คู่แฝดคู่ป่วน นิยาย บท 43

# โรงเตี๊ยมหมิงฟู่ยามอุ้ย(13.00-14.59)

ตอนนี้เย่วซินได้ออกจากที่จองจำเป็นที่เรียบร้อย เมื่อมาถึงโรงเตี๊ยมยังโดนสายตาของคนงานที่ร้านล้อเลียนเอาอีก ไม่โดนเหมือนนางบ้างก็แล้วไป เย่วซินใช้ความสนิทสนมเป็นกันเองกับลูกน้องแทนการใช้อำนาจสั่งงานจึงทำให้สนิทชิดเชื้อเป็นกันเองมากกว่าปกติ แต่ทุกคนก็ให้ความเคารพเชื่อฟังเป็นอย่างดี

ตอนนี้เย่วซินกำลังจัดวางพวงมาลัยดอกมะลิอยู่บนชั้นสามห้องพิเศษ ชั้นสามมีทั้งหมดสิบห้องใช้รับแขกเก้าห้อง ส่วนอีกหนึ่งห้องเป็นห้องส่วนตัวของตนเอง ชั้นพิเศษนี้เป็นห้องอาหารและมีห้องนอนอยู่ในตัวกว้างใหญ่และเป็นส่วนตัวอย่างมาก การจัดตกแต่งก็ระดับพรีเมี่ยมเพราะนางเป็นคนออกแบบเองกับมือ ชั้นสองเป็นห้องพักสำหรับแขกเหรื่อทั่วไปมีทั้งหมดยี่สิบห้อง ส่วนชั้นล่างจะเป็นเหลาอาหารและเครื่องดื่ม

“คาราวะขอรับคุณหนู” ซานจิ่นและเงาอินทรีย์อีกสองนายปรากฎตัวขึ้นภายในห้องสวยหรูขนาดใหญ่ ที่ร่างบางตรงหน้าเป็นเจ้าของ

เย่วซินตกใจสะดุ้งเฮือกเมื่อจู่ๆก็มีคนชุดดำเข้ามา แต่เมื่อเห็นว่าทั้งหมดค้อมกายเคารพอย่างนบนอบดูแล้วไม่เป็นภัยจึงเบาใจ พลางคิดถึงคำพูดพี่่ชายที่ว่าวันนี้ท่านประมุขจ้าวจะส่งคนคุ้มกันมาให้ที่โรงเตี๊ยมต้องเป้นพวกเขาแน่ๆ

“ข้าตกใจหมด พวกท่านคือคนของท่านประมุขพรรคอินทรีย์ใช่หรือไม่” เย่วซินเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจ

“ใช่แล้วขอรับ ข้าน้อยพาทั้งสองคนมาคอยคุ้มครองคุณหนู” เป็นซานจิ่นที่เอ่ยตอบ คุณหนูผู้นี้ช่างงดงามและคุ้นตายิ่งนัก ใบหน้าจิ้มลิ้มคิ้วจมูกปากรับกับโครงหน้าที่เด่นที่สุดคือดวงตาที่กลมโตพราวระยับเหมือนมีดวงดาวนับร้อยส่องประกายอยู่ในนั้น ช่างคุ้นเคยอย่างน่าแปลกประหลาด

“พวกท่านตามสบายเถอะข้าไม่เรื่องมากหรอก แล้วทั้งสองคนชื่ออะไรหรือข้าจะได้เรียกถูก” เย่วซินเอ่ยถาม

“ข้าน้อยชื่อจางฮั่นขอรับ”

“ข้าน้อยจางฮ่าวขอรับ”

“พี่ฮั่น พี่ฮ่าวข้าขอฝากตัวด้วยเจ้าค่ะ” เย่วซินเอ่ยอย่างมีไมตรีและยิ้มสดใสไปให้

ทั้งสามเมื่อเห็นรอยยิ้มสดใสนั่นถึงกับลมหายสะดุด ก้มหน้าลงทันทีเพื่อหลบซ่อนใบหน้าที่ตอนนี้อาจจะแดงแล้วเป็นแน่ ความงามของคุณหนูนับว่าไม่ธรรมดาจริงๆ

“ขอรับคุณหนู” ทั้งสองเอ่ยจบแล้วหายวับไปทันทีเพื่อทำหน้าที่ของตนเอง

“เอ่อ..คุณหนูขอรับข้าน้อยทราบมาว่าคุณหนูเก่งกาจเรื่องพิษข้าน้อยมีเรื่องอยากจะรบกวนคุณหนูจะได้หรือไม่ขอรับ” ซานจิ่นเอ่ยถามเสียงไม่มั่นใจเท่าใดนัก เพราะกลัวได้รับคำปฏิเสธ

“ท่านว่ามาเถอะแล้วข้าจะบอกว่าได้หรือไม่” เย่วซินเอ่ย นางเห็นคนตรงหน้าอ้ำอึ้งเหมือนมีบางอย่างอยากขอร้องแต่ก็กลัวอยู่ในที

ซานจิ่นได้ยินเช่นนั้นก็โขกศีรษะกับพื้นพร้อมเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเทา “มีคนผู้หนึ่งเขาถูกทรมานโดยการใช้พิษมานานถึงสิบห้าปี ตอนนี้ข้าน้อยไปช่วยเขาออกมาได้แล้วแต่ร่างกายของเขาจะคลุ้มคลั่งและทรมานทุกครั้งที่ร่างกายต้องการพิษ ท่านหมอที่พรรคก็ไม่เก่งกาจเรื่องนี้ ท่านไม่ทราบว่าพิษที่เขาได้รับนั้นเป็นชนิดใด ตอนนี้ท่านหมอเพียงให้เขาทานยาเพื่อระงับอาการคลุ้มคลั่งและให้ยานอนหลับแก่เขาเพื่อบรรเทาอาการเพียงเท่านั้น คุณหนูได้โปรดช่วยเหลือคนผู้นั้นด้วยเถิดขอรับ” ซานจิ่นเอ่ยพร้อมกับโขกศีรษะลงพื้นอีกรอบ

เย่วซินที่ได้ยินและได้เห็นการกระทำของคนตรงหน้าก็อดสงสารไม่ได้ ชายคนนี้ดูจะรักและห่วงใยคนที่ถูกพิษไม่น้อย เรื่องที่เขาเล่ามานั้นมาคิดดูแล้วคนผู้นั้นอดทนมาได้อย่างไรตั้งสิบห้าปี เขาจะทรมานขนาดไหนกันนะเย่วซินจู่ๆก็น้ำตาไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัวด้วยความสงสารและสะเทือนใจ

“ตอนนี้เขาอยู่ที่ไหนหรือ?” เย่วซินเอ่ยถามพลางเอามือปาดน้ำตาลวกๆ

“ตอนนี้อยู่ที่พรรคอินทรีย์ขอรับ ข้าน้อยไม่อาจพาเขามาที่นี่ได้”

เย่วซินพยักหน้าเข้าใจแล้วเอ่ยถามว่า “พรรคของท่านอยู่ไกลหรือไม่ต้องใช้เวลาในการเดินทางเท่าไร” เย่วซินเอ่ยถาม

“ถ้าเดินทางด้วยรถม้าก็ราวๆห้าวันขอรับ แต่ถ้าใช้วิชาตัวเบาขั้นสูงของทางพรรคใช้เวลาเพียงหนึ่งชั่วยามก็ถึงขอรับ” ซานจิ่นเอ่ยตอบอย่างมีความหวัง คุณหนูน้อยยินดีช่วยเหลือช่วยนายท่านของตนแล้วแน่ๆ

“แต่ข้าไม่มีวิชาตัวเบาขั้นสูง และข้าก็ไม่มีเวลามากขนาดนั้น เพราะอีกสามวันก็จะมีงานเลี้ยงต้อนรับคณะทูตครอบครัวของข้าต้องเข้าร่วมงาน” เย่วซินเอ่ย นางต้องตรวจดูอาการและดูว่าคนผู้นั้นถูกพิษชนิดใดบ้างเขาโดนพิษมานานถึงสิบห้าปีไม่ใช่จะรักษาโดยง่าย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คู่แฝดคู่ป่วน