สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน นิยาย บท 48

สรุปบท ตอนที่ 48 หมั้นหมาย: สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

อ่านสรุป ตอนที่ 48 หมั้นหมาย จาก สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน โดย จิ่วเยวี่ยเตอเถาจื่อ

บทที่ ตอนที่ 48 หมั้นหมาย คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายโรแมนซ์ สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย จิ่วเยวี่ยเตอเถาจื่อ อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ตอนที่ 48 หมั้นหมาย

“คุณผู้หญิง คุณหนูส้งคะ ขอบคุณสำหรับความห่วงใยของพวกคุณเป็นอย่างมาก ต้องขอโทษด้วยที่สร้างปัญหาให้กับพวกคุณ แต่ดิฉันไม่เป็นไรจริงๆค่ะ ท่านประธานเย่ใกล้จะมาถึงแล้ว อาหารเย็นก็ใกล้จะเริ่มแล้ว ได้โปรดอย่าให้ดิฉันคนเดียวไปทำลายงานเลี้ยงวันเกิดของคุณเย่เลยค่ะ”

ส้งหลิงหลิงทนต่อไปไม่ไหว เธอได้แสดงความห่วงใยต่อคนรับใช้ของตระกูลเย่ออกมา จากนั้นก็ไม่พูดอะไรขึ้นมาอีก

“ก็ดี แต่ถ้าคิดว่าไม่ไหว ก็บอกท่านพ่อบ้านได้ตลอดเวลา ให้เขาพาไปหาหมอแล้วกัน”

ฝู้เฟิ่งหยีพูดจบก็ก้มลงมองนาฬิกาข้อมือ แล้วพูดกับส้งหลิงหลิง “ยืนมาตั้งนาน เหนื่อยแล้วใช่มั้ยลูก? รีบนั่งลงก่อน รออีกสักพัก พ่อของโม่เอ๋อก็จะมาแล้ว”

ไม่มีใครกังวลต่อเซี่ยชีหรั่นอีก เธอยืนข้างส้งหลิงหลิงอย่างเงียบๆ พยายามทนต่ออาการวิงเวียนศีรษะและคลื่นไส้ รอคอยการมาของท่านประทานอย่างเงียบๆ

ไม่นาน รถของท่านประทานเย่ก็เข้ามาจอดหน้าประตูใหญ่ การ์ดหน้าประตูรายงานต่อท่านพ่อบ้าน “รถมาถึงแล้ว”!”

ท่านพ่อบ้านรายงานต่อฝู้เฟิ่งหยีและเย่เชินหลินอย่างนอบน้อม “รถของท่านประทานเย่มาถึงแล้วครับ!”

“โม่เอ๋อ?” ความหมายที่ฝู้เฟิ่งหยีต้องการจะสื่อคืออยากให้เขาออกไปต้อนรับ ถึงยังไงเขาก็เป็นลูกของเขา

สีหน้าขอเย่เชินหลินนิ่งขึ้นมา

“เขาไม่อยากเข้ามา ก็ไม่ต้องเข้ามา!” น้ำเสียงของเขาก็เย็นชาเช่นเดียวกัน

ส้งหลิงหลิงไม่รู้ถึงความขุ่นเคืองของพวกเขาสองพ่อลูก เธอลุกขึ้นมาแล้วเอ่ยเสียงหวานกับเย่เชินหลิน “เชินหลินคะ พวกเราไปรับคุณลุงด้วยกันดีมั้ยคะ?”

“นั่งลง! ไม่จำเป็น!”

เขาไม่เคยพูดแบบนี้กับส้งหลิงหลิง หน้าของเธอแดงขึ้นมาในทันใด และยังเป็นฝู้เฟิ่งหยีที่เอ่ยปากกู้สถานการณ์ขึ้นมา

“หลิงหลิงหนูนั่งลงเถอะ เขาไม่ได้สั่งหนูหรอกนะลูก เป็นเขากับพ่อของเขามีเรื่องเคืองใจกันน่ะ”

หล่อนตบลงบนมือของส้งหลิงหลิงเบาๆ แล้วหันไปพูดกับท่านพ่อบ้าน “ช่างมันเถอะ ท่านพ่อบ้านนำพวกสาวใช้ไปต้อนรับหน่อยแล้วกัน”

การมาของท่านประธานเย่ราวกับมีเข็มฉีดเพิ่มแรงใจให้เซี่ยชีหรั่นขึ้นมา ราวกับร่างกายของเธอที่ทั้งร้อนทั้งปวดเมื่อยหายขึ้นมาทันที ทันใดนั้นก็มีความรู้สึกที่แสงแห่งความหวังใกล้เข้ามาแล้ว รวมถึงเรื่องที่ไม่สบายใจ และรวมไปถึงน้ำตาที่คอยปลอบประโลมจิตใจ ความอดทนที่อัดอั้นเอาไว้

เธอเตรียมเดินตามท่านพ่อบ้านออกไปต้อนรับท่านประทาน ได้ยินเย่เชินหลินเอ่ยเสียงเย็นขึ้นมาอีกครั้ง

“ใครก็ไม่อนุญาตให้ไปต้อนรับทั้งนั้น!”

“โม่เอ๋อ!” ฝู้เฟิ่งหยีไม่พอใจขึ้นมา ทุกคนมองไปที่ใบหน้าของเย่เชินหลิน มองเขาที่ไม่พอใจกว่าเดิม

“คุณแม่ อย่าลืมนะครับ ว่าวันนี้ไม่ใช่วันเกิดผมคนเดียว”

เขาพูดจบ คิ้วของฝู้เฟิ่งหยีกระตุกขึ้นมา จากนั้นก็เม้มริมฝีปากแน่น

“เสิร์ฟอาหาร!” เย่เชินหลินออกคำสั่งออกมา

“ครับ คุณเย่!”

ท่านพ่อบ้านรับคำสั่งของเย่เชินหลินพร้อมกระจายมันออกไป เหล่าสาวใช้เริ่มยกอาหารออกมาจากห้องครัว

“แม่ครับ แม่นั่งลง!” เย่เชินหลินยืนขึ้นประคองร่างของมารดา ให้แม่ของเขานั่งลงตรงตำแหน่งที่สำคัญที่สุด จัดตำแหน่งอย่างชัดเจนเพื่อให้ท่านประธานเย่อึดอัดใจ ที่ต้องนั่งในตำแหน่งที่นั่งรองลงมา

ส้งหลิงหลิงอยากจะพูดบางอย่างออกมา เห็นสีหน้าของเย่เชินหลินที่แสดงออกมา ก็ไม่กล้าที่จะพูดออกมา

ทั้งสามคนต่างคนต่างนั่งลง อาหารยังคงเสิร์ฟลงมาอย่างต่อเนื่อง ภายในใจของเซี่ยชีหรั่นก็คิดว่าทำไมท่านประธานเย่ยังไม่มาอีกนะ

ในขณะที่เธอกำลังตกอยู่ในห้วงความคิด ทันใดนั้นเองก็ได้ยินเสียงการ์ดที่อยู่หน้าประตูรายงานออกมา “คุณเย่ครับ เลขาของท่านประทานเย่มาแล้วครับ”

เลขา? รถมาถึงแล้ว นี่คงไม่ใช่ว่าตัวเขาจะยังมาไม่ถึงหรอกนะ? ทุกคนล้วนรู้สึกแปลกใจมาก ร่วมกันมองไปยังประตูทางเข้า ที่แท้ก็เห็นเพียงชายที่มีอายุประมาณสามสิบกว่าปีที่สวมเสื้อเชิ้ตสีขาวคนหนึ่งรออยู่ด้านนอก มีท่านประธานที่ไหนกัน?

หรือว่าท่านประธานจะไม่มา? เซี่ยชีหรั่นรู้สึกผิดหวังขึ้นทันควัน ถึงขั้นรู้สึกไร้เรี่ยวแรงจนยืนต่อไม่ไหวอีกแล้ว

“ให้เขาเข้ามา!”

เย่เชินหลินออกคำสั่งออกมา การ์ดที่หน้าประตูนำเลขาของท่านประธานเย่เข้ามาในห้องโถง จนมาถึงหน้าโต๊ะทานข้าว

ในมือของเขาถือกล่องสีเงินกล่องนึง ยืนด้านหน้าของฝู้เฟิ่งหยีและเย่เชินหลิน เอ่ยปากพูดออกมา “สวัสดีครับคุณผู้หญิง! สวัสดีครับคุณเย่ ท่านประทานเย่ได้ออกเดินทางมาแล้ว แต่ขณะที่เดินทางมาก็ได้รับคำสั่งด่วนเข้ามา จะต้องรีบไปเข้าประชุมด่วนที่ปักกิ่ง เขารู้สึกเสียใจอย่างมากที่ไม่สามารถมาหาคุณเย่ได้ เลยบอกผมว่าจะต้องเอาของขวัญวันเกิดของคุณเย่ที่เขาตั้งใจเตรียมเป็นพิเศษมาให้กับคุณเย่ด้วยตัวเองครับ แล้วยังฝากสุขสันต์วันเกิดคุณเย่ด้วยครับ!”

เขาพูดจบ ก้มหัวลงแล้วเอาของขวัญมอบให้กับเย่เชินหลิน

เย่เชินหลินไม่ได้ยื่นมือออกไปรับ แต่ส่งสายตาไปยังท่านพ่อบ้านที่ยืนอยู่ไม่ไกล แล้วถามเขา “ท่านพ่อบ้าน ผมจำได้ว่าเมื่อสองปีก่อนได้กำเนิดลูกชายหนึ่งคนใช่มั้ย?”

ทุกคนไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร แต่ก็ไม่มีใครแทรกขึ้นมา ท่านพ่อบ้านตอบกลับมาทันที “ครับ คุณเย่ ลูกชายผมสองขวบแล้วครับ”

“ผมยังไม่ได้ให้ของรับขวัญเค้าเลย นี่ครับ ผมฝากให้เขาด้วย ท่านพ่อบ้านเก็บเอาไว้นะครับ!”

สีหน้าของเลขาของท่านประธานเย่แดงขึ้นอย่างทำอะไรไม่ถูกขึ้นมา เขาเงยหน้าขึ้นมองเย่เชินหลินแล้วพูดออกมา”คุณเย่ครับ แต่นี่เป็นกุญแจรถสปอร์ตนะครับ”

สีหน้าของเย่เชินหลินครึ้มขึ้นมา ถามเขา “ทำไมล่ะ? นี่ไม่ใช่ของขวัญที่ให้ฉันหรอกหรอ? ฉันไม่มีสิทธิ์จัดการกับมันหรอ? หรือคุณคิดว่าท่านประธานของพวกคุณจะเสียดายขึ้นมา งั้นคุณเอากลับไปไม่ดีกว่าหรอครับ”

“ไม่ไม่ไม่! ท่านประธานได้บอกแล้วว่า ไม่ว่าจะยังก็จะต้องให้คุณเก็บสิ่งนี้เอาไว้ครับ” เลขาส่ายหน้าอย่างรวดเร็ว ส่งสายตาขอความช่วยเหลือไปยังฝู้เฟิ่งหยี

ผู้ช่วยที่มากับส้งหลิงหลิงเดินตามหลังเธอไปติดๆ ประตูหลักถูกเซี่ยชีหรั่นและซุนเหมิงเหมิงที่ถูกมอบหมายให้ดูแลหล่อนปิดกลับไป จากนั้นก็ยืนห่างออกไปไม่กี่ก้าว

เซี่ยชีหรั่นที่สติยังไม่คืนกลับมาตั้งแต่รู้ว่าท่านประธานไม่ได้มาเข้าร่วมงาน เธอก้มหน้ามองพื้นตลอด

ฝู้เฟิ่งหยีลอบสังเกต แล้วคิดว่าความรู้สึกของเย่เชินหลินยังโอเคอยู่ วันนี้เย่เฮ่าหรันไม่มา เกรงว่าอีกสักพักนึงพวกเขาสองคนพ่อลูกก็ยังยากที่จะคืนดีกัน ดูเหมือนว่าเรื่องการแต่งงานจะมีเพียงความคิดของเธอเพียงคนเดียว

“หลิงหลิง ป้ากับลุงเย่ก็รู้จักหนูมานาน เมื่อคืนป้าก็ได้ถามโม่เอ๋อแล้ว เขาก็ดูเหมือนว่าจะชอบหนูเหมือนกัน ความหมายของป้าก็คือ ป้าอยากเห็นลูกทั้งสองคนแต่งงานกันเร็วๆ หนูคิดว่ายังไงบ้าง?”

ใบหน้าของส้งหลิงหลิงก็แดงก่ำออกมาทันที จากนั้นคำพูดที่เหลือก็เอ่ยออกมาอย่างเกรงอกเกรงใจ เธอได้ยินมันชัดเจน คำพูดที่เธอให้ความสนใจเป็นประโยคที่ว่า “โม่เอ๋อก็ดูเหมือนจะชอบหนูเหมือนกัน”

เธอมองใบหน้าหล่อที่ไร้ที่ติและเห็นเค้าโครงชัดเจนของเย่เชินหลินอย่างเขินอาย อยากจะถามเขาจริงๆว่าเขาชอบเธอจริงหรือเปล่า

สีหน้าแบบนี้พอมองไปแล้วหล่อนก็หลงใหลเขามาก โดยรวมมีเรื่องที่ทำให้ฝู้เฟิ่งหยียินดี

“เชินหลิน วันนี้คุณป้าก็อยู่ด้วย แล้วก็เป็นวันเกิดของคุณด้วย ฉันอยากจะบอกคุณว่า ฉันชอบคุณค่ะ! ฉันยินดีแต่งงานกับคุณค่ะ!”

ส้งหลิงหลิงสารภาพอย่างใจกล้าจนทำให้ฝู้เฟิ่งหยียิ้มออกมาอย่างชื่นชม เย่เชินหลินแสยะยิ้มมุมปากอย่างเรียบเฉย

เขาไม่รู้ว่าทำไมตอนที่ส้งหลิงหลิงกำลังสารภาพรัก สายตาของเขาถึงมองไปยังใบหน้าของเซี่ยชีหรั่นแวบนึง

ผู้หญิงน่าตายที่ก้มหน้ามองพื้นอย่างเหม่อลอย ดูเหมือนว่าคำพูดยาวเหยียดของส้งหลิงหลิงก็ไม่ส่งผลให้มีปฏิกิริยาตอบกลับมา

ถ้ามีคนสารภาพรักต่อไห่ลี่หมิน แล้วถ้าไห่ลี่หมินจะต้องแต่งงาน เธอจะยังนิ่งอยู่แบบนี้หรือเปล่า?

ส้งหลิงหลิงเห็นรอยยิ้มที่หายากจากเย่เชินหลิน ออดอ้อนเขาอย่างใจกล้า

“แต่คุณไม่เคยบอกชอบฉันมาก่อน แกล้งกันเกินไปแล้ว!”

ทุกคนให้ความสนใจไปที่ร่างของเย่เชินหลิน คิดว่ามีผู้หญิงที่ทั้งสวย น่ารักแล้วยังแต่งตัวดูดีมาบอกแบบนี้มันก็ยากที่จะปฏิเสธออกไป เขาควรจะพูดอะไรในแง่ดีออกไป

ใครจะรู้ว่าเขากลับถามกลับมาอย่างเฉยชา”เธอชอบผู้ชายที่มักมีคำพูดชวนอ้วกอยู่ตลอดแบนั้นหรอ?”

ส้งหลิงหลิงยิ้มออกมาเล็กน้อย เอ่ยออกมาอย่างคนเง้างอน “ไม่พูดก็ไม่พูด เค้าก็ไม่ได้อยากฟังซะหน่อย ยังไงก็แค่อยู่ในใจของคุณก็พอแล้ว”

“เด็กน่าตายคนนี้ปากแข็งเสียจริง เป็นธรรมชาติของผู้ชาย หลิงหลิงต่อไปก็ยอมเขาสักหน่อยนะ คงเป็นเพราะฉันทำให้เขานิสัยเสียด้วยแหละ” ฝู้เฟิ่งหยีตอบยิ้มๆอย่างรักใคร่เอ็นดู

ครั้งนี้ก็ถึงคราวของส้งหลิงหลิงที่พูดแทนเย่เชินหลินออกไป

“คุณป้าคะ เชินหลินเค้าเป็นคนไม่เหมือนกับคนอื่นยังไงล่ะคะ นี่เป็นเพราะยีนจากคุณป้าดี การศึกษาก็ดี เขาจะพูดคำเหล่านั้นหรือเปล่า มันไม่มีอะไรที่จะต้องกังวลเลยค่ะ หนูไม่สนใจอยู่แล้ว”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน