อวิ๋นซานหูจับแขนเสื้อติงหมิงรุ่ยแล้วเขย่าไปมาพลางออดอ้อน “ท่านพี่ นางก็แค่โชคดีเหมือนแมวตาบอดจับหนูตายได้ จะไปมีความรู้วิชาแพทย์ที่สูงส่งได้อย่างไร!”
ติงหมิงรุ่ยถูกนางปลอบ จึงสบายใจขึ้นมาบ้าง
ใช่สินะ ก็แค่หญิงบ้านนอกคนหนึ่ง ที่มีความรู้ระดับภูมิปัญญาชาวบ้านเท่านั้น
แต่เขาไม่เหมือนกัน เขามีพรสวรรค์ล้ำเลิศ เกิดมาในตระกูลแพทย์
อีกทั้งมีชื่อเสียงแต่เด็ก ภายหน้าต้องสอบเข้าสำนักหมอหลวง มียศถาบรรดาศักดิ์ กลายเป็นหมอหลวงที่มีชื่อเสียง
หนำซ้ำแวดวงการแพทย์ยังเป็นพื้นที่ของบุรุษมาโดยตลอด
แม้สตรีจะเรียนรู้วิชาแพทย์ แต่สังคมไม่ยอมให้พวกนางมานั่งรักษาอยู่ในสำนักอย่างเปิดเผย
อย่างมากก็แค่ได้เข้าไปเป็นหมอหลวงระดับล่างสุดในสำนักหมอหลวง เป็นลูกมือให้พวกหมอหลวงชายเท่านั้น
เมื่อคิดได้เช่นนี้ ติงหมิงรุ่ยสบายใจขึ้นมาก จากนั้นกลับมามั่นอกมั่นใจอีกครั้ง
ความวุ่นวายในตระกูลเฉินดำเนินไปสักพักใหญ่ถึงจะสงบลง
จากการเตือนสติของผู้ใหญ่บ้านโจว สองสามีรรยาเฉินเหล่าเอ้อร์ถึงจำบุญคุณของอวิ๋นฝูหลิงได้
จากคำซุบซิบของชาวบ้านรอบข้าง ทำให้อวิ๋นฝูหลิงพอปะติดปะต่อเหตุการณ์ของตระกูลเฉินได้
แม่เฒ่าเฉินเป็นม่ายสามีตายตั้งแต่ยังสาว จึงเลี้ยงดูลูกชายทั้งสองมาเพียงลำพัง
ดังนั้นลูกชายทั้งสองจึงกตัญญูมาก โดยเฉพาะเฉินเหล่าต้าที่เชื่อฟังแม่เฒ่าเฉินแทบจะทุกอย่าง
หลังจากลูกชายทั้งสองแต่งงานมีครอบครัว ตั้งแต่สะใภ้ใหญ่เฉินคลอดเฉินต้ายา ก็ไม่เคยตั้งท้องอีกเลย
ส่วนสะใภ้รองเฉินกลับคลอดลูกชายเฉินเสียวเป่าออกมาในครั้งเดียว
เดิมทีแม่เฒ่าเฉินก็รักเด็กชายมากกว่าเด็กหญิงอยู่แล้ว ตอนยังสาวยังได้ใจที่ตัวเองคลอดลูกชายออกมาถึงสองคน
จึงได้รักเฉินเสียวเป่าหลานชายเพียงคนเดียวดั่งแก้วตาดวงใจ และรู้สึกว่าสะใภ้ใหญ่กับเฉินต้ายาขัดหูขัดตา
ส่วนเฉินเหล่าต้าที่ไม่มีลูกชายก็อดไม่ได้ที่จะโกรธเคืองเมียตัวเอง
ดังนั้นความเป็นอยู่ของสะใภ้ใหญ่เฉินและเฉินต้ายาจึงยิ่งย่ำแย่
อวิ๋นฝูหลิงไม่ชอบวิถีของคนตระกูลเฉิน เมื่อเห็นสองสามีภรรยาเฉินเหล่าเอ้อร์มากล่าวขอบคุณ จึงทำสีหน้าเรียบเฉยและตอบอย่างขอไปที แล้วให้ทั้งสองกลับไป
อวิ๋นฝูหลิงพลิกฟืนที่ตากเอาไว้ เพื่อให้พวกมันแห้งเร็วขึ้น
ขณะนี้พวกของลูกพี่อู๋ แบกฟืนและน้ำกลับมาพอดี
พวกเขาตัดไม้ไผ่ลำใหญ่มาทำเป็นกระบอก แล้วรองน้ำกลับมา
หลังจากอวิ๋นฝูหลิงตรวจสอบทีละอย่าง นางพยักหน้าชื่นชม “ทำได้ไม่เลว!”
พวกของลูกพี่อู๋ยิ้มทันที
อวิ๋นฝูหลิงใช้ตะกร้าไม้ไผ่บัง จากนั้นนำไหดินและกระทะเหล็กสองหูออกมาจากมิติ
นี่เป็นสิ่งของที่นางได้มาจากร้านสะดวกซื้อในชาติก่อน
เดิมทีไหดินเอาไว้ปักดอกไม้ แต่ตอนนี้เอามารดน้ำได้พอดี ส่วนกระทะเหล็กเอามาทำอาหาร
ก่อนหน้านี้นางจงใจเลือกตะกร้าไม้ไผ่ที่มีฝาปิด ก็เพื่อเอาไว้บดบัง นางจะได้หยิบของออกมาจากมิติอย่างสะดวก
“ไปเอาน้ำกลับมาอีกสักหน่อยเถอะ แหล่งน้ำอยู่ไกลจากนี่หรือไม่?”
ลูกพี่อู๋ชี้ไปทางตะวันออกเฉียงใต้ “ไม่ไกล ตรงนั้นมีลำธารสายหนึ่ง”
ลูกพี่อู๋รับไหดินและกระทะมาอย่างคล่องแคล่ว ไม่ถามอวิ๋นฝูหลิงสักคำว่าทำไมก่อนหน้านี้ไม่ให้อุปกรณ์รองน้ำทั้งสองชิ้นแก่พวกเขา
เมื่อชาวบ้านรอบข้างเห็นการกระทำของพวกลูกพี่อู๋ ก็พากันตะลึงอย่างมาก
ทุกคนคิดกันไปต่างๆ นานา แล้วแอบซุบซิบเสียงค่อย
หลังจากพวกลูกพี่อู๋จากไป เจิ้งซื่อสะใภ้ใหญ่ของผู้ใหญ่บ้านโจวก็รีบเข้าไปใกล้อวิ๋นฝูหลิง พร้อมเอ่ยเตือนนาง “พวกลูกพี่อู๋เป็นคนชั่วที่มีชื่อเสียงในย่านนี้ พวกเขาไม่ใช่คนดี เจ้าต้องอยู่ให้ห่างจากพวกเขานะ”
อวิ๋นฝูหลิงหัวเราะพลางพยักหน้า “ขอบคุณอาซ้อใหญ่เจิ้งที่ตักเตือน”
นางไม่ได้อธิบาย เพียงมอบตะไคร้และสมุนไพรหลายชนิดที่เก็บมาให้นางส่วนหนึ่ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ