ตอนที่ 609 สาวใช้ตัวแสบ 513
“นายเคยปล่อยให้ตัวเองสกปรกตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ถึงแม้ว่าจะบาดเจ็บจริงๆ ก็ต้องเปลี่ยนกางเกงก่อนแน่ ไม่เห็นจะต้องใส่กางเกงที่ยังมีคราบเลือดไปไหนมาไหนเลยนี่” ไห่ลี่หมินพูดออกมาเสียงเย็น เย่เชินหลินเลิกคิ้วเล็กน้อยแล้วแสยะยิ้มมุมปากออกมา
สุดท้ายก็ยังเป็นไห่ลี่หมินที่รู้ดีว่าเขาเกลียดความสกปรก
เย่เชินหลินเปลี่ยนกลับมานิ่งขรึมอย่างรวดเร็ว กดเสียงต่ำเอ่ยกับไห่ลี่หมินออกไป“เธอล่ะ? คงไม่รู้เรื่องที่ฉันเกิดอุบัติเหตุหรอกใช่มั้ย?”
“แล้วนายคิดว่ายังไงล่ะ?ถ้าเธอรู้เข้า ไม่นานก็คงรีบวิ่งมาที่นี่ คาดว่าคงไม่มีใครรั้งเธอเอาไว้ได้”ไห่ลี่หมินเอ่ยหยันออกมาอย่างขมขื่น เย่เชินหลินนึกไปถึงเซี่ยชีหรั่น สีหน้าก็อ่อนลงทันที เอ่ยเสียงนิ่งออกมาว่า “นายรู้แล้วก็ดี อย่าพยายามเอาชนะเธอเลย เธอเคยบอกเอาไว้ว่าไม่ว่าจะยังไงก็ตามชีวิตนี้ทั้งชีวิตจะอยู่กับฉันตลอดไป ฉันก็จะไม่ปล่อยมือเธอเด็ดขาด เพียงแค่ต้องรอให้เรื่องนี้ผ่านไป ฉันก็จะไปตามเธอกลับมา”
ไห่ลี่หมินเห็นว่ายามที่เขากำลังพูดถึงเซี่ยชีหรั่นนั้นแววตาของเขาจะดูเป็นประกายเป็นพิเศษ บางทีนี่อาจจะเป็นสิ่งที่คนมีความรักเขามีกันล่ะมั้ง เขาเองก็เคยเห็นความเปล่งประกายอย่างนี้ในแววตาของเซี่ยชีหรั่นเช่นเดียวกัน
บางทีการหลีกทางเพื่อให้คนทั้งคู่ได้สมหวังนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว เพื่อเพื่อนตายของเขาและเพื่อรอยยิ้มของหญิงผู้เป็นที่รักของเขา เขาควรทำเรื่องนี้ให้ถึงที่สิ้นสุด
“ทางที่ดีก็อย่าช้าเกินไปล่ะ ไม่อย่างนั้นแล้วฉันก็จะไม่รับประกันว่าฉันจะสามารถดีอย่างนี้ไปตลอดได้หรอกนะ”ไห่ลี่หมินกดเสียงต่ำเอ่ยออกมา
“ไม่มีทาง”เย่เชินหลินยังคงรู้จักไห่ลี่หมินดี เมื่อก่อนเขาอาจจะลงมือไปก็ได้ แต่เขาก็ทำได้เพียงยืนยันกับไห่ลี่หมินว่าเขาจะมีปล่อยมือจากเซี่ยชีหรั่นไปอย่างเด็ดขาด ไห่ลี่หมินก็จะไม่ล้ำเส้นเขา
ไห่ลี่หมินนิ่งไปสักพักนึง แล้วก็เอ่ยถามเขาออกมาอีกครั้ง “นายทำอย่างนี้ไปทำไม? อยากให้พวกตาเฒ่าทั้งสองตายใจ?”
“อืม”
“ความจริงแผนนี้ก็ไม่เลวเลย” ไห่ลี่หมินเอ่ยออกมาอย่างมั่นใจ
“ใช่แล้ว ท่านส้งจะต้องคิดว่าเป็นฝีมือของตาเฒ่าจง ส่วนตาเฒ่าจงก็จะคิดว่าเป็นฝีมือของท่านส้ง เรื่องอย่างนี้ตามนิสัยเสแสร้งจอมปลอมของพวกเขาก็ไม่อาจบ่งบอกอย่างแน่ชัดได้ว่าเป็นฝีมือใครกันแน่ ก็ปล่อยให้พวกเขาคิดว่าฉันยอมถอยให้กับพวกเขา แล้วยังมีเรื่องสัมภาษณ์วันนี้ก็ได้ทำให้ท่านส้งคนนั้นสมหวังแล้ว”เย่เชินหลินเอ่ยจบก็ได้กำชับไห่ลี่หมินว่า “นายต้องรีบพาเธอไปให้เร็วที่สุด ช่วงนี้ระวังอย่าให้เธออ่านหนังสือพิมพ์ฉบับไหนเข้า ถ้าเธอได้เห็นส้งหลิงหลิงกำลังได้ใจอย่างนี้ คงยากที่เธอจะรับไหว ถ้าหากรู้เรื่องอุบัติเหตุของฉันเข้าก็คงจะยิ่งรับไม่ได้แน่ๆ”
“ยังต้องให้นายบอกอีก? นายดูเรื่องแผลของตัวเองให้ดีเถอะ!ฉันไปล่ะ!”
ไห่ลี่หมินแวะมาเพียงไม่นานก็ลุกขึ้นเตรียมเดินออกไป เสียงของเย่เชินหลินก็ดังขึ้นมาจากทางด้านหลังของเขา “เดี๋ยวก่อน!”
เขาก็ต้องหันกลับไปอีกครั้ง เพื่อฟังสิ่งที่เย่เชินหลินพูดออกมา
“ช่วยฉันดูแลเธอให้ดี ช่วงนี้สภาพจิตใจของเธอคงไม่ดีนัก อีกเรื่องนึงก็คือถ้านายสามารถพาเธอออกไปเที่ยวได้จะต้องดีกว่าการไปหลินเจียงแน่ๆ เพียงแต่ต้องเป็นคนรักกันเท่านั้นถึงจะไปเที่ยวด้วยกันได้”เย่เชินหลินกำชับเขาขึ้นมาอีกครั้งอย่างไม่วางใจ เรียกได้ว่าไห่ลี่หมินนั้นเป็นคนที่รู้จักเขาดีที่สุด ไม่เคยเห็นเขาเป็นห่วงใครขนาดนี้มาก่อน หัวใจก็สั่นไหวขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว
เขาแค่พยักหน้าออกมาไม่ได้พูดอะไรออกมา จากนั้นก็ผันร่างเดินออกไป
เย่เชินหลินลุกขึ้นแล้วหยิบบุหรี่ขึ้นมา แล้วกลับไปจุดแล้วสูบอยู่บนเตียง
เซี่ยชีหรั่นเธอจะรู้หรือเปล่าว่าตอนที่เธอไม่อยู่ตลอดเวลาเหล่านั้นฉันไม่รู้เลยว่าตัวเองต้องควรทำยังไง ทำงานให้มากแค่ไหนก็ไม่อาจดึงความสนใจมาจากเธอได้เลย
เขาลอบถอนหายใจเบาๆ จากนั้นก็สูบบุหรี่ในมือแรงๆอีกสองที ราวกับว่าในควันบุหรี่เหล่านั้นจะสามารถมองเห็นรอยยิ้มหวานจากใบหน้าเล็กของเธอได้
เขาไม่ได้กำชับไห่ลี่หมินเรื่องที่อย่าให้ตระกูลไห่กับตระกูลเย่รู้เรื่องการคบปลอมๆของเขากับเซี่ยชีหรั่น เรื่องนี้มันทำได้เพียงต้องพึ่งไห่ลี่หมินไปจัดการ
เรื่องนี้มันเกินกำลังของเขา ถ้าไม่ร่วมมือกับคนตระกูลไห่ มันก็ไม่ก็อาจเพียงพอต่อการต่อกรกับความประสาทของทั้งสองคนนั้นได้ แต่ถ้าไปร่วมมือกับพวกเขาแล้ว ต่อไปถ้าเขาและเธอจะกลับมาคบกันใหม่อีกครั้ง ก็คงจะถูกกดดันจากความคิดเห็นของคนในสังคมอย่างมาก
พวกเขาทั้งสองคนเป็นผู้ชายจึงยังไงก็ได้ แต่เซี่ยชีหรั่นจะถูกคนอื่นตราหน้าเอาได้
เดิมเขาคิดอยากจะให้เซี่ยชีหรั่นรู้เรื่องที่เขาเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ บังคับเธออีกขั้น เพื่อให้เธอให้ความร่วมมือแสดงละครกับไห่ลี่หมิน แต่พอมาคิดๆดูแล้ว เขาก็ต้องล้มเลิกความคิดนั้นไป หนึ่งก็คือกลัวว่าเธอจะกังวลเรื่องอาการบาดเจ็บของเขา สองหลักๆแล้วก็คือในใจของเขาไม่ต้องการให้เมื่อถึงเวลาเธอต้องแบกรับอะไรที่มากเกินไป
ครอบครัวของเขากับตระกูลไห่นั้นจัดการได้ไม่ยาก มีเขาและไห่ลี่หมินคอยอธิบายให้พวกเขา ก็จะสามารถเข้าใจได้ ที่กลัวก็คือกลัวพวกคนที่ไม่เกี่ยวข้องพวกนั้นมากกว่า คำวิพากษ์วิจารณ์ของพวกเขาจะทำให้เซี่ยชีหรั่นต้องเป็นทุกข์
เขาคิดอยู่สักพักนึง สุดท้ายก็เลือกที่จะส่งข้อความไปบอกเซี่ยชีหรั่น: เด็กดี คุณทำตามสิ่งที่ใจคุณบอก คิดยังไงก็ทำอย่างนั้น ผมจะไม่ปล่อยให้คุณรอนานอีกแล้ว
ในยามที่เซี่ยชีหรั่นได้รับข้อความนั้นก็ได้เดินทางมาถึงบ้านของมารดาเรียบร้อยแล้ว และกำลังคุยกับมารดาอยู่ในห้องนอนของเธอ โม่เสี่ยวจุนกับไห่ฉิงฉิงก็มานั่งอยู่ที่บ้านมารดาของเธออยู่สักพักนึง แต่โม่เสี่ยวหนงบอกว่าเธอเหนื่อยแล้วอยากนอนเซี่ยชีหรั่นก็ให้พี่เลี้ยงมาช่วยพาโม่เสี่ยวหนงไปพักที่ห้องนอนของเธอก่อน จากนั้นก็พาโม่เสี่ยวจุนกับไห่ฉิงฉิงไปแนะนำให้มารดารู้จักกันมากยิ่งขึ้น
“แม่คะ เสี่ยวจุนเป็นเหมือนกับพี่ชายแท้ๆของหนูคนนึง ดูแลหนูมาตั้งแต่หนูยังเด็ก เป็นคนที่หนูสนิทที่สุดและอยากรักษาเขาไว้ที่สุด”เซี่ยชีหรั่นพูดออกมาอย่างนี้แล้ว พอจ้าวเหวินอิงมองไปยังโม่เสี่ยวจุนก็รู้สึกชอบเขาขึ้นมาทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน
พิมพ์คำหรือประโยคตกไปเยอะคะ อ่านแล้วงงคะ ขอบคุณที่เอามาลงให้อ่านนะคะ...