ตอนที่ 385 สาวใช้ตัวแสบ289
ดังนั้นสถานที่รับประทานอาหาร จึงเลือกที่คฤหาสน์
เรื่องแบบนี้ เย่เชินหลินก็ไม่สามารถคัดค้าน ไปถึงครึ่งทางแล้วก็กลับมา ตอนเช้าที่เขากลับมา ที่จริงก็ตั้งใจที่จะมาบอกเธอก่อน ว่าเย่จื่อห้านกลับมาแล้ว กลับคิดไม่ถึงว่าจะได้ยินเธอกำลังคุยกับโม่เสี่ยวจุนอยู่ที่นั่น จะโทษว่าเขาไม่ได้บอกเธอก่อนไม่ได้
เซี่ยชีหรั่นได้ทราบความหมายของเย่เชินหลินแล้ว อยากให้เธอพูดต้อนรับเฉยๆมั่ง
ต่อให้ในใจเธอทรมานแค่ไหน ก็ต้องทำตามที่เย่เชินหลินต้องการ เธอไม่มีสิทธิ์พูดคำว่าไม่
“ยินดีต้อนรับคุณ” เซี่ยชีหรั่นลุกขึ้น ชูแก้ว เพราะมือเธอสั่น เหล้าในแก้วก็สั่น
“พี่ ผมต้องเรียกเธอคนนี้ว่ายังไง?” ตอนนี้เหมือนเหยนชิงเหยียน จะเดาสถานะของเธอออกแล้ว
“เรียกว่า พี่สะใภ้”
เย่เชินหลินพูดออกมาอย่างเรียบเฉย ทำให้ทุกคนต่างก็ประหลาดตกใจ
พี่สะใภ้? ฝู้เฟิ่งหยีคิ้วชนกัน คำว่าสะใภ้นี้หมายความว่าอย่างไรกัน? พี่สะใภ้ของเขา ไม่ใช่ส้งหลิงหลิงหรอกหรือ?
เซี่ยชีหรั่นเองก็ประหลาดใจ หันไปมองเย่เชินหลิน สีหน้าเขาปกติ เหมือนกับเขาพูดคำพูดที่ปกติแบบนั้น
คำพูดนี้ของเย่เชินหลิน ก็เพื่ออยากให้ผู้ชายที่นั่งอยู่ในนี้ รวมถึงเหยนชิงเหยียนเข้าใจความจริงนี้ เซี่ยชีหรั่นเป็นผู้หญิงของเขา ต่อให้มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเขา ก็อย่าคิดอะไรเกินเลยกับเธอ
“พี่สะใภ้สวยมาก” เหยนชิงเหยียนพูดชมเธออย่างมีมารยาท และแน่นอน ว่าไม่ใช่ความเท็จ ตอนที่เซี่ยชีหรั่นปรากฏตัว เขารู้สึกทึ่งมาก สามารถพูดได้ว่า เธอเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุด เท่าที่เขาเคยเห็นจนโตมาขนาดนี้
เซี่ยชีหรั่นฉีกยิ้ม พูดขึ้นว่า “ขอบคุณค่ะ”
ไห่ลี่หมินสังเกตเห็นตอนที่เหยนชิงเหยียนพูดว่า พี่สะใภ้สวย มีคิ้วของคนบางคนขมวดขึ้นมาทันที ถึงแม้จะไม่ประเจิดประเจ้อ แต่ท่าทางนั้นก็เพียงพอให้คนอยากขำ
ทุกคนต่างก็พูดต้อนรับกันหมดแล้ว หลังจากที่ทุกคนยกแก้วดื่มฉลองแล้ว เซี่ยซีหรั่นนั่งลง มือยังคงสั่นไหวอยู่
เธอไม่เข้าใจ เธอบอกเย่เชินหลินไปแล้วตั้งหลายรอบ ว่าโม่เสี่ยวจุนก็คือเย่จื่อห้าน ทำไมเขาถึงยังยอมรับตัวปลอบคนนี้อย่างกะทันหัน หากเสี่ยวจุนรู้เรื่องเข้าจะรู้สึกยังไง?
บางทีเขาอาจจะยังไม่เชื่อ
เธอจะต้องรีบพูดเรื่องนี้ให้เขาฟัง เธอจะต้องจัดการให้พวกเขารีบเจอหน้ากัน ไม่อย่างนั้นหากเย่จื่อห้านตัวปลอบคนนี้ได้อยู่ที่นี่นาน เมื่อโม่เสี่ยวจุนกลับมาตระกูลเย่ อาจจะรู้สึกไม่ดี
ในขณะที่เซี่ยชีหรั่นกำลังครุ่นคิดอยู่ ทุกคนต่างก็เริ่มคุยกันอย่างสนุกสนานแล้ว
ฝู้เฟิ่งหยีมองดูไห่ฉิงฉิง แล้วหันไปยิ้มพูดกับคุณนายไห่ว่า “ฉางหลิง คุณยังจำได้ตอนที่พวกเขาทั้งสองยังเด็ก แล้วเราตกลงหมั้นหมายตั้งแต่วัยเด็กไหม?”
คุณนายไห่หัวเราะ พูดตอบว่า “ทำไมจะจำไม่ได้ ตอนนี้ฉิงฉิงก็ยังโสดอยู่ เราไม่บีบบังคับหนุ่มสาว แต่ว่าเด็กทั้งสองมีวาสนาต่อกัน ฉันคิดว่าลองครบกันดูก่อนไหม พวกเธอเห็นว่าอย่างไร?”
ไห่ฉิงฉิงหน้าแดง แล้วพูดว่า “คุณแม่ นี่ยังจะบอกว่าไม่บังคับ มาก็บอกว่าให้ครบกันเลย เราสองคนนอกจากตอนเด็กแล้ว นี่เพิ่งเจอกันครั้งแรกเองนะ”
“เจอกันอีกหลายๆครั้งก็คุ้นเคยกันแล้ว ความรู้สึกต้องค่อยๆศึกษากัน” คุณนายไห่รู้สึกถูกชะตากับเหยนชิงเหยียน อีกอย่างหากเธอดองกับตระกูลเย่ ตนเองที่เป็นแม่ก็นับว่าวางใจได้สักที
ความรู้สึกสามารถค่อยๆศึกษากันได้จริงๆหรือ? ไห่ฉิงฉิงไม่รู้สึกแบบนั้น
มีบางคน ตามจีบเธอมาตั้งนานหลายปีแล้ว เธอก็ยังไม่มีความรู้สึกใดใด และมีบางคน.....เช่นคนที่ชื่อเชอเฮ่า ถึงจะเคยเห็นแค่สองครั้ง เธอก็เหมือนดั่งต้องมนต์ รู้สึกสนใจอย่างประหลาด
เธอถึงขั้นมีความคิดที่แปลกประหลาดว่า รู้อย่างนี้ ไม่เอาเรื่องที่เขาตามหาเซี่ยชีหรั่นบอกกับไห่ลี่หมินแล้ว แบบนั้นเขาจะทำเหมือนกับที่พูดว่า จะมาตามเธอทุกคืน
บางทีความคิดนี้ของเธอ อาจจะเป็นเพียงชั่วขณะ ปกติเธอก็เป็นแบบนี้อยู่แล้ว หลงใหลอะไรขึ้นมา ก็จะหลงระเริง เหมือนกับนักร้องจรจัด ตอนนั้นเธอก็หลงใหลมากไม่ใช่หรือ? แต่นี่นานแค่ไหนเอง เธอก็ลืมไปจนหมดแล้ว
เหยนชิงเหยียนก็เห็นว่าไห่ฉิงฉิงไม่เลว แต่เขารู้สึกว่าถึงแม้ตอนนี้เขาเป็นคนของตระกูลเย่แล้ว แต่ยังไงเขาก็ไม่ได้เติบโตอยู่ในตระกูลเย่ ส่วนไห่ฉิงฉิงดูก็รู้ว่า เติบโตมากับชนชั้นสูง อาจจะไม่ชอบเขา เขาไม่ได้ดูถูกตัวเอง แต่เข้าใจว่าทุกคนบนโลกนี้มีมาตรฐานในการคิดและตัดสินเป็นของตัวเอง คติที่มีเป็นอะไรที่เปลี่ยนแปลงยาก
เรื่องที่ไม่ชื่นมื่นขอให้ไม่ต้องเกิดขึ้นดีกว่า ดังนั้นเขาจึงยิ้มพูดว่า “อย่าให้ฉิงฉิงต้องลำบากใจเลยครับ เธอโตแล้ว คงมีคนรู้ใจแต่แรกแล้วครับ”
ผู้ใหญ่ทั้งสองก็ไม่พูดถึงเรื่องนี้อีก คนหนุ่มสาวมีความคิด ความต้องการเป็นของตัวเอง พวกเธอเข้าใจ และจะไม่บีบบังคับ
หลังจากที่หลายคนพูดคุยกันไปแล้วสักพัก ฝู้เฟิ่งหยีก็พูดกับเย่เชินหลินเรื่องหนึ่งขึ้นมา อย่างไม่ได้ตั้งใจ
“หลินเอ๋อ ได้ยินมาว่า หลานชายประธานนายท่านส้งล่วงเกินลูกหรือ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน
พิมพ์คำหรือประโยคตกไปเยอะคะ อ่านแล้วงงคะ ขอบคุณที่เอามาลงให้อ่านนะคะ...