สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน นิยาย บท 253

ตอนที่ 253 สาวใช้ตัวแสบ 157

เซี่ยชีหรั่นเสียใจจนทำให้โม่เสี่ยวหนงถึงกับทนดูอยู่เฉยๆไม่ได้ เธอเดินเข้าไปหาพี่สาวของตน จากนั้นจึงช่วยเช็ดน้ำตาให้อย่างลุกลี้ลุกลน พลางเอ่ยถาม “พี่เชินหลินไม่ชอบอาหารเช้าที่พี่ทำให้หรอ?”

“ไม่ใช่ ไม่ใช่หรอก อย่าถามเลยเสี่ยวหนง” เซี่ยชีหรั่นพูดไปสะอื้นไป

เพราะเธอไม่อยากให้โม่เสี่ยวหนงต้องมากังวลใจเพราะเรื่องของเธอ เธอจึงร้องไห้ได้สักพัก จากนั้นจึงพยายามข่มใจและกลั้นน้ำตาเอาไว้

“พี่ บอกฉันมาเถอะนะ ถ้าพี่ไม่ระบายออกมา มันจะยิ่งอึดอัดนะ”

“ก็ได้ ฉันจะบอกเธอ เขาไม่ชอบข้าวเช้าที่พี่ทำ แต่เขาชอบเค้กที่ส้งหลิงหลิงเอามาให้ แล้วเขาก็ใช้ให้ส้งหลิงหลิงเอาข้าวเช้าที่พี่ทำให้ไปทิ้ง” นี่เป็นครั้งแรกที่เซี่ยชีหรั่นแสดงความรู้สึกน้อยอกน้อยใจออกมาให้โม่เสี่ยวหนงได้รับรู้ ตัวเธอคิดว่าถ้าพูดออกไปจะทำให้รู้สึกดีขึ้นบ้าง

หรือว่าพูดเรื่องนี้ออกมาเพื่อ ให้ตระหนักว่าผู้ชายคนนั้นโหดร้ายกับเธอและไม่ไยดีเธอขนาดไหน

“จริงเหรอ? พี่ เขาทำเกินไปแล้วนะ! เราไม่ต้องไปสนใจเขาหรอก อย่าเสียใจไปเลย เขาอาจจะแค่….” โม่เสี่ยวหนงคิดว่าที่เย่เชินหลินทำกับพี่สาวเธอเป็นเพราะเธอบอกเขาเกี่ยวกับเรื่องของหวีซานซาน

“ฉันคิดว่าเขาน่าจะอารมณ์ไม่ดี”

เซี่ยชีหรั่นพยักหน้าตอบรับ พร้อมกับพูดออกมาเสียงแผ่วเบา “นั่นสิ ฉันจะไม่เสียใจ ไม่มีอะไรต้องเสียใจ ก็แค่อยากให้เขาชอบ มีใครคนไหนไปขอร้องให้คนอื่นช่วยแล้วไม่ดูสถานการณ์มั่งหล่ะ”

“พี่ พี่อย่าเป็นแบบนี้ ถ้าพี่รู้สึกน้อยใจ ฉันว่าพี่ร้องไห้ออกมายังจะดีกว่า” โม่เสี่ยวหนงเขยิบเข้าไปหาเซี่ยชีหรั่น และกอดเธอเบาๆ เงาของร่างบางที่กำลังพยายามอดทนอดกลั้นความรู้สึกอยู่นั้นดูแล้วช่างน่าเจ็บปวดเหลือเกิน

เซี่ยชีหรั่นไม่ร้องแล้วจริงๆ เธอเคยสัญญากับเสี่ยวจุนไว้แล้วว่าจะไม่ร้องไห้ ตอนนี้ทำไมต้องมาร้องไห้ให้กับผู้ชายคนอื่นด้วยหล่ะ

“ชีหรั่น คุณโม่ ทานข้าวเช้าได้แล้ว” เป็นเสียงของพ่อบ้านดังมาจากนอกประตู เซี่ยชีหรั่นผละออกจากโม่เสี่ยวหนงอย่างเบามือ แล้วจึงเช็ดน้ำตาบนใบหน้าของตน จากนั้นจึงตอบกลับผู้ดูแล “รู้แล้วค่า ขอบคุณนะคะ”

“พี่ ตอนนี้พี่กินลงแน่นะ?”

“ฉันกินลง ไปกันเถอะ”

เธอรู้จุดยืนของตัวเองแล้ว แค่น้อยใจเล็กๆน้อยๆก็ไม่กินข้าว? เธอกลัวว่าเดี๋ยวส้งหลิงหลิงจะมาหาเรื่อง ว่าเธอหยิ่งอย่างงั้นอย่างงี้

ถึงแม้ว่าเย่เชินหลินจะกินเค้กที่ส้งหลิงหลิงเอาไปให้แล้ว แต่เขาก็ยังลงมากินข้าวเป็นเพื่อนแม่เขา

เช้านี้รอยยิ้มบนใบหน้าของส้งหลิงหลิงดูจะมีความสุขเหลือเกิน แก้มของเธอแดงระเรื่อ ดูท่าเธอคงจะมีความสุขมาก

เมื่อเซี่ยชีหรั่นกับโม่เสี่ยวหนงเดินมาถึง สายตาอันเย็นชาของเย่เชินหลินมองไปยังหน้าของเซี่ยชีหรั่นอย่างทันที

ถ้าเขาไม่ได้ดูผิด ตอนเธอออกจากห้องไปคราวนั้นตัวเธอสั่นเล็กน้อย เธอร้องไห้เหรอ?

ตอนนี้เมื่อได้เห็นตาแดงๆของเธอแล้ว มันก็ชัดเจน ผู้หญิงคนนี้ก็ร้องไห้เป็น? เขานึกว่าเธอเพียงเพื่อโม่เสี่ยวจุนแล้วจะเป็นปืนหรือมีด ก็ทำอะไรเธอไม่ได้

ฝู้เฟิ่งหยีก็สังเกตได้ว่าเซี่ยชีหรั่นมีท่าทีเปลี่ยนไป แต่เป็นเพราะส้งหลิงหลิงอยู่ด้วย เธอจึงไม่ได้เอ่ยถามอะไร

ขณะทานอาหารเช้า เซี่ยชีหรั่นเธอไม่อยากอาหาร เธอฉีกยิ้ม ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“แม่ครับ แผนเดินทางไปไหว้พระของแม่วางเสร็จเรียบร้อยแล้วนะครับ เดินทางวันนี้ นั่งเฮลิคอปเตอร์ไป แบบนี้จะประหยัดเวลามากกว่า แล้วแม่จะได้ไม่เหนื่อยกับการเดินทางด้วย”

“นั่งเฮลิคอปเตอร์อะไรกัน เสียงดังจะตาย แม่จะนั่งรถไฟไป” ฝู้เฟิ่งหยียืนกราน

เธออย่างจะจับคู่คนทั้งสอง เพราะฉะนั้นยิ่งถ่วงเวลาได้มากยิ่งดี

“แม่ครับ…” ยังไม่ทันที่เย่เชินหลินจะพูดอะไรต่อ สีหน้าของฝู้เฟิ่งหยีก็เริ่มเคร่งขรึมขึ้น “แม่รู้ เวลาของลูกเป็นเงินเป็นทอง ถ้าลูกไม่อยากนั่งรถไฟนานๆเป็นเพื่อนแม่ งั้นลูกก็ไม่ต้องไป ให้หลิงหลิงไปเป็นเพื่อนแม่ก็พอแล้ว”

แม่ของเขาพูดมาขนาดนี้แล้ว เย่เชินหลินจะพูดอะไรได้ เขาทำได้แค่ทำตามสิ่งที่แม่เขาต้องการ

โชคดีที่เขาเตรียมทางเลือกอื่นให้แม่ของเขาไว้ก่อนแล้ว เขาคิดไว้แล้วว่าแม่อาจจะเลือกทางอื่น ตั๋วรถไฟก็ให้หลินหลิงจัดการเตรียมไว้ให้ก่อนแล้ว

“หลินหลิงก็เตรียมตั๋วรถไฟแบบเตียงนอนให้แล้ว วันนี้ก็ออกเดินทางได้ หลิงหลิง เธอไม่มีปัญหาใช่มั้ย?”

ส้งหลิงหลิงส่ายหน้า พร้อมรีบตอบกลับ “ไม่มีปัญหาค่ะ”

“พ่อบ้าน ไปเตรียมรถมาคันหนึ่ง” เย่เชินหลินเอ่ยปากออกคำสั่ง

“ครับ คุณเย่!”

เย่เชินหลินเหลือบสายตามองไปยังคนรับใช้ สุดท้ายสายตาจึงหยุดมองไปที่จิ่วจิ่ว

“จิ่วจิ่ว เธอไปเก็บเสื้อผ้าสักชุดสองชุด ตามไปดูแลคุณนายกับคุณส้ง”

จิ่วจิ่วได้ยินว่า ให้เธอตามไปด้วย เย้ เป็นเรื่องที่ดีจริงๆ ถ้ามีจิ่วจิ่วคนนี้อยู่ ส้งหลิงหลิงก็อย่าได้คิดว่าจะปีนขึ้นเตียงของคุณชายใหญ่

ส้งหลิงหลิงคิดว่า ให้จิ่วจิ่วไปคงขัดหูขัดตา แถมหล่อนยังจะไปขัดขวางแผนการของเธออีก

เธอจึงรีบพูดกับเย่เชินหลิน “ไม่เป็นไรมั้ง ฉันไม่ต้องให้ใครมาดูแลก็ได้ ฉันดูแลคุณน้าคนเดียวก็พอแล้ว”

เย่เชินหลินเริ่มขมวดคิ้ว ส้งหลิงหลิงเห็นจึงรีบกลับคำทันที “แต่ว่า ฉันคนเดียวก็ดูแลคุณน้าได้ไม่ทั่วถึง มีอีกคนคอยอยู่ช่วยก็ดีกว่า จิ่วจิ่วรู้งานดี เธอก็ไปด้วยกันเถอะ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน