ทายาทอันดับหนึ่ง นิยาย บท 6

ฟิลิปกดโทรออกหาจอร์จ โทมัส “จอร์จ คุณช่วยผมตรวจสอบโครงการล่าสุดที่วินน์ จอห์นสตัน ต้องดูแลของบริษัทเภสัชกรรม บีคอน หน่อย ว่ามีมูลค่าการลงทุนคือ หนึ่งล้านดอลล่าร์จริงหรือเปล่า? แล้วใครกันที่เป็นลูกค้าและบุคคลที่รับผิดชอบโครงการนี้”

น้ำเสียงที่นอบน้อมของจอร์จลอดผ่านปลายสายออกมาเขาพูดขึ้น “นายน้อย กลุ่มบริษัทเภสัชกรรม บีคอน เป็นหนึ่งในบริษัทที่ตระกูลคลาร์คของเราร่วมลงทุนผมจะให้ประธานบริษัทของบีคอนไปพบกับคุณด้วยตัวเขาเอง”

หืม? บริษัทเภสัชกรรม บีคอน ก็เป็นหนึ่งในบริษัทที่ตระกูลเราลงทุนไว้งั้นเหรอ พ่อของฉันนี่เยี่ยมยอดจริง ๆ!

ฟิลิปรู้สึกเสียดายขึ้นมาทันทีที่ไม่รับมรดกของตระกูลให้เร็วกว่านี้

“ไม่จำเป็นหรอก รีบตรวจสอบโดยเร็วและทำยังไงก็ได้ให้ลูกค้าตัดสินใจลงทุนซะเพื่อที่วินน์จะได้ไม่ต้องลำบากมาก” ฟิลิปพูดขึ้นอย่างใจเย็น

“นายน้อย ผมแนะนำให้คุณซื้อบริษัทของลูกค้านั่นซะ คุณมีเงินมากพออยู่แล้ว” จอร์จแนะนำ

อะไรกันวะเนี่ย! ซื้อบริษัทงั้นเหรอ? อย่างที่คาดไว้ในฐานะพ่อบ้านจากตระกูลร่ำรวย ตาเฒ่าจอร์จ นี่คุณเป็นคนขี้อวดขนาดนี้แล้วเหรอ?

“มันเรียกว่าการทำตัวให้ไม่เป็นจุดสนใจ เข้าใจรึเปล่า? ถ้าผมอยากจะซื้อมันจริง ผมก็คงจะทำไปนานแล้วสิ?” ฟิลิปตอบกลับอย่างขุ่นเคือง

“ถ้าเช่นนั้นก็ได้ครับนายน้อย ผมขอเวลาสิบนาที” จอร์จตอบรับอย่างว่าง่าย

หลังจากวางสาย จอร์จก็ให้เลขาของเขาติดต่อไปยังแดริค ฮอลล์ ผู้บริหารของเภสัชกรรม บีคอน ทันที

เมื่อแดริครับสายเลขาของจอร์จ เขาสั่นไปทั้งตัวด้วยความรู้สึกตื่นเต้น “ท่านประธานโทมัส คุณต้องการให้ผมช่วยอะไรเหรอครับ?” นี่เป็นสายจากชายที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองริเวอร์เดล ประธานของ เอเปก กรุ๊ป! ผู้คนต่างปรารถนาที่จะได้ทานข้าวกับเขาสักมื้อ

“ประธานฮอลล์ ไม่ใช่ผมหรอกที่อยากให้คุณช่วยแต่เป็นนายน้อยของผม” น้ำเสียงของจอร์จ ที่ผ่านปลายสายไปนั้นราบเรียบแต่กลับแฝงความน่ากลัวอยู่ เขาเป็นถึงชายที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองริเวอร์เดลแห่งนี้ เขาเคารพและนอบน้อมต่อนายน้อยของเขาแต่กับคนอื่น ๆ เขาคือเจ้านาย! ดังนั้นเขาก็ต้องแสดงท่าทีให้ผู้คนยำเกรง

“นาย...นายน้อย?” แดริคนั่งอยู่ในห้องของผู้บริหารที่ตึกบีคอนถึงกับตกตะลึงไป เหงื่อเย็นเรื่มผุดขึ้นมา

นายน้อยของประธานโทมัสอย่างนั้นเหรอ? ชายที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองมีนายน้อยอย่างนั้นเหรอ? นี่มันจะน่ากลัวเกินไปแล้วนะ!

“เช่นนั้นแล้ว นายน้อยของคุณมีอะไรให้ผมรับใช้งั้นเหรอครับ?” แดริคถามขึ้นอย่างระมัดระวัง กลัวว่าจะทำให้จอร์จโมโห ถ้าเขาไม่ระวังคำพูด

“มีพนักงานคนนึงชื่อวินน์ จอห์นสตัน ในบริษัทของคุณ ใครคือลูกค้าที่เธอต้องติดต่อด้วยช่วงนี้?” จอร์จถาม

แดริครู้จักวินน์ จอห์นสตัน เธอเป็นรองผู้จัดการของแผนกการตลาด เธอเป็นหญิงแกร่ง เขาชอบเธอมาเป็นเวลานานแต่เสียดายที่เธอแต่งงานแล้ว ถึงนั่นจะไม่ใช่เรื่องสำคัญก็เถอะ

แดริคกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปที่แผนกการตลาด เหงื่อเปียกชุ่มหัว เมื่อพนักงานในแผนกการตลาดของบริษัทเภสัชกรรม บีคอน เห็นแดริคเข้า พวกเขาก็ต่างพากันเงียบกริบ

“รองผู้จัดการจอห์นสตันอยู่ที่ไหน?” แดริคถามขึ้น

“เธอออกไปเจรจาธุรกิจค่ะ” พนักงานคนนึงตอบกลับมา

“ใครคือลูกค้าคนนั้น?” แดริคถาม

“ผู้จัดการมอรี่ วอร์เรน แห่งเภสัชกรรมวิคตอรี่ค่ะ” พนักงานคนเดิมตอบ

ฟิลิปยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมา หันหลังกลับ ก่อนจะรายงานอย่างนอบน้อม “ท่านประธานโทมัส ลูกค้าคนนั้นคือมอรี่ วอร์เรน จากเภสัชกรรมวิคตอรี่ครับ”

“ดีมาก เข้าใจแล้ว” จอร์จกดตัดสายไปทันที จากนั้นจอร์จก็ใช้อำนาจของเขาตักเตือนบริษัท เภสัชกรรมวิคตอรี่ ด้วยความที่รับใช้ตระกูลนี้มาเป็นเวลานานทำให้เขาเข้าใจความคิดความอ่านของนายน้อยได้เป็นอย่างดี มอรี่ วอร์เรน จากบริษัทเภสัชกรรมวิคตอรี่ คนนี้ต้องทำในสิ่งนายน้อยไม่พอใจเป็นแน่

6 นาทีหลังจากนั้น ฟิลิปที่กำลังเดินทางไปโรงพยาบาลได้รับโทรศัพท์จากจอร์จ “นายน้อย ผมจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้วครับ”

“ดีมาก อย่าบอกวินน์เรื่องนี้ แล้วก็บอกทุกคนให้เงียบไว้ซะ ผมไม่อยากให้เรื่องนี้แพร่งพรายออกไปที่ไหนเด็ดขาด” ฟิลิปพูด

“เข้าใจแล้วครับน้อย ไม่เป็นที่สนใจ” จอร์จหัวเราะเสียงต่ำออกมา

หลังจากวางสาย ฟิลิปยืนจ้องตึกของโรงพยาบาลที่อยู่ตรงหน้า เขายิ้มออกมาอย่างขมขื่น โอ้ วินน์ คุณพูดอยู่เสมอว่าผมไม่สามารถช่วยคุณได้ ผมจะบอกคุณให้นะว่าตอนนี้ ผมสามารถช่วยคุณได้เพียงแค่เอ่ยปากพูดออกมาหนึ่งประโยคเท่านั้น ถ้าวันนึงคุณรู้ว่าผมเป็นคนช่วยเหลือคุณ คุณจะมีท่าทียังไงนะ?

กลับมาที่ร้านอาหารเวสเทิร์น ชั้นหก มอรี่ วอร์เรน ดื่มไปหลายแก้วและตอนนี้มือไม้ของเขาก็เริ่มอยู่ไม่สุข

“รองผู้จัดการจอห์นสตัน คุณทานอาหารอย่างเดียวเลยไม่แตะไวน์ของคุณเลยสักนิด คุณดูถูกผมอย่างนั้นเหรอ?” มอรี่แสร้งทำสีหน้าเป็นทุกข์ พูดด้วยเสียงเข้ม

วินน์ยิ้มออกมาอย่างขอโทษก่อนจะอธิบาย “ผู้จัดการมอรี่ คุณเข้าใจผิดแล้วฉันแค่รู้สึกไม่ค่อยดีช่วงสองสามวันมานี้ฉันก็เลยดื่มไม่ได้ค่ะ” เจ้าอ้วนน่ารังเกียจนี่คอยแต่จะมาแตะตัวฉัน น่ารำคาญที่สุด!

“เฮ้อ ในเมื่อคุณพูดอย่างนั้นผมก็คิดว่าไม่มีความจำเป็นอะไรที่ต้องคุยกันอีกต่อไป” บอรี่พ่นลมหายใจออกมาก่อนจะข่มขู่วินน์ “รองผู้จัดการจอห์นสตัน คุณก็คงจะรู้ดีว่าไม่ใช่แค่เภสัชกรรมบีคอนเท่านั้นที่พยายามจะร่วมมือกับเรา มีคนอีกมากมายที่มาขอร้องให้ได้เข้าพบผม”

ด้วยคำพูดของเขา วินน์ขมวดคิ้วจ้องมองไปที่แก้วไวน์บนโต๊ะอย่างชั่งใจ “ก็ได้ค่ะฉันจะดื่มหนึ่งแก้ว” วิน์นพูด เธอหยิบขวดไวน์ขึ้นมาก่อนจะรินใส่แก้วของตัวเอง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทอันดับหนึ่ง