“ท่านย่า มีอะไรหรือเปล่าคะ?”ซูหวั่นหยุดฝีเท้าลงอย่างไม่แยแส
และแม่เฒ่าเซี่ยงก็เงื้อมือขึ้นมา
และการตบฉาดนี้ก็ไม่มีเสียงดังขึ้นตามที่คาดเอาไว้ ซูหวั่นบีบข้อมือของแม่เฒ่าเซี่ยงเอาไว้ และผลักกลับอย่างเต็มแรงและดุดัน“คิดจะตีข้างั้นเหรอ?”
“นังเด็กจิตใจต่ำทราม โอ๊ย เอวข้า!”แม่เฒ่าเซี่ยงจับเอวและร้องไห้คร่ำครวญ เหงื่อท่วมตัวด้วยความเจ็บปวด“ซูหวั่น เจ้าไสหัวออกจากสกุลซูไปเดี๋ยวนี้ บ้านสกุลซูของเราไม่มีหลานสาวอย่างเจ้า!”
ซูหวั่นบุ้ยๆปาก และทำหูทวนลมต่อคำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยง
หลังจากแบกกระบุงหาบขึ้นหลังแล้ว นางก็พาซูลิ่วหลางขึ้นไปบนภูเขาทันที
นางหลี่รู้ดีว่ามันคงไม่เป็นผลดีแน่หากจะอยู่ประจันหน้ากับแม่เฒ่าเซี่ยงต่อไป นางจึงหยิบจอบและลงไปทำนาด้วยเช่นกัน
และซูฝูก็ได้ประคองแม่เฒ่าเซี่ยงให้ขึ้นไปบ้านใหญ่“ท่านย่า เมื่อครู่ท่านย่าได้ยินหรือเปล่า ซูหวั่นเกือบจะพูดเรื่องของข้าออกไปแล้ว”
“นังเด็กบ้า!”แม่เฒ่าเซี่ยงกุมเอว ดวงตาหย่อนคล้อย พร้อมกับพูดว่า“รอให้พ่อของนางกลับมาเสียก่อนเถอะ ข้าจะต้องขายนางออกไปอย่างแน่นอน!”
ซูฝูยิ้มๆและพัดวีให้กับแม่เฒ่าเซี่ยง“ท่านย่า ข้ารู้จักครอบครัวดีๆอยู่ เราสามารถได้เงินสิบตำลึงจากการขายนาง และยังได้รับเงินปันผลในช่วงเทศกาลด้วยนะคะ”
“ที่ไหนเหรอ?”
“เป็นเด็กล้างเท้าให้กับสกุลใหญ่ในเมืองค่ะ”
การกระทำของซูหวั่นเมื่อสักครู่ที่ผ่านมาได้เตือนสตินางว่า ไม่สามารถให้ซูหวั่นอยู่ที่นี่ได้อีกต่อไป ไม่เช่นนั้นจะต้องเกิดเรื่องขึ้นอย่างแน่นอน
......
ซูหวั่นขึ้นไปบนเขา และเดินมาถึงสถานที่ที่มาเมื่อวาน
และกระต่ายสองตัวก็ตกลงมาในกับดักที่นางทำเอาไว้แล้วจริงๆ นางให้ซูลิ่วหลางออกไปเก็บผลไม้ป่ามาสักหน่อย ขณะที่ตัวเองกำลังย่างกระต่ายป่าตัวผู้อยู่
โดยที่นางได้โยนหนังและกระต่ายตัวเมียเข้าไปในพื้นที่จินตนาการ
และหนังของกระต่ายป่าย่างนั้นก็เหลือทองกรอบ เนื้อนุ่มฉ่ำ แค่เคาะเบาๆหนังตรงกลางก็ได้แยกออกมาเป็นแนว
จากนั้นนางก็ทายี่หร่าลงไป และกลิ่นก็หอมตลบอบอวลไปหมด
นางตัดขาเล็กๆให้กับซูลิ่วหลาง“กินซะ”
ซูลิ่วหลางกะพริบตาปริบๆ โดยที่ปากเต็มไปด้วยคราบน้ำมัน ขณะที่ซูหวั่นเดินไปจับปลาและกุ้งที่แม่น้ำ ซูลิ่วหลางก็คาบกระดูก หยิบท่อนไม้และด้าย แล้วนั่งตกปลาอยู่ริมแม่น้ำโดยใช้ไส้เดือนเป็นเหยื่อล่อ
“พี่ครับ!”
เพียงครู่เดียว เขาก็ตะโกนเสียงดังออกมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติมาเป็นสาวชาวนา