เสียงที่พูดขึ้นมาไม่น่าพิศมัยนัก ฟิลิปเงยหน้าขึ้นมาเจอเข้ากับชายที่พุงยื่นพลุ้ย จ้องมาที่เขาด้วยสายตาเยาะเย้ย
แล้วมันเกี่ยวอะไรกับแก? ฉันจะเป็นแมงดาหรือไม่แล้วยังไง? ฉันไม่รู้จักแกด้วยซ้ำ ฟิลิปทำปากเบะ ตั้งใจจะไม่สนใจเขา ก่อนจะหมุนตัวเพื่อเดินออกไป
แต่เจ้าอ้วนนั่นไม่ปล่อยให้เขาไปง่าย ๆ เขาเดินไปขวางทางฟิลิป และพูดจาถากถางเขาต่อหน้าเขาตรง ๆ “ทำเป็นเมินผมงั้นเหรอ? นิสัยดีเยี่ยมไปเลย! ผมได้ยินมาว่าธุรกิจของคุณพังไม่เป็นท่า และตอนนี้รองผู้จัดการจอห์นสตันของเราก็เป็นคนหาเลี้ยงปากท้องครอบครัวแทน ชายหนุ่มอย่างคุณฉันนี่ช่างกล้าที่จะเป็นแมงดาเกาะผู้หญิงกินนะ”
ฟิลิปขมวดคิ้ว เขาไม่พอใจเป็นอย่างมาก เขาจำชายคนนี้ได้เขาคือ เกวิน แซค ผู้จัดการฝ่ายการตลาดของบริษัทที่วินน์ทำงานอยู่ ชายคนนี้เคยพยายามที่จะข่มขู่วินน์ แล้วฟิลิปก็เคยมอบบทเรียนให้กับเขา แต่ในตอนนี้เค้ามองฟิลิปว่าอยู่ต่ำกว่าเขา ชายหนุ่มจึงดูถูกเหยียดหยามเขาไม่หยุดหย่อน
เพื่อนร่วมงานคนอื่นของวินน์ต่างก็มองฟิลิปด้วยสายตาแปลกประหลาด พวกเขารู้เรื่องของฟิลิปเพียงเล็กน้อย รู้เพียงแค่ว่าเขาเคยเป็นนักลงทุนที่มุ่งมั่น แต่ตอนนี้ตกลงมาอยู่ในสถานะของพนักงานส่งอาหารเท่านั้น
วินน์ยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชน ขมวดคิ้วอย่างหนัก ขณะที่มองมาที่ฟิลิป เธอรู้สึกอับอาย
“ฟิลิป รีบกลับไปซะเดี๋ยวนี้เลย” วินน์พูดขึ้น
เมื่อเกวินได้ยิน เขาเลิกคิ้วขึ้นอย่างดูถูก แววตาของเขาเข้ม เพื่อนร่วมงานคนอื่นต่างพากันหัวเราะเยาะ แม้แต่ภรรยาของเขาก็ยังรู้สึกอับอายในตัวเขา ช่างเป็นชายที่ล้มเหลวไม่เป็นท่า!
ฟิลิปไม่อยากจะอยู่ต่ออีกแม้แต่นาทีเดียว เขาจึงหันหลังกลับและเดินออกไป แต่เกวินก็ไม่ปล่อยให้เรื่องมันเกิดขึ้น “อย่าเพิ่งไป ฟิลิป ทำไมคุณไม่มากินข้าวกับพวกเราล่ะ ภรรยาของคุณเพิ่งจะเซ็นสัญญาโครงการมูลค่าแสนดอลล่าร์เมื่อวานนี้เชียวนะ เป็นสิ่งที่คุณไม่สามารถทำได้แม้จะส่งอาหารเป็น 10 ปี”
เซ็นสัญญาหนึ่งแสนดอลล่าร์งั้นเหรอ? วินน์จัดการได้แล้วสินะ ฟิลิปรู้เรื่องแล้วแต่ก็ไม่อยากจะอยู่ต่อ แม้แต่ภรรยาของเขาก็ยังบอกให้เขารีบออกไป ทำไมเขาจะต้องอยู่เพื่อให้ตัวเองโดนสบประมาทด้วย โอ้วินน์! ถ้าคุณรู้ว่าผมคือคนที่ทำให้คุณได้เซ็นสัญญาคุณจะทำหน้ายังไงนะ?
“ไม่มีความจำเป็น ผมยังต้องไปที่โรงพยาบาลต่อ” ฟิลิปพูดอย่างใจเย็น
เกวินไม่ปล่อยให้เขาได้มีโอกาสปฏิเสธและลากเขาเข้าไปในร้านอาหารด้วย เขาเอามือพาดไหล่ฟิลิปก่อนจะพูดขึ้น “ไม่ต้องอายไปหรอก ยังไงซะภรรยาของคุณก็เป็นคนเลี้ยง มันจะเสียเปล่านะถ้าคุณไม่กิน” แกมันก็แค่แมงดา มีสิทธิอะไรมาทำตัวเรื่องมาก?
ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงเดินเข้า เวอร์เทียส คอร์ท ไปโดยที่ ฟิลิป ถูกบังคับให้อยู่ต่อ อย่างไรก็ตามเขายืนอยู่คนเดียวในมุมหนึ่ง ในขณะที่วินน์เดินไปทั่วเพื่อพูดคุยกับเพื่อนร่วมงานของเธออย่างตื่นเต้นเกี่ยวกับเรื่องที่เธอสามารถปิดการขายได้
“รองผู้จัดการจอห์นสตัน คุณบอกพวกเราว่าคุณปิดการขายได้ก็เพราะมีใครบางคนช่วยคุณอย่างนั้นเหรอ?” หญิงสาวที่แต่งกายสวยงามคนหนึ่งถามขึ้นด้วยความประหลาดใจ
วินน์พยักหน้า “ผู้จัดการวอร์เรนแห่งเภสัชกรรมวิคตอรี่ทำให้ฉันต้องลำบากใจมาก พวกคุณก็รู้ว่าเขาพยายามที่จะชวนฉันออกไปทานอาหารหลายต่อหลายครั้ง แต่เมื่อวานนี้หลังจากที่ได้รับโทรศัพท์ จู่ ๆ เขาก็พูดขึ้นมาว่าเขาจะเซ็นสัญญา แล้วก็ยังขอโทษฉันอย่างจริงใจอีกด้วยไป”
ในขณะที่พูด วินน์มองไปที่ฟิลิปที่ยืนอยู่มุมห้องราวกับไม่มีตัวตนอยู่ โดยที่เธอก็ไม่รู้ตัว เธออดไม่ได้ที่จะรู้สึกเศร้าและผิดหวัง เธอหวังไว้ว่าคน ๆ นั้นจะเป็นฟิลิปแต่เธอก็รู้มันเป็นไปไม่ได้
“ว้าว ใครกันนะที่แอบชอบรองผู้จัดการของเรา? ถึงขนาดช่วยให้การเซ็นสัญญาหนึ่งแสนดอลลาร์นี้เป็นไปอย่างราบรื่นได้!” หญิงสาวคนนั้นพูดออกมาด้วยเสียงอันดังอย่างตั้งใจ เพื่อที่จะให้ฟิลิปได้ยิน
ดูสิ ไอ้คนไร้ค่า! ขนาดภรรยาของแกถูกจีบอยู่ แต่แกกับยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นราวกับคนโง่ ไร้ประโยชน์เสียจริง!
ในขณะที่ทุกคนพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน เกวินก็เดินเข้ามาด้วยสีหน้าขัดแย้ง และพูดขึ้น “เราทานอาหารที่นี่ไม่ได้พวกเขาบอกว่าเราต้องจองก่อน เเละก็ต้องเป็นสมาชิกเท่านั้นที่จะเข้าไปได้”
เกวินไม่อยากจะเชื่อว่าที่ เวอร์เทียส คอร์ท จะต้องจองมาก่อนล่วงหน้าและยังต้องเป็นสมาชิกที่ใช้จ่ายอย่างต่ำหนึ่งล้านต่อปีอีกด้วย คนที่ใช้จ่ายเงินล้านเพื่อทานอาหารที่นี่จะต้องร่ำรวยมหาศาล!
วินน์รีบลุกขึ้นยืนในทันที สีหน้าของเธอเป็นกังวลก่อนจะพูดขึ้น “เราจะทำยังไงกันดีทีนี้? หรือเราควรจะเปลี่ยนร้านดี?”
เธอสัญญากับทุกคนว่าวันนี้เธอจะเป็นคนเลี้ยงเอง แต่เมื่อคิดไปว่าร้านนี้ต้องจองล่วงหน้ามาก่อน….และนี่เป็นครั้งแรกที่เธอมาที่นี่และเพื่อนร่วมงานคนหนึ่งของเธอก็เป็นคนแนะนำมา
“หือ? คุณพูดจริงเหรอ ผู้จัดการแซค? เราอุตส่าห์มาถึงที่นี่แล้วเชียว!”
“ผู้จัดการแซค ลองคิดหาทางดูซักอย่างสิ ฉันได้ยินมาว่าอาหารที่เวเทียส คอร์ท อร่อยมากเสียด้วยสิ”
“ถ้าทำอะไรไม่ได้จริง ๆ เราก็เปลี่ยนร้านกันเถอะ”
บางคนเริ่มรู้สึกเสียใจและหงุดหงิด เกวินไม่รู้จะทำอย่างไรดี เขาพยายามอย่างมากที่จะเอาชนะใจวินน์ จอห์นสตัน แต่เขาจะไปหาบัตรสมาชิกที่ต้องใช้จ่ายกว่าหนึ่งล้านดอลลาร์มาจากไหน?
“ทำไมเราไม่ย้ายไปที่ร้านโนเบล เมเนอร์ กันล่ะ? ร้านนี้ต้องจองมาล่วงหน้าดังนั้นผมจึงทำอะไรไม่ได้” เกวินยักไหล่
หญิงสาวที่พูดเสียงดังก่อนหน้านี้คือ โรส สจ๊วต เลขาของเกวิน และเหมือนกับที่พูดไว้ว่า ‘ถ้ามีบางอย่างที่ต้องจัดการ ก็ให้เป็นหน้าที่ของเลขา ถ้าไม่มีอะไรทำเสร็จได้ ก็ให้จัดการเลขาซะ’
โรสขยับขายาวของเธอเดินตรงไปที่เกวิน ก่อนจะคล้องแขนเขาแล้วพูดขึ้นอย่างมารยา “ผู้จัดการแซค นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันมาที่นี่ คุณพูดเองไม่ใช่เหรอว่าคุณรู้จักกับผู้จัดการที่นี่? ถ้างั้นก็ให้เขาจัดโต๊ะพิเศษเพิ่มให้เราไม่ได้เหรอคะ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทอันดับหนึ่ง