ริษยาร้ายซ่อนรัก นิยาย บท 110

วันต่อมานับหนึ่งก็ไปถ่ายละครตามปกติ เมื่อเผชิญหน้ากับอิงฟ้า เธอก็แค่เหลือบมองหล่อนด้วยหางตาอย่างเย็นชา

แล้วหลุบตาย้ายกลับไปมองตรงหน้า เดินผ่านหล่อนไปแบบนิ่งๆ โดยไม่ยุ่งอะไรกับหล่อน

แววตาของเธอทำให้อิงฟ้ารู้สึกเกลียดชังเข้าไส้แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่อดทนยืนมองแรงใส่เธอนิ่งเงียบ

พอถึงเวลาที่ต้องเข้าฉากร่วมกัน ต่างคนก็ต่างทำหน้าที่ของตัวเอง

ตอนนี้หล่อนคิดได้แล้วว่าควรจะตั้งใจทำงานแล้วยืนหยัดบนลำแข้งตัวเอง

แต่ด้วยการวางท่าหยิ่งยโสของนับหนึ่ง มันรบกวนจิตใจคอยขัดหูขัดตาเธอทั้งวัน มันทำให้เธออดทนต่อไปไม่ไหว

เธอเกลียดการวางท่าสูงส่งของนับหนึ่งที่ดูเหนือกว่าเธอมาก

ทั้งวันจิตใจเธอไม่สงบเลย ร้อนผ่าวอยู่ตลอดเวลา เกือบหลุดกลางกองถ่ายหลายครั้ง จนแสดงความเกลียดชังที่มีต่อนับหนึ่งผ่านแววตา

แม้คนในกองถ่ายจะรู้ว่าทั้งสองไม่ถูกกันแต่ก็ไม่มีใครอยากยุ่งหรือเข้าไปถามให้เรื่องมันบานปลายแล้วกระทบมาถึงงาน

หลังจากถ่ายฉากสุดท้ายเสร็จ เวลาก็ปาไปสี่โมงเย็นแล้ว เมื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ นับหนึ่งก็เดินออกมาจากกองถ่าย ตรงไปที่รถของตัวเอง

กำลังจะยื่นมือออกไปเปิดประตู อยู่ๆอิงฟ้าก็เดินเข้ามาขวางทางเธอพร้อมกับเอ่ยถามขึ้นเสียงแข็งด้วยสีหน้านิ่งแต่แววตากลับจ้องแรงใส่นับหนึ่งด้วยความเกลียดชัง

" เมื่อวานเธอไปไหน ทำไมถึงไร้ความรับผิดชอบ นึกจะหยุดก็หยุดตามอำเภอใจ ไม่รู้จักคิดถึงคนอื่น แย่ที่สุด "

เมื่อเจอคำด่าแบบนั้น นับหนึ่งรู้สึกโกรธมากแต่เธอโต้ตอบกลับโดยการยกมุมปากยิ้มเย็นออกมาอย่างเยาะเย้ยด้วยความใจเย็นแล้วเอ่ย

" ถ้าเธออยากรู้ว่าฉันไปไหน ก็ไปถามคุณกวินของเธอสิ รับรองว่าเธอได้คำตอบที่ต้องการแน่นอน "

แล้วเธอก็ชักหน้าดุจ้องอิงฟ้าด้วยแววตาแข็งกร้าวพร้อมกับเอ่ยเสียงเรียบนิ่งที่แฝงไปด้วยความหนักแน่นน่าเกรงขาม

" หลีก "

อิงฟ้าท้าทายโดยการยืนเลิกคิ้วเย้ยอย่างน่าโมโห นับหนึ่งยกมุมปากยิ้มร้ายแล้วผลักอิงฟ้าที่ยืนเกะกะขวางทางออกไปพ้นหน้า จนอิงฟ้าเกือบล้ม

หล่อนมองนับหนึ่งที่กำลังยื่นมือออกไปเปิดประตูเตรียมเข้าไปในรถด้วยความริษยาที่มันทวีคูณขึ้นเรื่อยๆ

ริษยาที่นับหนึ่งได้อภิสิทธิ์เหนือเธอ ถึงขนาดสามารถทำให้กองถ่ายเลื่อนไปถ่ายฉากอื่นแทนได้

[ นี่แกสำคัญกับคุณกวินขนาดนั้นเลยเหรอ ถึงกับออกหน้าลาหยุดให้ แถมทางกองถ่ายก็ไม่มีใครว่าอะไรอีก มันไม่ยุติธรรมเลยสักนิด อีนับหนึ่ง อีสถุล ฉันจะไม่มีวันยอมให้แกได้ดีกว่าฉันแน่นอน ]

นับหนึ่งรู้สึกได้ถึงสายตาอาฆาตเลยชำเลืองมองสายตาคู่นั้นด้วยหางตาอย่างเย็นชา ก่อนจะเปิดประตูเข้าไปในรถแล้วขับออกไป ปล่อยให้อิงฟ้ายืนโกรธแค้นจมอยู่กับความริษยาคนเดียว

รถเก๋งสีขาวของนับหนึ่งเคลื่อนตัวไปข้างหน้าตามถนนใหญ่ที่มีรถราขับเคลื่อนไปมาตลอดเวลา

เธอขับรถมุ่งหน้าไปยังบริษัทของกวิน เพื่อยกระดับตัวเองและเรียกร้องสิทธิที่ควรจะได้ ให้เหนือกว่าอิงฟ้าและผู้หญิงคนอื่นๆ เพราะเธอถือว่าเธอไม่ได้ขายตัวหรือเต็มใจที่จะเป็นของเขา เป็นเขาที่ใช้กำลังขืนใจเธอ

พอไปถึง เธอก็จอดรถไว้หน้าบริษัทแล้วเปิดประตูลงจากรถเดินเข้าไปด้านใน ตรงไปยังเคาน์เตอร์พนักงานประชาสัมพันธ์

" สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่าคุณผู้หญิงมีอะไรให้ช่วยหรือเปล่าคะ "

พนักงานสาวสวย หน้าตาดีคนหนึ่งเอ่ยทักทายขึ้น เพราะนึกว่านับหนึ่งเป็นลูกค้าของทางบริษัท เลยต้อนรับเธออย่างดีด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้มน้ำเสียงก็อ่อนหวานนุ่มนวล

แม้นับหนึ่งจะเริ่มมีชื่อเสียงแต่เธอก็ยังไม่ดัง เลยไม่ค่อยมีคนรู้จักเธอนัก เธอยิ้มเล็กน้อยให้พนักงานแล้วเอ่ยตอบเสียงเรียบอย่างสุภาพ

" ค่ะ ฉันมาขอพบคุณกวิน ที่เป็นประธานบริษัทของที่นี่ ห้องทำงานเขาอยู่ชั้นไหนคะ "

ทันทีที่พนักงานได้ยินนับหนึ่งเอ่ยดังนั้น สีหน้าก็ดูเปลี่ยนไปจากเดิมเล็กน้อย

จากแววตาเป็นมิตรชวนให้รู้สึกสบายใจกลับเปลี่ยนไปเป็นแววตาที่แฝงไปด้วยความดูถูก

จากนั้นก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงห้วนอย่างไม่อยากจะเสียเวลาพูดกับนับหนึ่ง

" แล้วคุณได้นัดกับท่านประธานไว้มั้ยคะ ถ้าไม่ได้นัดก็พบไม่ได้ค่ะ ท่านประธานของเรา ไม่ใช่ใครก็สามารถพบได้ตามใจอยากค่ะ "

คำพูดของพนักงานมันช่างไม่เสนาะหูเอาซะเลย มองแวบเดียว นับหนึ่งก็เข้าใจความคิดของพนักงานแล้วและรู้ว่าตัวเองนั้น ถูกมองเป็นหญิงบำเรอกามที่ไร้ค่า ไร้เกียรติ ไร้ศักดิ์ศรีของกวินไปแล้ว เธอรู้สึกโกรธแค้นเขามาก

แต่ต่อให้เธอเป็นหนึ่งในผู้หญิงของกวิน พนักงานก็ไม่มีสิทธิ์มาแสดงสีหน้าดูถูกรวมถึงใช้วาจาไม่ต้อนรับแบบนี้ เธอจ้องตาพนักงานสาวแล้วเอ่ย

" ฉันเข้าใจคุณพนักงานค่ะ ไม่ถือสาด้วยที่คุณใช้คำพูดไม่ดีและมองฉันด้วยสายตาแบบนั้น ที่ฉันมาขอพบคุณกวิน ก็เพราะฉันมีเรื่องต้องเคลียร์กับเขา ไม่ได้มาในฐานะผู้หญิงของเขาอย่างที่คุณพนักงานเข้าใจค่ะ "

เธอไม่ปฏิเสธว่าตัวเองเป็นผู้หญิงของกวินและไม่ยอมรับด้วยว่าตัวเองเป็นผู้หญิงของเขา

ทำให้พนักงานเริ่มหวั่น ไม่มั่นใจและรู้สึกกระอักกระอ่วมใจ จึงยิ้มฝืนๆอย่างวางหน้าไม่ถูก รู้สึกผิดที่ตัดสินคนเร็วเกินไป สุดท้ายก็ถูกสวนมาจนหน้าหงาย ได้แต่เอ่ยคำขอโทษ เพราะไม่อยากให้เรื่องบานปลายจนตกงาน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ริษยาร้ายซ่อนรัก