บทที่ 65 เจ้ามีความสามารถเกี้ยวสวีจื่อรั่วได้
“แน่นอนอยู่แล้ว” สวี่หยางพยักหน้า
“ประเด็นที่สอง ห้ามแตะต้องผู้หญิงเห็นแก่ตัวเป็นอันขาด” หลินอวี้เสริม “อวิ๋นเอ๋อร์ เจ้าก็พูดอะไรบ้างสิ”
“อื้ม เจ้าห้ามข้องเกี่ยวคนที่พัวพันกับชายอื่น”
“คนที่ป่วยหรือมีปัญหาก็ห้าม”
“คนที่บ้านมีปัญหาก็อย่าไปยุ่งเกี่ยวเช่นกัน ข้าไม่อยากให้สามีต้องไปพะวงเรื่องของผู้อื่น” เสิ่นม่านอวิ๋นเอ่ยคำ
สวี่หยางหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก เขายังไม่ทันแต่งงานกับหญิงอื่น แต่เสิ่นม่านอวิ๋นก็คิดไปร้อยแปดพันเก้าแล้ว
เสิ่นม่านอวิ๋นเสริม “หากเจ้าเหงาหรือโดดเดี่ยวก็ต้องเลือกคนที่เสียพ่อแม่ไปแล้ว ส่วนด้านการบำเพ็ญนั้นไม่มีข้อกำหนดมากนัก เพราะหากการบำเพ็ญของสามีสูงเกินไปก็อาจจะไล่ตามไม่ทันก็ได้”
“ฮิฮิ…” หลินอวี้รู้สึกขบขันกับคำพูดของเสิ่นม่านอวิ๋น
ดวงตาของสวี่หยางเบิกกว้าง “ตามไม่ทัน?? เจ้าแน่ใจหรือ?”
เสิ่นม่านอวิ๋นยืดอกสวมสายคาดหน้าท้อง “เจ้ามีความสามารถเกี้ยวสวีจื่อรั่วได้”
สวี่หยาง “…”
เอาเถอะ จะแสร้งทำเป็นว่าไม่ได้พูดก็แล้วกัน
แต่เจ้ากำลังล้อข้าเล่นหรือ สวีจื่อรั่วคือคุณหนูใหญ่แห่งตระกูลสวี นางจะต้องสร้างรากฐานในภายภาคหน้าอย่างแน่นอน หรืออาจถึงขั้นตั้งเป้าสู่ขอบเขตจินตาน
มันอาจต้องใช้เวลาอีกหนึ่งถึงสองร้อยปี
“แต่ในเมื่อตระกูลสวีเป็นฝ่ายแนะนำตัวกับสหายเต๋าสวี่ มันก็คงไม่แตกต่างกันมากนัก”
เสิ่นม่านอวิ๋นลูบแท่งมหัศจรรย์ขณะเอ่ยคำอย่างเบื่อหน่าย
สวี่หยางเกิดอารมณ์เล็กน้อยหลังจากถูกลูบไล้ก่อนจะขึ้นคร่อมเสิ่นม่านอวิ๋นอีกครั้ง “ดูเหมือนว่านับวันเจ้าจะยิ่งอาจหาญจนถึงขั้นกล้ามายั่วยวนข้า”
เสิ่นม่านอวิ๋นส่งเสียงครวญครางอย่างแผ่วเบาขณะกอดคอของสวี่หยางเอาไว้ นางได้แต่ส่งเสียงอู้อี้จนไม่เป็นภาษา
หลินอวี้สั่นสะท้านอยู่ข้างกาย “โหดร้ายยิ่งนัก…”
……
เช้าวันต่อมา สวี่หยางพึงพอใจเป็นอย่างมากที่ได้รับคะแนนพิเศษ 60 แต้ม
เขาทำการเปิดจอระบบ “ตำราหล่อเลี้ยงกายา”
[วิชายุทธ์ขัดเกลากายา: ตำราหล่อเลี้ยงกายาขั้นสมบูรณ์: 0/400]
คะแนนพิเศษที่ต้องการมากถึง 400 แต้ม
“เพิ่มแต้ม!!”
[วิชายุทธ์ขัดเกลากายา: ตำราหล่อเลี้ยงกายาขั้นปรมาจารย์ (กระตุ้นคุณลักษณะ: ทนทานเท่าตัว)]
“นี่มัน…”
เมื่อเห็นรางวัลนี้ สวี่หยางก็ตะลึงงัน เพราะว่ามันยอดเยี่ยมเกินไป!
เขาอดไม่ได้ที่จะนึกถึงความทรงจำที่เกิดขึ้นหลังจากไปถึงขั้นปรมาจารย์
ในความทรงจำดังกล่าว เขาเดินตามชายแปลกหน้าเพื่อทำการบำเพ็ญบนภูเขา เนื่องจากอีกฝ่ายบอกว่าหากต้องการออกจากที่นี่จะต้องแข็งแกร่งและมีความอดทนเป็นเลิศ ดังนั้นตนเองจึงต้องทำการฝึกฝนร่างกาย
ด้วยเหตุนี้ เขาทำการฝึกฝนวันแล้ววันเล่า ปีแล้วปีเล่า เวลาผ่านสิบปี ยี่สิบปีจนกระทั่งถึงห้าสิบปี
เนื่องจากร่างกายได้รับการฝึกฝนให้มีความแข็งแกร่งหาใดเปรียบ ประกอบกับรากฐานที่คอยเกื้อหนุน ทำให้เขาเริ่มออกจากภูเขาลึก
เขาพบว่าความอดทนมากขึ้นจนสามารถวิ่งได้ในระยะทางที่ไกลกว่าแต่ก่อน
“นั่นคือประโยชน์ของทนทานเท่าตัวสินะ”
สวี่หยางปาดเหงื่อจากการพัฒนาพละกำลังในครั้งนี้
ทันใดนั้นเขาก็แย้มยิ้ม ทนทานเท่าตัวที่ว่าไม่เพียงแต่เพิ่มความอดทนเท่านั้น แต่ยังเป็นการเพิ่มช่วงเวลาการสร้างความสำราญอีกด้วย
“ภรรยาของข้าจะต้องมีความสุขแน่”
……
หลังจากเปิดประตูเพื่อเริ่มเปิดร้าน สวี่หยางก็ได้รู้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องเมื่อวานเพิ่ม
ตระกูลสวีอาจได้รับความช่วยเหลือจากผู้บำเพ็ญเซียนจากตระกูลหวงกับปรมาจารย์ค่ายกลขอบเขตจินตานจากภายนอกเพื่อติดตั้งค่ายกลอสนีบาตระดับสี่
เพื่อให้ค่ายกลทำงาน ตระกูลสวีกับตระกูลหวงจึงต้องเก็บเป็นความลับ ดังนั้นจำนวนคนที่ทราบเกี่ยวกับมันจึงมีไม่ถึงห้าคนด้วยซ้ำ
แม้แต่สวีจื่อรั่วก็ทราบเรื่องนี้ในนาทีสุดท้าย
เป็นเพราะคำเตือนนี้เองที่ทำให้ตระกูลโจวกับกลุ่มเจ็ดคาบสมุทรถูกหลอก ไม่เพียงแต่จะสูญเสียกำลังคนเป็นจำนวนมากเท่านั้น พวกเขายังสูญเสียผู้บำเพ็ญมนุษย์ขอบเขตจินตานไปอีกสองคนด้วย
ยิ่งกว่านั้น เพื่อให้ตระกูลโจวกับกลุ่มเจ็ดคาบสมุทรลงมือ ตระกูลสวีที่นำโดยสวีฉางหลงจึงออกเดินทางอย่างสง่างามไปยังทะเลสาบพานหยาง
หาไม่แล้ว หากเขายังอยู่ในเมืองฟาง ตระกูลโจวกับกลุ่มเจ็ดคาบสมุทรอาจไม่ลงมือเร็วขนาดนี้
ว่ากันว่าหลังจากโจวเฮ่าเทียนกลับไป อาการบาดเจ็บของเขาสาหัสจนอาจถึงขั้นขอบเขตถดถอย
หมายความว่าจักรพรรดิสัตว์ร้ายตระกูลโจวเหลือขอบเขตจินตานเพียงคนเดียว ซึ่งยอดฝีมือผู้นั้นก็ชราภาพ เกรงว่าคงไม่สามารถปกป้องตัวเองได้นาน
สองวันต่อมา ข่าวร้ายอีกข่าวมาจากจักรพรรดิสัตว์ร้ายตระกูลโจว
ตระกูลหลีแห่งโลกเซียนบุกทำลายที่มั่นของกลุ่มเจ็ดคาบสมุทร ทรัพย์สินทั้งหมดถูกปล้น
หลังจากทราบข่าว สวี่หยางก็ต้องถอนหายใจให้กับความโหดเหี้ยมของตระกูลหลีแห่งโลกเซียน
ในช่วงแรกที่สัตว์ร้ายตระกูลโจวกับกลุ่มเจ็ดคาบสมุทรอยู่ในสถานการณ์รุ่งเรืองถึงขีดสุด ตระกูลหลี่แห่งโลกเซียนซึ่งเป็นกึ่งพันธมิตรของตระกูลโจวถึงขั้นเตรียมพร้อมที่จะยั่วยุตระกูลสวี
คาดไม่ถึงว่าทันทีที่ความพ่ายแพ้ของสัตว์ร้ายตระกูลโจวปรากฏชัด ตระกูลหลี่แห่งโลกเซียนก็หันหอกมาโจมตีอดีตพันธมิตร
ตอนนี้กลุ่มเจ็ดคาบสมุทรถูกทำลายแล้ว
ข่าวนี้ทำให้ทุกคนในตระกูลสวีตื่นเต้นกันมาก
หัวหน้าตระกูลสวีอย่างสวีฉางหลงถึงขั้นประกาศด้วยตัวเองว่าเมืองฟางไม่ต้องจ่ายค่าเช่าเป็นเวลาสามเดือน แล้วสินค้าทั้งหมดของตระกูลสวีจะลดราคาถึงสองส่วน
ท่ามกลางบรรยากาศที่อบอุ่น เมืองสวีเจียฟางจึงมีชีวิตชีวา ผู้คนที่เคยจากไปก็กลับมาคนแล้วคนเล่า ส่วนร้านค้าของสวี่หยางก็ได้รับหินวิญญาณมากกว่าห้าร้อยก้อนต่อวัน ทำให้ภรรยาทั้งสองฉีกยิ้มจนถึงใบหู
ทว่าสวี่หยางกำลังคิดถึงเรื่องอื่น
สรุปก็คือในความเห็นของเขา การต่อสู้ยังไม่จบ นั่นเพราะตนเองสังเกตเห็นว่าคนจากตระกูลสวียังคงเข้ามาซื้อสมุนไพรกับยันต์ที่เมืองชั้นในเป็นจำนวนมาก เพื่อเตรียมที่จะออกจากเมือง
“ดูท่าว่าตระกูลสวีในตอนนี้กำลังจะเริ่มโจมตีสัตว์ร้ายตระกูลโจวสินะ” สวี่หยางสรุป
อีกสามวันต่อมา ศิษย์หนุ่มผู้หนึ่งมาเยี่ยมสวี่หยางผู้กำลังทำงานอยู่ในทุ่ง
“สามี สวีเหวินเผิงมาหา”


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ย่างก้าวสู่วิถีเซียน