สรุปเนื้อหา ตอนที่ 586 สาวใช้ตัวแสบ 490 – สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน โดย จิ่วเยวี่ยเตอเถาจื่อ
บท ตอนที่ 586 สาวใช้ตัวแสบ 490 ของ สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน ในหมวดนิยายโรแมนซ์ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย จิ่วเยวี่ยเตอเถาจื่อ อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
ตอนที่ 586 สาวใช้ตัวแสบ 490
“เขายังไม่ยอมอีกหรือ? ดูเหมือนว่าเขาอยากจะอยู่อย่างโดดเดี่ยวเดียวดาย สมน้ำหน้าเขา เธออย่าไปสนใจเขา ให้เขาห่างไกลได้เท่าไรยิ่งดี” ด้วยอารมณ์โกรธเย่เฮ่าหรันดุด่าไปประโยคหนึ่ง
“พ่อ ท่านอย่าโกรธเขาเลย เขาก็ลำบากไม่น้อย” เซี่ยชีหรั่นเกลี้ยกล่อมด้วยน้ำเสียงต่ำๆ ฝู้เฟิ่งหยีถอนหายใจ แล้วแตะที่มือของเซี่ยชีหรั่น แล้วพูดว่า “เธอต้องการให้แม่ช่วยอะไร เธอก็บอกมาเถอะ”
“แม่ ท่านสามารถพาฉันไปที่บ้านพักไหม? เขาไม่ให้ไป” เซี่ยชีหรั่นรู้ว่าเย่เชินหลินต้องเชื่อฟังคุณแม่ ดังนั้นหากไปบ้านพักกับคุณแม่ของเขา เขาจะห้ามเธอไม่ได้
“ได้ แม่จะพาเธอไปเดี๋ยวนี้เลย ท่านเย่ คุณเรียกแท็กซี่กลับเองนะ รถของคุณให้ฉันใช้ก่อน” ฝู้เฟิ่งหยีพูดจบ แล้วก็จูงมือเซี่ยชีหรั่นลุกขึ้น
โม่เสี่ยวหนงฟังพวกเขาสนทนาอย่างเงียบๆ โดยไม่ได้ขัดจังหวะ
เมื่อเห็นว่าเซี่ยชีหรั่นจะไปแล้ว เธออยากจะเสนอหน้าต่อหน้าเย่เฮ่าหรันเขาสองสามีภรรยา ก็เลยลุกขึ้นตาม และพูดอย่างรีบร้อนว่า “พี่ รอก่อน ฉันจะไปบ้านพี่ด้วย คุณส้งคนนั้นมีความคิดแยบยลมาก ฉันเกรงว่าเธอจะทำให้พี่ลำบากใจ ฉันอยู่เคียงข้างพี่ก็จะได้ดูแลพี่ด้วย”
“เธอว่าอะไรนะ? ส้งหลิงหลิงอยู่ที่บ้านพักหรือ?” เย่เฮ่าหรันถามด้วยคิ้วขมวด โม่เสี่ยวหนงพยักหน้า กำลังจะพูดว่าใช่ เซี่ยชีหรั่นรีบส่งสายตาด้วยการขยิบตาให้เธอ ไม่ให้เธอพูด
ได้ยินว่าสุขภาพของเย่เฮ่าหรันกระตุ้นด้วยอารมณ์โกรธไม่ได้ เธอจึงไม่กล้าบอกให้เขารู้มากเกินไป
“พ่อ ท่านอย่าไปฟังเสี่ยวหนง เธอได้ยินมาผิด”
“ไร้สาระ ชักจะกำเริบเสิบสานแล้ว ฉันไม่อยากจะเชื่อเลย ว่าเรื่องของตระกูลเย่มีแต่เย่เชินหลินคนเดียวที่ตัดสินใจเอง” เย่เฮ่าหรันโกรธจนตบโต๊ะชาไปสองครั้ง ใช้เวลาตั้งนานถึงจะสงบสติอารมณ์
ฝู้เฟิ่งหยีรีบปล่อยมือเซี่ยชีหรั่น โน้มตัวเข้าเกลี้ยกล่อมเขา
“ท่านเย่ คุณอย่าทำแบบนี้ เราคุยกันแล้วไม่ใช่หรือว่าจะไม่โกรธลูกขนาดนี้?” เธอลูบหน้าอกของเย่เฮ่าหรันเบาๆ จ้าวเหวินอิงรีบใช้ให้แม่บ้านให้ไปรินน้ำมา เธอเองก็เกลี้ยกล่อมอยู่ข้างๆ
“ท่านประธานเย่ คุณสงบสติลงบ้างนะค่ะ”
“พ่อ ไม่ต้องกังวลนะคะ เรื่องราวไม่ได้เป็นอย่างที่ท่านคิด ท่านสงบสติอารมณ์แล้วฉันจะค่อยพูดให้ท่านฟัง” เซี่ยชีหรั่นก็ยืนอยู่เหนือโซฟาอีกฝั่งคอยปลอบโยน
สีหน้าของเย่เฮ่าหรันบวมแดง มือที่สั่นรับน้ำจากจ้าวเหวินอิงที่ส่งผ่านมาจากแม่บ้าน หลังจากที่ดื่มไปสองคำเขาถึงจะค่อยๆสงบลงบ้าง
ช่วงนี้สุขภาพเขาก็ไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว เมื่อก่อนถึงแม้ว่าเขาเป็นคนอารมณ์ร้อน ไม่คุ้มที่มาโกรธเพียงเล็กน้อยแล้วมีอาการตอบสนองหนักแบบนี้
“แม่ พวกเราพาพ่อไปหาหมอที่โรงพยาบาลเถอะ” เซี่ยชีหรั่นพูดด้วยน้ำเสียงเบาๆ
เย่เฮ่าหรันที่สงบสติลงมาพูดด้วยน้ำเสียงต่ำๆว่า “ไม่ไปหาหมอ ไปบ้านพักเดี๋ยวนี้ ใครหน้าไหนก็อย่ามาขวาง ฉันจะไปดูเย่เชินหลินด้วยตาตนเองว่าที่สุดแล้วจะสามารถทำเรื่องบัดซบได้มากขนาดไหน ”
ฝู้เฟิ่งหยีรู้ดีว่าในเวลานี้ได้แต่เพียงทำตามความคิดของเขา เธอปลอบโยนเขาอยู่ข้างๆ “โอเค คุณบอกไปพวกเราก็จะไป แต่ว่าคุณต้องรับปากฉัน คุณสอนลูก ดุด่าเขา ทุบตีเขา ฉันก็ไม่ขัดข้อง คุณบันดาลโทสะอีกไม่ได้แล้วนะ ไม่อย่างนั้นฉันจะไม่ให้คุณไปด้วย”
อย่างไรก็ตามเย่เฮ่าหรันก็เป็นถึงผู้ว่าราชการมณฑล เวลาโกรธขึ้นมา ระงับความโกรธก็เร็ว
เรื่องนี้ เขาได้ยอมรับอย่างรวดเร็ว ต่อมาก็เป็นเรื่องที่เย่เชินหลินทำเกินไป เขาก็ควรที่จะสงบสติอารมณ์ลงแล้ว
“ไปเถอะ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม
หลายคนนั่งรถของเย่เฮ่าหรันไปยังบ้านพักเย่เชินหลินที่ตั้งอยู่ชานเมือง พอถึงหน้าประตูบ้านพัก แต่กลับเห็นประตูปิดแน่นสนิท รถได้ถูกบังคับให้หยุดทันที
ฝู้เฟิ่งหยีลดกระจกรถลง จ้องมองไปที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยด้วยอารมณ์ที่จริงจัง แล้วออกคำสั่งไปคำหนึ่งว่า “เปิดประตู”
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้เห็นโม่เสี่ยวหนงด้านข้างคนขับแล้ว คิดเดาว่าในรถอาจจะยังมีเซี่ยชีหรั่นอยู่ พวกเขาทำให้ลำบากใจจริงๆ
เย่เชินหลินเคยกำชับแล้ว หากใครปล่อยให้เซี่ยชีหรั่นเข้าประตูมา ใครคนนั้นก็สามารถกลับบ้านได้แล้ว
แต่คราวนี้เซี่ยชีหรั่นมาพร้อมกับนายหญิง ควรทำอย่างไรดี?
......
“เปิดประตู” ฝู้เฟิ่งหยีออกคำสั่งอีกครั้งหนึ่ง เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเดินขึ้นมาข้างหน้า ขอโทษด้วยความเคารพ “ขอโทษครับ ท่านนายหญิง คุณเย่สั่งพวกเราไว้ว่าคุณหนูเซี่ยไม่สามารถเข้าไปในบ้านพักได้ ไม่อย่างนั้นจะไปพวกเราออก”
ปกติแล้วมีแขกมาเยี่ยมบ้านตระกูลเย่ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่เฝ้าหน้าประตูจะเข้าไปรายงานให้กับพ่อบ้านทราบ รอให้พ่อบ้านรายงานกับเย่เชินหลินแล้วถึงจะตัดสินใจปล่อยผ่าน
ฝู้เฟิ่งหยีเป็นแม่ของเย่เชินหลิน ไม่ถือว่าเป็นแขก เขาเคยกำชับเป็นพิเศษว่า หากแม่ของเขามา ต้องปล่อยผ่านไปทันที
นี่เป็นครั้งแรกที่ถูกห้ามไว้นอกประตู ฝู้เฟิ่งหยีคิ้วขมวด เซี่ยชีหรั่นดึงมือเธอเอาไว้ ปลอบโยนด้วยน้ำเสียงเบาๆว่า “แม่ ท่านอย่าโกรธเลยนะ หลินไม่ได้เจาะจงต่อต้านท่าน เขาเพียงแค่ไม่ต้องการให้ฉันเขาไป”
ฝู้เฟิ่งหยีตบมือเธอเบาๆ ส่งสัญญาณว่าเธอไม่เป็นไร
“พูดแบบนี้ เธอคิดว่าฉันไม่มีสิทธิ์ที่จะไล่เธอออกอย่างนั้นหรือ?” ฝู้เฟิ่งหยีถามเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอย่างเย็นชา
“แม่ นี่เป็นบ้านของท่านและประธานเย่ ท่านทั้งสองแน่นอนว่าสามารถเข้าออกได้ทุกเมื่อ แต่ว่า ผู้หญิงที่แซ่เซี่ย ผมไม่ค่อยอยากต้อนรับ เธอได้เลิกกับผมไปแล้ว พวกเราไม่มีความสัมพันธ์กันแล้ว ในบ้านพักผมยังมีผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ลูกของผมอยู่ ไม่อยากให้เธอเข้าไปยั่วยุเขา”
เย่เชินหลินอธิบายให้แม่ฟังด้วยน้ำเสียงอันอ่อนโยน หากบุคคลภายนอกได้ยิน ดูเหมือนว่าเขาพูดแบบนี้ไม่มีอะไรผิดปกติ
เย่เฮ่าหรันมองลูกชายด้วยสายตาเย็นชา โกรธจนหน้าซีดหมด แต่เขาก็ไม่พูดอะไร
เย่เชินหลินกำลังแบกรับอย่างหนัก อันที่จริงแล้วเขาเองก็ได้สังเกตเห็นสีหน้าของพ่ออยู่ เขากังวลสุขภาพร่างกายของเขามาก นับตั้งแต่วินาทีที่เขาต่อสู้จนสุดฤทธิ์กับจงหวีฉวนและรองประธานส้ง เขาก็รู้ว่าเขาตกอยู่บนเส้นทางที่น่าสังเวช เขาอาจจะสร้างความขุ่นเคืองกับพ่อ แม่ และผู้หญิงที่เธอรัก ขุ่นเคืองกับคนที่ใกล้ชิดกับเขาทั้งหมด
เขารู้พฤติกรรมของคนที่น่ารังเกียจเหล่านั้นเป็นอย่างดี ไม่ว่าใครก็ตามที่ใกล้ชิดสนิทสนมกับเขา พวกเขาก็จะเอาเขามาข่มขู่เขา
เขาไม่สามารถบอกให้พ่อของเขารู้ว่าเขากำลังต่อสู้กับสองคนนั้น มิฉะนั้นนิสัยที่ตรงไปตรงมาของเขา เข้ามาผสมวุ่นวายสำหรับเขาแล้วไม่ใช่เรื่องที่ดีเลย
เรื่องทั้งหมดเขาเป็นคนก่อขึ้นเอง และจะต้องให้เขาเผชิญกับมันเพียงลำพังด้วยตัวเขาเอง เขาจะไม่สร้างความลำบากให้กับคนอื่น เขาจะปกป้องดูแลพวกเขาให้เป็นอย่างดี
“ฉันจะพาเธอเข้าไป เธอคิดว่าอย่างไร? ปล่อยเข้าไป หรือว่าต่อไปที่แห่งนี้ของเธอจะไม่ให้คนแก่อย่างเราทั้งสองมาอีก เธอคิดเอาเองแล้วกัน” ฝู้เฟิ่งหยีเงยหน้าพูด
เธอรู้ว่าลูกชายของเธอดื้อ แต่เขาดื้อแบบนี้เหมือนใครละ จะไม่เหมือนแม่ของเขาได้อย่างไรหรือ?
เซี่ยชีหรั่นเฝ้าดูการเผชิญหน้าระหว่างแม่และลูกชาย หัวใจของเธอก็มีส่วนร่วมในการต่อสู้ทางอุดมการณ์ที่ดุเดือดที่สุด
เธอไม่ต้องการเห็นพวกเขาเป็นเช่นนี้ แต่ในใจเธอก็รู้ดี แม้แต่พ่อแม่ของเขาก็มาแล้ว เธอจะกลับไปเคียงข้างเขามันช่างยากเย็นเหลือเกิน หากว่าเธอมาคนเดียว เขาให้เธอเข้าไปก็แปลกแล้ว
เซี่ยชีหรั่น อดทนไว้นะ ความเข้มแข็งของเธอก็เพื่ออนาคตที่ยาวไกลของพวกเธอเองนะ ในที่สุดพ่อแม่เขาก็จะมีความสุขเอง
หากเธอไม่อดทน อ่อนใจไปในเวลานี้ ก็ปล่อยให้ส้งหลิงหลิงวางอำนาจบาตรใหญ่อยู่ที่นี่ วิธีการเลวๆของเขามากขนาดนี้ อย่าให้คนรักของเธอเผชิญหน้าเพียงคนเดียวเลย
เย่เชินหลินไม่ตอบคำถามของแม่ แต่กลับขมวดคิ้วเล็กน้อย มองเซี่ยชีหรั่นด้วยความไม่พอใจ แล้วถามเธอว่า “เธอรู้หลักธรรมนองครองธรรมดีไม่ใช่หรือ? ทำไมถึงไม่ยอมลงจากรถ เฝ้ามองดูฉันและพ่อแม่ของฉันหยุดชะงักอยู่ที่นี่ เธอเห็นแล้วมีความสุขใช่ไหม?”
เซี่ยชีหรั่นยิ้มอย่างจืดชืด แล้วตอบเขาไปว่า “คุณให้ทุกคนเข้าไปก็จะไม่หยุดชะงักอยู่ที่นี่แล้ว มันง่ายมากเลย ในเมื่อฉันเชิญพ่อแม่มาแล้ว แน่นอนว่าจะต้องคอยอยู่ดูแลพวกเขา เป็นไปไม่ได้ที่ฉันจะลงไปเพียงคนเดียว”
เจ้าตัวเล็ก เธอก็มาเผชิญหน้ากับฉันเถอะ สายตาของเย่เชินหลินที่กวาดไปเหมือนอดกลั้นไม่ไหว
เขาชอบมองเธอในท่าทีที่ดื้อรั้น ชอบมองความสดใสบนใบหน้าของเธอในความอดทนต่อเรื่องใดเรื่องหนึ่ง เวลานี้ความดื้อรั้นของเธอทำให้เขายิ่งรักและยิ่งเกลียดเธอจริงๆ เธออยากจะเคียงคู่กับเขา เขาคิดมาก ราวกับคิดอย่างบ้าคลั่ง แม้ว่ายิ่งมองเธอมากขึ้นก็ทำให้เขามีความสุข
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน
พิมพ์คำหรือประโยคตกไปเยอะคะ อ่านแล้วงงคะ ขอบคุณที่เอามาลงให้อ่านนะคะ...