไม่ได้หลับได้นอน แม้ว่าใบพลูจะไม่แสดงออก แต่สิทธิ์ของเธอในฐานะว่าที่คู่หมั้นก็คงมีเคืองบ้างแหละ หลังจากที่เธอเห็นภาพเขานั่งโอบสองสาวอยู่แบบนี้

“ออสติน สรุปแล้วนายต้องไปทำงานที่บริษัทกวินชูจริงๆ เหรอวะ” ครามเอ่ยถามเพื่อนขึ้นด้วยความสงสัย เมื่อออสตินต้องไปทำงานร่วมกับใบพลู ทั้งที่ไม่เห็นมีเหตุผลอะไรที่จำเป็น เมื่อบ้านของเขาก็มีธุรกิจหลายอย่าง ทำไมต้องเข้าไปทำงานที่นั่นด้วย

“นายไม่รู้อะไรเลยรึไงคราม” นัทตี้เอ็ดแฟนหนุ่มของเธอออกไปอย่างหงุดหงิดใจ

“ยัยนั่นขาดฉันได้สักที่ไหน ยังไงเราก็ต้องทำงานด้วยกันไปจนวันตาย” คำพูดของออสตินไม่ใช่แค่สองสาวข้างกายที่ขุ่นเคืองใจ วาวากับนัทตี้เองก็ไม่ชอบใจ ที่ชายหนุ่มพูดถึงใบพลูออกมาแบบนั้น ทั้งที่เธอไม่ได้อยู่ตรงนี้

“ใบพลูทั้งสวยทั้งเก่ง นายประเมินค่าเธอต่ำไปหรือเปล่าออสติน การออกแบบของใบพลูไม่เป็นสองรองใคร แค่เธอไม่เคยทำตัวโดดเด่น เพื่อแข่งขันหรือโอ้อวดเหมือนคนอื่นก็เท่านั้นเอง” วาวารีบพูดแทรกขึ้นเพื่อปกป้องเพื่อนรักของเธอ ที่สำคัญสิ่งที่หญิงสาวพูดออกมานั้นมันคือความจริง เพราะใบพลูมีความสามารถทางด้านการออกแบบเป็นอย่างดี จนอาจารย์ชื่นชมในพรสวรรค์ของเธอ

“แหม... วาวา เธอก็ชมเพื่อนเกินไป การออกแบบที่ไม่เหมือนใคร ก็ใช่ว่าจะสามารถทำให้เป็นจุดขายได้ การตลาดทุกวันนี้ ต้องทำตามกระแสเท่านั้น ซึ่งกว่าจะกลายเป็นแฟชั่นนำสมัยได้ ก็ต้องจ้างดาราดังๆ มาโพรโมตโฆษณาให้ทั้งนั้นแหละ ลองทำเองโพรโมตเองสิ จะมีใครซื้อ” ดูเหมือนว่ามิ้นต์กำลังพยายามจะพูดให้ตัวเองดูดี แต่กลับกลายเป็นว่าดูฉลาดน้อยไปเสียอย่างนั้น

“แต่ละโพรเจกต์ก็ต้องมีการทำโฆษณาอยู่แล้ว อยู่ที่ว่าความสามารถและศักยภาพของบริษัทนั้นๆ ได้เลือกคนมาถูกงานหรือเปล่า ว่าแต่บริษัทของพ่อเธอ ไม่มีทีมงานทำโฆษณาเลยเหรอ หรือว่านักออกแบบทำเองทั้งหมด โพรโมตเองอะไรทำนองนั้น... ก็ขายได้แล้ว เก่งจังเลยนะ”

นัทตี้พูดประชดมิ้นต์อย่างไม่ไว้หน้า เมื่อเธอเพิ่งรู้มาว่าบริษัทบิดาของหล่อนกำลังทาบทามดาราดัง ที่ใบพลูพูดถึงบ่อยๆ ให้มาโพรโมตชุดแฟชั่นคอลเลกชันหน้าร้อนที่กำลังจะมาถึง แน่นอนว่าหล่อนคงกลัวดาราคนดังกล่าวจะมารับงานที่บริษัทกวินชู มิ้นต์เลยรีบให้บิดาจัดการเซ็นสัญญาตัดหน้าไปก่อน

“มีสิจ๊ะ! แต่มิ้นต์คงทำไม่สำเร็จ ถ้าไม่ได้รับการช่วยเหลือจากออสติน คุณพ่อฝากมิ้นต์มาบอกออสตินด้วยนะคะ วันไหนคุณว่างไปทานข้าวที่บ้านบ้าง คุณพ่อมีเรื่องสำคัญจะคุยด้วยค่ะ” ถ้อยคำพร้อมกับท่าทางของหล่อนที่ยั่วยวนออสตินนั้น กำลังทำให้เพื่อนทั้งสองของใบพลู อยากหยุมหัวมิ้นต์ขึ้นมาตบ (หยุมหัวภาษาอีสานดึงกระชากผม) เมื่อหล่อนกำลังแสดงออกได้อย่างน่าหมั่นไส้

“ผมก็แค่แนะนำไปตามที่รู้เท่านั้นเองครับ ไม่ได้เก่งอะไร” ชายหนุ่มพูด พลางกระดกน้ำสีอำพันในแก้วเข้าปาก ขณะที่เตวิชกับครามสังหรณ์ใจบางอย่าง เขาได้แต่หวังว่าเพื่อนรัก คงไม่แกล้งใบพลูแรงๆ ด้วยการช่วยให้มิ้นต์กลายเป็นคู่แข่งทั้งทางธุรกิจและหัวใจ เพราะถ้าเป็นแบบนั้น พวกเขาสองคนคงไม่เข้าข้างออสตินอย่างแน่นอน

“ทำไมพวกมึงสองคน มองกูแบบนั้นวะ” ออสตินถึงกับเอ่ยถามเพื่อนรักออกมาด้วยความสงสัย เมื่อแววตาของเตวิชกับครามมองมาที่เขาอย่างมีเลศนัย

“เปล่า... พอดีว่าง่วงจะกลับแล้ว” ครามพูดขึ้น พร้อมกับหันไปสบตาแฟนสาวของเขา ซึ่งในเวลานี้นัทตี้เองก็อยากกลับเต็มทีแล้วเหมือนกัน เพราะใบพลูไม่ได้มาด้วย บวกกับสองสาวข้างกายออสตินยิ่งทำให้บรรยากาศดูน่าเบื่อ ซึ่งเธอรู้สึกไม่ชอบใจแขกของออสตินเลยสักนิด

“กูก็จะกลับเหมือนกัน พอดีว่าพรุ่งนี้ต้องเดินทางไปดูงานกับพ่อที่ต่างจังหวัด” เตวิชรีบพูดขึ้น เมื่อออสตินหันมาขอความเห็นจากเขา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักวุ่นๆ ของนายวายร้าย (ออสติน)