“มึงพูดเหี้ยไรวะไอ้ติน” เควินหันไปถามด้วยความไม่พอใจกับคำพูดที่ออสตินพูด
“เมามั้งวินอย่าสนใจเลย ว่าแต่เมื่อกี้วินพูดจริงรึเปล่า ถ้าจริงจะได้ไปเช็คตำหนิกันก่อน” ฉันกอดแขนเควินแล้วหันไปพูดพร้อมกับยิ้มหวานให้เควิน รอยยิ้มที่ฉันมั่นใจว่ามันต้องเป็นรอยยิ้มที่ละลายใจแน่นอน เพราะใครต่อใครก็ชมว่าฉันยิ้มหวานยิ้มทีผู้ชายแทบละลาย แถมยังยื่นหน้าไปใกล้เควินจนฉันรู้สึกได้ว่าเควินถึงกับกลั้นหายใจเลยทีเดียว
“เหอะ!” ออสตินปลายตามาฉันเหมือนอยากจะฆ่าให้ตาย คงโกรธที่ฉันต่อปากต่อคำสินะ แล้วนายนั่นก็ทำสิ่งที่ทุกคนไม่คาดฝันด้วยการกระชากยัยน้องปอบปากอาบเลือดนั่นเข้าไปจูบด้วยความเร็วมาก จนพวกเราตาโตก็เล่นกระชากไปจูบแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย
ทีแรกยัยน้องปอบปากอาบเลือดก็ตกใจหรอก แต่แค่ 2 วินาที ยัยนั่นก็ตั้งสติแล้วก็แลกลิ้นกับออสติน แถมยังเอามือปะป่ายไปทั่วตัวอีตานั่นอีก ไม่แก้ผ้าเอากันตรงนี้เลยล่ะ!
“ว๊ายตายแล้ว~ ตาเถร คนจะเอากัน โอ้ยอีติน!” อีแมนนี่ที่เห็นเหตุการณ์ก็อุทานออกมาด้วยความตกใจ แล้วรีบหันมามองฉัน เหมือนกับมิลานที่มันรีบเดินมาจับมือฉันไว้ ตอนนี้ฉันใจสั่น เจ็บมากที่ยืนดูเขาจูบกับคนอื่น
พอหันไปรอบ ๆ ก็เห็นแขกในงานยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายคลิปกันเป็นแถว คนพวกนี้มันมีมือเป็นโทรศัพท์รึไงนะ พอเกิดเหตุการณ์สำคัญ ๆ มันถึงได้ยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปอัดคลิปกันได้ทันใจเหลือเกิน
“มึงโอเคไหม” มิลานกระซิบถามฉัน ทีแรกก็พอจะไหวแหละ แต่พอมีเพื่อนมาถามด้วยน้ำเสียงที่โคตรเป็นห่วงฉันเลยโคตรจะไม่ไหวขึ้นมาทันทีเลย เคยเป็นกันไหมคะยิ่งปลอบยิ่งห่วงก็ยิ่งเจ็บ ฉันทำได้แค่กลืนก้อนสะอื้นลงไปแล้วพยักหน้าให้เพื่อนเบา ๆ ก่อนจะแกล้งทำเป็นสนใจกับเหล้าในมือ
“โหไอ้เหี้ย แย่งซีนกู” เควินด่าออสตินหลังจากที่หมอนั่นถอนจูบจากยัยน้องปอบปากอาบเลือด อย่าเพิ่งรำคาญชื่อที่ฉันเรียกนางนะคะ ฉันไม่รู้จักชื่อนางขอเรียกแบบนี้ก่อนละกัน เหมาะกับยัยนี่ดี
“โทษที เมื่อกี้ยังทำไม่อิ่ม” ออสตินบอกเสียงนิ่ง ยักไหล่เหมือนเป็นเรื่องปกติ แล้วก็เอามือลูบไล้ไปที่เอวยัยนั่นช้า ๆ ยัยน้องปอบก็ทำหน้าเคลิ้มเชียว
“อื้อ~ ตินน่ะ อย่าเพิ่งซนสิคะ” ยัยนั่นทำกระมิดกระเมี้ยนจริตเหมือนสาวน้อยไร้เดียงสา โถ~ ตอนจูบเมื่อกี้ถ่างตรงนี้ได้มึงถ่างไปแล้วกูรู้
“โอ้ย! ลำไย จะเอากันเชิญชั้น 3 จ้า ไป ๆ มึง ไปหาที่นั่งกันดีกว่ากูยืนจนขาจะเป็นตะคริวแล้ว” แมนนี่เอ่ยตัดบทด้วยเสียงดังและเหวี่ยงแล้วก็ลากฉันกับมิลานมานั่งโซฟาที่ว่าง ต้องขอบคุณมันมากเลยล่ะที่ช่วยพาฉันออกมาจากตรงนั้นได้
“มึง มึงไหวไหม” แมนนี่ถามฉันขึ้นมาหลังจากที่นั่งเสร็จ
“ไหวมั้ง...ไม่ว่ะ กูจะไม่ไหวแล้ว มันจะจูบโชว์กูทำไมวะ” ฉันพูดออกมาแล้วน้ำตาคลอ ยิ่งเหล้าเข้าปากยิ่งอยากระบาย
“มึงใจเย็นอย่าร้อง ไม่ไหวก็กลับกันก่อนเนอะ ป่ะ ๆ” มิลานลูบหลังฉัน รักพวกมันสองคนจัง
“ไม่! กูไม่กลับ ยิ่งมันทำแบบนี้กูจะยิ่งทำให้มันมาสยบแทบเท้ากู เหี้ย ๆ แบบมันต้องเจอกู!” ฉันโพล่งออกมาด้วยความโมโห ทั้งที่เมื่อกี้เพิ่งบอกแมนนี่กับมิลานว่าไม่ไหวแล้วยังทำเสียงเข้มแข็งอีกด้วย นี่ฉันก็สับสนชีวิตเหมือนกันนะ เดี๋ยวอ่อนแอ เดี๋ยวสู้ แม่งเอ้ย! ฮ่าๆๆๆ
หัวเราะฮ่า ๆๆ ทั้งที่มีน้ำตาซ่อนอยู่ ตลกเป็นบ้า
“อะไรของมึง กูตามไม่ทันแล้วอีมินตรา” แมนนี่ตามขึ้นมาแล้วเหวี่ยงฉันเบา ๆ
“มึง มึงว่ากูจะสู้กับอีน้องปอบนี่ได้ไหมวะ” ฉันถามพวกมันหลังจากที่นั่งมองรูปอีน้องปอบนี่สักพัก เอ็กซ์ขนาดนี้ฉันจะเอาอะไรไปสู้กับมันล่ะ
“ชะนีน้อย เดี๋ยวกูซูมรูปให้ดู อ่ะดู” แมนนี่ซูมรูปให้ฉันกับมิลานดู
“มึงเห็นรอยกรีดไหมคะ อีน้องปอบนี่นมปลอม มึงไม่ต้องกลัวของมึงของจริง ดูสิขนาดมันทำมายังไม่ใหญ่เท่ามึงเลย”
“มันก็แค่ของจริงหรือของปลอม สุดท้ายมันก็ใหญ่เหมือนกันไหมวะ” ฉันแย้งมันเพราะผู้ชายมันก็ไม่ได้เลือกนี่ว่าของจริงของปลอม แค่มันบีบมันดูดได้ก็พอแล้วมั้ง
“มึงอย่าทำหน้านอยด์ มึงเครื่องฟิต อีนี่เครื่องมือสิบมือร้อย อีตินไม่เอามันนานหรอกเชื่อกู” มิลานพูดออกมา โหมันคิดได้ไงนะฉันได้ยินแล้วหน้าแดงเลย
“จริงเหรอมึง” ฉันมองหน้าพวกมันสองคนเพื่อถามย้ำความมั่นใจ
“จริง ไม่เชื่อมาพิสูจน์กันค่ะ” แมนนี่ยิ้มเจ้าเล่ห์ทำเอาฉันเสียวไส้ขึ้นมาทีเดียว
“พิสูจน์ยังไงวะอีแมนนี่” มิลานถามขึ้น แต่อีแมนนี่ก็ยังไม่ตอบเอาแต่นั่งยิ้มทำหน้าตาเจ้าเล่ห์ ทำหน้าตาน่าตบเป็นบ้าเลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: SO BAD เพื่อนสนิทร้ายซ่อนรัก