ตอนที่ 484 สาวใช้ตัวแสบ 388 – ตอนที่ต้องอ่านของ สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน
ตอนนี้ของ สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน โดย จิ่วเยวี่ยเตอเถาจื่อ ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายโรแมนซ์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 484 สาวใช้ตัวแสบ 388 จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
ตอนที่ 484 สาวใช้ตัวแสบ 388
สำหรับหลี่เหอไท้ แล้ว หลี่เหอไท้สนิทสนมมากกว่าแม่แท้ๆ ของเขาอีก เขาไม่เคยเห็นแม่แท้ๆของตัวเองด้วยซ้ำ ในความทรงจำ ไม่ว่าเขาจะทำอะไรผิดร้ายแรงมากแค่ไหน ทั้งหมดก็มีเพียงแม่เลี้ยงที่ใจกว้าง และให้อภัยเสมอคนนี้
สิ่งที่เธอมอบให้เขานั้นมากมายเหลือเกิน อ้อมกอดที่อบอุ่น ความสบายใจที่เกินบรรยาย แม้แต่หลักการชีวิตของเขาก็มีแม่เลี้ยงเป็นคนสอนทั้งหมดเลย คุณพ่องานยุ่งตลอดทั้งปี ช่วงเวลาที่เขาได้เห็นหน้าพ่อนั้นมันช่างน้อยและน้อยมากจริงๆ
ที่ผ่านมาแม่เลี้ยงไม่เคยไปทำงาน เธอได้มอบความรัก และความเอาใจใส่นี้ให้เขาทั้งหมดเลย ตอนเด็กๆ เขานั้นไร้เดียงสาไม่รู้อะไรเลย เมื่อได้ยินคนอื่นพูดว่าเธอนั้นเป็นแม่เลี้ยง ทุกคนต่างก็บอกว่าแม่เลี้ยงก็คือผู้หญิงที่ร้ายกาจ ดังนั้นสิ่งที่เธอปรารถนาดีต่อเขา ทั้งหมดถูกเข้าใจว่าเป็นการเสแสร้ง โดยเฉพาะในช่วงวัยรุ่น เขามักจะหยิ่งและหยาบคายมาก แม่เลี้ยงไม่ใส่ใจกับความใจแคบและโหดร้ายของเขาเลยแม้แต่น้อย แต่กลับตามใจและบังคับไปพร้อมกัน ช่วยดึงเขาที่ออกไปนอกเส้นทางไกลแสนไกล กลับมาสู่ในเส้นทางหลัก
เธอเป็นผู้หญิงที่ดีมาก ในสายตาและในหัวใจของหลี่เหอไท้ เธอได้ก้าวข้ามคำว่าแม่ไปไกลมากแล้ว เขานั้นได้มองเธอความรู้สึกเคารพ และชื่นชม
เธอไม่เคยโกรธเคืองใครเลย ในสายตาของเธอ ทุกคนต่างก็เป็นคนดี ทำไมตอนที่เธอได้พบกับพานหยูถึงได้ขมวดคิ้วกัน?
หรือว่าพวกเธอรู้จักกัน?
จนถึงตอนนี้พานหยู และเซี่ยชีหรั่นนั้นก็มีความสัมพันธ์เป็นแม่ลูกกันกับ ภรรยาของเสนาธิการหลี่ หลังจากที่เธอถูกพ่อกับแม่พากลับไปเมื่อครั้งก่อน คุณพ่อก็ได้ดุด่าว่ากล่าวเธอไปยกใหญ่ ต่อมาเธอก็ได้ยินข่าวเรื่องที่เซี่ยชีหรั่นกับภรรยาของเสนาธิการหลี่มีใบหน้าคล้ายกันมาก จากปากของคุณแม่ แต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นความสัมพันธ์แบบไหน เธอเองก็ไม่ได้ถามอย่างจริงจังอะไร
ตอนนี้เมื่อเธอเห็นจ้าวเหวินอิง ขมวดคิ้ว ถึงได้นึกถึงเรื่องที่เธอทำให้เซี่ยชีหรั่นอึดอัดใจเมื่อคราวก่อนขึ้นมา เกรงว่าแม่ของเธอก็เห็นแล้วเหมือนกัน
เธอเสียใจจริงๆ น่าเสียดายเรื่องที่ผ่านมามันก็ผ่านไปแล้ว ถึงเธอจะมาเสียใจทีหลังมันก็ไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว
“สวัสดีค่ะคุณลุง! สวัสดีค่ะคุณป้า! ฉันชื่อพานหยู ยินดีที่ได้พบนะคะ” พานหยูยิ้มทักทายเสนาธิการหลี่และภรรยาอย่างสุภาพ
“สวัสดี!” เสนาธิการหลี่ได้กลับมาเป็นปกติตั้งนานแล้ว และได้กล่าวตอบเธอพร้อมกันกับจ้าวเหวินอิง
ไม่ว่ายังไงจ้าวเหวินอิงก็ไม่มีทางไม่ไว้หน้าลูกชายหรอก เขาเป็นคนยังไง เธอที่เป็นแม่เลี้ยงรู้ดีที่สุด ถ้าปกติผู้หญิงคนนี้ไม่ประพฤติผิด เขาจะต้องคิดอย่างรอบคอบก่อนแน่ ไม่จำเป็นให้เธอต้องพูดมาก
“ชีหรั่น การเข้าใจผิดครั้งก่อนต้องขอโทษด้วยจริงๆ ยินดีกันคุณ และเชินหลินด้วยนะ!” พานหยูรู้ว่าเรื่องที่แม่เลี้ยงของหลี่เหอไท้ไม่พอใจเธอทั้งหมดเกิดจากเซี่ยชีหรั่น ดังนั้นเธอจึงกล่าวขอโทษเซี่ยชีหรั่นอีกครั้ง พยายามย้อนกลับภาพลักษณ์ของเธอ
“ขอบคุณ!” เซี่ยชีหรั่นตอบด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่น
หลี่เหอไท้ไม่ได้พูดอะไรมาก เขาน่าจะเข้าในแล้วว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น นี่คืองานเลี้ยงงานหมั้นของเซี่ยชีหรั่นกับเย่เชินหลิน เรื่องบางเรื่องก็ไม่เหมาะที่จะคุยกันตอนนี้
จ้าวเหวินอิงและเสนาธิการหลี่คู่สามีภรรยาได้กล่าวอวยพรให้กับเซี่ยชีหรั่น และเย่เชินหลินอีกครั้งเสร็จแล้ว ก็คิดว่าจะจากไปเลย ก่อนไปจ้าวเหวินอิงยังได้กระซิบที่ข้างหูของลูกสาวว่า: “ตอนนี้เธอกับเขาเป็นสามีภรรยากันอย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้ว ต่อจากนี้ไปอยากจะมาอยู่กับแม่ที่บ้านหรือว่าจะไปอยู่ที่บ้านตระกูลเย่ ก็แล้วแต่ที่เธอเลยนะ”
ใบหน้าเล็กๆ ของเซี่ยชีหรั่นเริ่มแดงขึ้น ราวกับว่าเธอรอคอยที่จะได้พลอดรักอย่างหอมหวานกับเย่เชินหลินมานานแล้ว แต่ถูกแม่มาแอบเห็นเข้า
แม่ของเธอคือคนที่เคยผ่านจุดนั้นมาก่อน ทำไมจะไม่เข้าใจความรู้สึกของเธอหละ ดังนั้นทุกครั้งที่เย่เชินหลินมาที่บ้าน เธอจึงมักจะต้อนรับเขาด้วยความร่าเริงแจ่มใส เธอเพียงแค่ไม่ต้องการให้ทั้งสองคนนั้นท้องก่อนแต่งงาน กลัวว่าลูกจะเดินตามรอยของเธอ เมื่อมองดูตอนนี้ เย่เชินหลินนั้นต่างจากจงหวีฉวนในตอนนั้นอย่างสิ้นเชิง การที่ฝากลูกสาวไว้กับเขา เธอวางใจแล้ว
“ขอบคุณนะ เย่เชินหลิน ขอบคุณที่คุณดีกับลูกสาวของฉันมากขนาดนี้!” จ้าวเหวินอิง ยกแก้วขึ้นก่อน นับว่าเป็นการเคารพให้ลูกเขยหนึ่งแก้ว
“มันเป็นเรื่องที่สมควรอยู่แล้ว ผมยังทำได้ไม่ดีเท่าไหร่ ถ้าหากว่าคุณเห็นสิ่งไหนที่ผมทำผิดพลาดไป ก็หวังว่าคุณจะช่วยแนะนำผมด้วยนะครับ ผมจะแก้ไขแน่นอน” เย่เชินหลินพูดอย่างถ่อมตน ทัศนคติของเขาทำให้หัวใจของเซี่ยชีหรั่นรู้สึกถึงความสุขที่เกินคำบรรยายอีกครั้ง
“มีสิ่งไหนที่ทำไม่ถูก ฉันจะแนะนำแน่นอน นี่คือสิ่งที่คนเป็นแม่ทุกคนจะต้องทำ ถึงตอนนั้น หวังว่าคุณจะไม่คิดว่าฉันรำคาญก็พอ” จ้าวเหวินอิงพูดเสียงเบา
“ไม่กล้าครับ!” เย่เชินหลินพูดออกมาแค่สามคำเท่านั้น และสามคำนี้สำหรับเซี่ยชีหรั่นแล้ว เย่เชินหลินในอดีตไม่มีทางพูดมันออกมาแน่นอน
“ยังไงคุณก็ไม่กล้า เธอเป็นถึงลูกสาวที่รักของผมนะ คุณลองปล่อยให้เธอได้เป็นทุกข์สักนิดสิ ผมจะทำให้บ้านพวกคุณราบไปเลย!” เสนาธิการหลี่ตบบ่าของเย่เชินหลินเบาๆ น้ำเสียงดังและหนักแน่น
“ยิ่งคุณพูดซะขนาดนี้ผมก็ยิ่งไม่กล้าหรอกครับ คุณภรรยาที่รัก อีกหน่อยคุณอย่าไปฟ้องเรื่องของผมเด็ดขาดเลยนะ ชายชราคนนี้น่าทึ่งมากจริงๆ” เย่เชินหลินพูดอย่างสนุกสนาน เซี่ยชีหรั่นเชยคางขึ้นอย่างภาคภูมิใจ
หลังจากคนชราทั้งสองจากไป เย่เชินหลินจึงจะกระซิบเบาๆ ที่ข้างหูเธอ: “ภรรยาชีหรั่น ผมสัญญาว่าจะทำให้คุณพึงพอใจในทุกอย่าง ทุกวัน คุณอย่าไปฟ้องพ่อคุณนะ ผมกลัว”
ใบหน้าเล็กๆ ของเซี่ยชีหรั่นถูกเขาพูดจนร้อนไปหมดอีกครั้ง คิดถึงเรื่องเมื่อวานที่ถูกเขาครอบครองทั้งวัน ทันทีที่เขามีคำบอกใบ้ถึงเรื่องนี้ เธอก็จะเริ่มรู้สึกขาอ่อนไปหมด
เธอหยิกแขนของเขาเบาๆ และจ้องมองเขาอย่างเขินอาย แต่กลับไม่รู้เลยว่า สายตาคู่นี้จะทำให้ใครบางคนอยากที่จะเข้าห้องเธอเลยทันที
คนทั้งสองกำลังหยอกล้อกันอย่างมีความสุขอยู่ตรงนี้ กลับมองเห็นครอบครัวของประธานจงพากันเดินตรงเข้ามาหา
จริงๆ แล้วประธานจงไม่เคยไว้หน้าคนที่อายุน้อยกว่ามากขนาดนี้มาก่อน อย่างไรตอนนี้ฐานะของเซี่ยชีหรั่นก็เป็นถึงลูกสาวของเสนาธิการหลี่ นั่นคือสถานะอะไร เสนาธิการหลี่มีฐานะสูงกว่าประธานอย่างเขาไม่รู้กี่เท่า
ครั้งก่อนที่เขาได้ทะเลาะกับเย่เชินหลิน เหตุผลหลักก็คือกลัวเย่เชินหลินข่มขู่ให้เขายอมรับลูกสาว เขาสั่งไห่ลี่หมิน ให้เขาทำให้เส้นสายตานั้นปลอดภัยมากยิ่งขึ้นหน่อย
สมัยก่อนเรื่องที่ไห่ลี่หมิน เป็นนกสองหัวไม่มีหลักการ เขาเองก็รู้เรื่องไม่น้อย
ความโกรธนี้ เธอกลัวว่าจะกลืนไม่เข้าแล้วจริงๆ !
เธอไม่เชื่อหรอกว่า ด้วยความสามารถทางครอบครัวของแม่เธอ ด้วยฐานะของจงหวีฉวนในมณฑลตงเจียง จงหยุนซางจะด้อยไปกว่าเซี่ยชีหรั่น และต้องมองดูผู้ชายที่เธอรักไปอยู่กับผู้หญิงคนอื่นตลอดไป!
ของเพียงได้มีโอกาสเพียงเล็กน้อย เธอก็ไม่มีทางปล่อยมันไปแน่นอน เธอจะต้องทำให้ลูกสาวได้ก้าวเข้าไปในตระกูลเย่อย่างชอบธรรมให้ได้
“เหนื่อยไหม? ถ้าเหนื่อยก็ไปนั่งพักตรงนั้นก่อน ใกล้จะดื่มขอบคุณหมดแล้ว” เย่เชินหลินกอดเอวของเซี่ยชีหรั่น หาที่ที่ค่อนข้างเงียบสงบ และนั่งลง
ร่างกายของเซี่ยชีหรั่นปวดเมื่อยอย่างรุนแรง จนใกล้จะอ้าปากหาวแล้ว
เย่เชินหลินรู้สึกว่าเขานิสัยไม่ค่อยดีเลยจริงๆ เมื่อเห็นท่าทางที่เหนื่อยล้าของเธอ เขากลับรู้สึกภูมิใจมาก มีเพียงเขาเท่านั้นที่สามารถทำให้เธอต้องเหนื่อยขนาดนี้ มีเพียงเขาเท่านั้นที่สามารถครอบครองเธอ ให้เธอลงจากเตียงไม่ได้
เมื่อมองเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของเขาแล้ว เซี่ยชีหรั่นอยากจะหยิกแขนเขาอีกครั้งจริงๆ แต่น่าเสียดายที่เธอไม่มีเรี่ยวแรงจะหยิกเขาแล้ว
“เชินหลิน ชีหรั่น ขอแสดงความยินดีกับพวกคุณด้วยนะ!” รองประธานส้งและภรรยาเดินเข้ามา เขาเป็นคนที่มองทิศทางลมเก่งที่สุด
ระยะห่างที่ตระกูลส้ง และตระกูลเย่ยกเลิกงานหมั้น ก็ผ่านมาหลายเดือนแล้ว คู่สามีภรรยาก็ได้มั่นใจแล้วว่าลูกสาวไม่ได้มีใจที่คิดจะแย่งชิง แล้วพวกเขาจะสร้างศัตรูเพิ่มขึ้นทำไม ดังนั้นในตอนที่กล่าวยินดีตอนนี้ จึงมองไม่เห็นถึงความลังเลเลย
“เมื่อวานเมื่อได้รับคำเชิญ พวกเราก็ได้โทรไปหาหลิงหลิง เธอยังอยู่ที่ต่างประเทศจึงกลับมาไม่ทัน แต่อย่างไรก็ตามเธอก็ได้ฝากคำแสดงความยินดีมากับพวกเราด้วย ขอแสดงความยินดีด้วย!” นายหญิงส้งพูดขึ้นเสียงเบา
ในตอนนี้เวลานี้ ทุกคนต่างก็ไม่คาดคิดว่า ส้งหลิงหลิงที่ท้องโตแล้วกำลังนั่งอยู่บนเครื่องบินที่มุ่งหน้ากลับเข้าประเทศ
เมื่อได้รับโทรศัพท์จากแม่ เธอเกลียดจริงๆ ที่ตัวเองกลับไปช้า ไม่สามารถอุ้มท้องโตๆ ไปปรากฏในงานหมั้นของพวกเขา ช่างเป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่สุดในชีวิตจริงๆ
หลังจากนั้น เธอก็ค่อยๆ สงบลง เธอคิดว่าเซี่ยชีหรั่นคงจะมีความสุขมากจนจะตายแล้ว คิดว่าเธอคือผู้หญิงที่โชคดีที่สุดในโลกใบนี้ จริงไหม?
เธอจะให้เธอได้มีความสุข!
เซี่ยชีหรั่นเมื่อคุณได้เห็นทองของฉันแล้ว ฉันจะรอดูว่าคุณจะยิ้มออกมายังไง......
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน
พิมพ์คำหรือประโยคตกไปเยอะคะ อ่านแล้วงงคะ ขอบคุณที่เอามาลงให้อ่านนะคะ...