ภายในคุกหลวง เซวียฉือถูกขังเดี่ยวอยู่ในที่แห่งหนึ่ง
ยามเห็นเฟิ่งเหยียนเฉิน เขาจึงคุกเข่าอ้อนวอน
“เหยียนเฉิน เจ้าช่วยข้าออกไปเถอะนะ! ได้โปรด ข้าสำนึกผิดแล้วจริง ๆ เห็นแก่มิตรภาพหลายปีที่ผ่านมาของเรา เจ้าปล่อยข้าออกไปได้หรือไม่?
“หาก…หากเจ้าช่วยข้าออกไปไม่ได้ ก็ช่วยจบชีวิตข้าไปเลย!
“ประหารแล่เนื้อมันน่ากลัวเกินไป ข้าไม่อยากถูกกระทำเช่นนั้น!”
คนที่เคยเหยียดหยามตนเอง ตอนนี้มาคุกเข่าขอร้องอ้อนวอน เดิมเฟิ่งเหยียนเฉินควรที่จะรู้สึกสะใจ แต่เขากลับรู้สึกโศกเศร้า
“เจ้าไม่อยากโดนประหารแล่เนื้อ ไม่อยากตาย แล้วพวกอาไฉอยากตายหรือไม่!
“พวกเขาบริสุทธิ์ถึงเพียงนั้น! หากปล่อยเจ้าไป ข้าจะทวงความยุติธรรมให้ดวงวิญญาณพวกเขาได้อย่างไร!
“เซวียฉือ เจ้าทำร้ายผู้คนที่เปรียบเสมือนครอบครัวเดียวกันกับเจ้าจนตาย เพื่อปีนป่ายขึ้นที่สูง มันคุ้มค่าแล้วหรือ?
“พวกเราเคยเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน
“ข้าคิดว่า เราจะเห็นอกเห็นใจกัน
“แต่ทำไมต้องทำเช่นนั้น ทำไม!”
เฟิ่งเหยียนเฉินจับประตูกรงขังไว้ นัยน์ตาแดงฉาน
เหล่าเพื่อนพ้องมากมาย ล้วนถูกเซวียฉือทำร้ายจนตาย
เขาต้องการคำตอบจริง ๆ
เซวียฉือชะงักนิ่ง เห็นได้ชัดว่าเฟิ่งเหยียนเฉินจะไม่มีทางช่วยตนเอง เขาจึงหัวเราะออกมาอย่างยอมรับชะตากรรม
“ฮ่า ๆ …ทำไมงั้นหรือ?
“เจ้ายังมีหน้ามาถามข้าอีกหรือว่าทำไม!
“เจ้าเกิดมาเป็นคุณชายผู้สูงศักดิ์ตระกูลร่ำรวย แต่ข้าเกิดมาในครอบครัวปุถุชนผู้แร้นแค้น สิ่งที่ข้าต้องพยายามดิ้นรนกระเสือกกระสนถึงจะได้นั้น ทว่าเจ้าเพียงก้มลงไปหยิบก็ได้มันมาแล้ว
“เจ้าคิดว่าเราจะเห็นอกเห็นใจกันงั้นหรือ?
“เหลวไหลสิ้นดี!
“ข้าเกลียดท่วงท่าเหมือนคนมีการศึกษาตลอดเวลาของเจ้า! ครั้งแรกที่ข้าไปเยี่ยมเจ้าที่จวนตระกูลเฟิ่ง พอเข้าไปในห้องหนังสือของเจ้า หินฝนหมึกที่เจ้ามีอยู่ มันเทียบเท่าเสบียงของครอบครัวข้าครึ่งปี!
“ทำไม? ทำไมเจ้าถึงมีทุกอย่างได้อย่างง่ายดาย แต่ข้ากลับทำได้แค่มองจากไกล ๆ!”
เฟิ่งเหยียนเฉินไม่คิดเลยว่า เหตุผลมันจะมีเพียงง่าย ๆ เท่านี้
ความอิจฉาริษยาทำให้คนเสียสติ
เซวียฉือพูดพร้อมคิดย้อนความทรงจำ
“ข้าคิดว่าตลอดชีวิตนี้คงต้องใช้ชีวิตอยู่ภายใต้รัศมีของเจ้า จนกระทั่งมีคนมาบอกข้า ว่าข้าสามารถแทนที่เจ้าได้ มีตำแหน่งถึงชานเจี้ยงในกองทัพ เพื่อเหยียบย่ำเจ้าไว้ใต้ฝ่าเท้า…”
“ใช่ใต้เท้าวังหรือไม่” เฟิ่งเหยียนเฉินถาม
“ใช่! เป็นเขา! เฟิ่งเหยียนเฉิน เจ้าดูเอาเถอะ ไม่ใช่มีเพียงข้าคนเดียวที่เกลียดเจ้า ข้ากับใต้เท้าวังต่างหากที่เห็นอกเห็นใจกัน!”
เฟิ่งเหยียนเฉินไล่ถามต่ออย่างเยือกเย็น
“เจ้าอยากทำลายข้าถึงเพียงนี้ คงรู้เรื่องการประลองในวันนี้ตั้งแต่แรกใช่หรือไม่ ที่ข้าได้รับบาดเจ็บที่แขนเมื่อวาน ก็เป็นแผนการของเจ้า มีจุดประสงค์เพื่อให้ข้าแพ้”
เซวียฉือหัวเราะออกมา
“เจ้าคิดว่าข้าโง่หรือไง? เจ้าถามอะไร ข้าต้องตอบอย่างนั้นหรือ?”
แต่เฟิ่งเหยียนฉือกลับมาบอกว่าอิจฉาเขางั้นหรือ?
ช่างน่าขันจริง ๆ…
หลังเวลาผ่านไปครึ่งชั่วยาม
เฟิ่งเหยียนเฉินเดินออกมาจากคุกหลวง ในมือถือใบรับคำสารภาพ นัยน์ตากลับมาเยือกเย็นดั่งเดิม
ตั้งแต่เล็กจนโต เขาแทบไม่เคยพูดปด
แต่วันนี้กลับพูดปดไปหลายเรื่อง
ณ ตำหนักหย่งเหอ
เหลียนซวงเดินเข้ามาจากข้างนอก นำใบรับคำสารภาพส่งให้เฟิ่งจิ่วเหยียนอย่างตื่นเต้น
“ฮองเฮา คุณชายใหญ่ทำตามที่ท่านบอก จนล่อถามออกมาได้จริง ๆ เพคะ! นี่คือสิ่งที่คุณชายใหญ่ส่งเข้ามาในวัง ให้ท่านได้อ่านผ่านตาก่อน! ยังบอกอีกว่าเซวียฉือผู้นั้นยอมออกมาชี้ตัวกุ้ยเฟยแล้วเพคะ!”
เฟิ่งจิ่วเหยียนกำลังนั่งอ่านตำราข้าง ๆ โต๊ะ ด้วยท่าทางสงบนิ่ง หลังจากได้กวาดตามองใบรับคำสารภาพ ก็ปิดตำราลงทันที
“เปลี่ยนอาภรณ์ เตรียมเข้าเฝ้าฝ่าบาท”
“ฮองเฮา รีบขนาดนี้เลยหรือเพคะ?”
เฟิ่งจิ่วเหยียนกล่าวเสียงเข้ม “หากยังไม่รีบ รอจนกุ้ยเฟยฟื้นขึ้นมา คงรักษาชีวิตของเซวียฉือไว้ไม่ได้”
เหลียนซวงแปลกใจ “ฮองเฮา หรือว่าที่กุ้ยเฟยสลบไป มิใช่อุบัติเหตุ?”
เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่ได้อธิบายอะไร เพียงย้อนถาม
“ไม่เช่นนั้นเจ้าคิดว่า เหตุใดนางถึงสลบไปนานขนาดนี้ล่ะ?”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย
ในกระเป๋ายังมีเหรียญเหลิออยู่ 220 เหรียญแต่ทำไมปลดล็อกไม่ได้คะ แก้ไขให้หน่อยค่ะ...
ในกระเป๋ายังมีเหรียญเหลืออยู่ 220 เหรียญแต่ปลดล็อกไม่ได้ แก้ไขให้หน่อยค่ะ...
เติมเหรียญไปแล้ว แต่ปลดล็อกไม่ได้ มีข้อความว่าเกิดข้อผิดพลาด กรุณาลองใหม่อีกครั้ง...
เติมเหรีญญไป 500 เหรียญ เริ่มกดซื่อตอน จาก 223 มาถึงตอน 227 = 5 ตอน 40 เหรัยญ แต่ตอนนี้มีเหรียญคงเหลือ 444 เหรียญ และเปิดอ่านย้อนหลังไม่ได้ ช่วยแก้ไขด้วยค่ะ...
สนุกดี แต่ใช้บัตร์เติมเงินเอไอเอสไม่ได้ ขอบคุที่ให้อ่าน...