สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน นิยาย บท 224

ตอนที่224 สาวใช้ตัวแสบ 128

เอามาเปรียบเทียบกันแล้ว ถ้าให้เลือกระหว่างสองคนนี้ ฝู้เฟิ่งหยีก็ยังจะเลือกส้งหลิงหลิงแต่ไม่ใช่เซี่ยชีหรั่นอยู่ดี

“รู้ไหมว่าฉันหาแกมาจะคุยเรื่องอะไร” ฝู้เฟิ่งหยีจ้องมองเซี่ยชีหรั่นและถาม

“นายหญิงรู้สึกว่าฉันอยู่ที่นี่แล้วทำให้คุณเย่กับคุณไห่ไม่ถูกกัน และยังทำให้คุณเย่กับคุณส้งไม่ถูกกันอีกด้วย เพราะฉะนั้นนายหญิงอยากจะให้ฉันออกไปจากที่นี่” เซี่ยชีหรั่นน้ำเสียงแน่ใจ ฝู้เฟิ่งหยีพยักหน้าพูดว่า: “แกเป็นเด็กผู้หญิงที่ฉลาด ฉันก็ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรมากแล้ว คราวก่อนฉันก็เคยถามแกว่าต้องการความช่วยเหลืออะไรไหม แกบอกว่าไม่ต้องการ ฉันก็เห็นอยู่ว่าแกไม่ใช่คนประเภทหน้าเงินหรือโลภอย่างนั้น แกก็แค่อยากจะให้แฟนเก่าแกไปอย่างสบายใจ ฉันรับปากกับแกฉันจะตามหล่าวเย่ให้ไปสืบสวนเรื่องนี้ อย่างนี้แกพอใจไหม”

เซี่ยชีหรั่นรู้ว่าเย่เชินหลินกตัญญูต่อคุณแม่ ดังนั้นถึงฝู้เฟิ่งหยีจะด่าเธอชุดใหญ่ ให้คนไล่เธอออกไป ก็เป็นเรื่องปกติ

เธอมีมารยาทต่อเธอได้ขนาดนี้ เธอรู้สึกขอบคุณมาก เธอพาความวุ่นวายมาให้กับลูกชายและครอบครัวของเธอมันก็เป็นความจริง เธอรู้สึกผิดจริงๆ

“นายหญิงคะ ฉันขอบคุณท่านมากจริงๆ แต่ว่าฉันอาจจะออกไปจากที่นี่ไม่ได้ อย่างน้อยฉันก็ไม่มีสิทธิ์ออกไป ขอพูดตรงๆ เลย คดีของโม่เสี่ยวจุนผ่านไปนานขนาดนี้ หลายๆ หลักฐานก็ไม่มีแล้ว ถึงประธานเย่จะทุ่มเทกับการสืบสวนอย่างไร ก็อาจจะไม่สามารถกลับคำตัดสินคดีนี้ได้แล้ว คุณเย่บอกฉันว่าเขามีวิธีช่วยฉันได้ แต่มีข้อแม้ ก็คือให้ฉัน…เป็นภรรยาน้อยของเขา ฉันตกลงแล้ว ฉันไม่มีสิทธิ์ผิดสัญญา ถึงแม้ว่าฉันเองก็ไม่อยากอยู่ที่นี่ ขอโทษค่ะ นายหญิง ฉันรู้ว่าฉันสร้างปัญหาให้กับท่านและครอบครัวของท่าน แต่ฉันก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงสถานการณ์แบบนี้ได้จริงๆ ฉันทำได้แค่พยายามห่างออกจากสายตาของทุกคน แต่ฉันออกไปไม่ได้จริงๆ”

เซี่ยชีหรั่นเล่าเรื่องสัญญาระหว่างเธอกับเย่เชินหลินให้กับฝู้เฟิ่งหยีรอบเดียวจบ เธอมีความประทับใจต่อฝู้เฟิ่งหยีตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เธอไม่อยากจะปิดบังเธอ

“ฉันเข้าใจแล้ว” ฝู้เฟิ่งหยีพูดแค่ประโยคสั้นๆ ก็หันหลังจากไปแล้ว

เซี่ยชีหรั่นมองด้านหลังที่อ้างว้างของเธออย่างเศร้าหมอง เธอเข้าใจความรู้สึกของคนเป็นแม่คนนี้ได้

หวังว่าเธอจะสามารถโน้มน้าวเย่เชินหลินได้ ให้ปล่อยเธอไป

วันเวลาที่จากกัน เธออาจจะคิดถึงผู้ชายอารมณ์แปรปรวนคนนั้น แต่ถึงจะเป็นการคิดถึง ก็ยังดีกว่าทรมานกันและกันแบบนี้

การที่ฝู้เฟิ่งหยีไม่พูดอะไรต่อ คือวินาทีนั้นเธอเข้าใจแล้วว่า ลูกชายของเธอใช้ทุกวิธีทางเพื่อที่จะให้ผู้หญิงคนหนึ่งอยู่กับเขา เห็นได้เลยว่าผู้หญิงคนนี้สำคัญต่อหัวใจของเขาขนาดไหน เมื่อก่อนจะเป็นผู้หญิงคนอื่นที่มายุ่งเหยิงกับเขา เขาไม่ชอบ แต่สำหรับคนนี้ เขาข่มขู่บวกกับล่อหลอก สงสัยจะใช้หมดทุกวิธีทางแล้วจริงๆ

คนเราก็เป็นแบบนี้แหละ ยิ่งรู้ว่าสิ่งใดได้มายาก ก็ยิ่งรู้สึกว่าสิ่งนั้นดี

สงสัยเขาก็รู้อยู่แล้วว่าในใจของผู้หญิงคนนี้มีผู้ชายอีกคน เป็นไปไม่ได้ที่จะมารักเขา ดังนั้นเขาจึงต้องได้หัวใจเธอมา

เย่เชินหลินดีทุกอย่าง แต่ว่าความอยากพิชิตรุนแรงเกินไป เขาอยากจะพิชิตโลกใบนี้ พิชิตผู้หญิงที่ไม่ยอมเขา เธอผู้ที่เป็นแม่ปวดหัวมาก และยังใช้วิธีแข็งไม่ได้อีกด้วย ไม่อย่างนั้นไม่ได้ผลอีก ยังจะกระตุ้นอารมณ์ต่อต้านของเขาออกมาอีกด้วย ไม่แน่เขาอาจจะเป็นปรปักษ์ต่อคนเป็นแม่ก็ว่าได้

ไม่สามารถลงมือทางฝั่งเซี่ยชีหรั่น แต่จะให้ทิ้งไว้เป็นแบบนี้ก็ไม่ได้ เธอก็ได้แต่คิดวิธีอื่นที่อ่อนกว่านี้

เซี่ยชีหรั่นเดินไปข้างอีกกี่ก้าว เดิมแค่รู้สึกว่าวิลล่าของตระกูลเย่ใหญ่มาก แต่ตอนนี้รู้สึกว่ามันก็เล็กได้ขนาดนี้เหมือนกัน เงยหัวขึ้นก็เห็นไห่ลี่หมินที่อยู่ไม่ไกล

เธอหันหลังแล้วเดินกลับไปแม้แต่คิดยังไม่มีเลย

ไห่ลี่หมินก็ได้สังเกตเห็นเงาสีเขียวอ่อนที่หนีไปอย่างลุกลน เขาเป็นห่วงเธอมาตลอด ตอนนี้เห็นเธอยังสามารถออกมาเดินเล่นได้ตามปกติ เขาก็รู้สึกโล่งใจเยอะเลย

เข้าใจว่าเธอไม่ค่อยอยากให้เขาไปเข้าใกล้เธอ เขาควบคุมความใจร้อนที่อยากจะเดินเข้าไปคุยกับเธอไว้ หยุดก้าวเท้าลง

เขาไม่ได้เดินตามมา เซี่ยชีหรั่นรู้สึกขอบคุณ เธอก้าวเท้าให้เร็วกว่าเดิม เดินไปยังอีกทางหนึ่ง

ทางนั้นอยู่ใกล้กับฟิตเนสมากกว่า ตอนนี้ถึงเวลาที่เย่เชินหลินจะออกกำลังกายตอนเช้าของทุกวัน เซี่ยชีหรั่นเห็นข้างในของฟิตเนสผ่านกระจกใส พ่อบ้านและเหล่าสาวใช้ยืนเป็นแถวอยู่ตรงนั้น กำลังรอเย่เชินหลินมา

เธอนึกว่าเย่เชินหลินลงโทษเธอไปตั้งทั้งคืน น่าจะเหนื่อยมาก และอารมณ์ก็ยังไม่ดีอีกด้วย ไม่มาออกกำลังกายตอนเช้าแน่นอนหรอก

“สวัสดีค่ะคุณเย่!” เธอได้ยินเสียงทักทายของเหล่าสาวใช้ เงยหัวขึ้นมองไป เห็นร่างสูงนั้นเดินเข้าไปฟิตเนส

เธอก็ยืนอยู่ตรงนั้นเฉยๆ ดูเขาวิ่ง เล่นกล้ามอก ทำการแทรนทั่วไปต่างๆ ในฟิตเนสผ่านกระจกใสอยู่ห่างๆ

เขาดูตั้งใจมาก อย่างน้อยอยู่ระยะห่างนี้ไม่เห็นเขายังโกรธอยู่ ใต้แสงแดดยามเช้า ทุกท่าทางของเขาดูมีพาวเวอร์มาก ในเวลาเดียวกันก็ดูสง่ามีเสน่ห์